คือเราโดนโกงเงิน ยอด 100,000+ บาท แต่เราแทบจะไม่มีหลักฐานอะไรเลย ในกรณีนี้เราทำอะไรได้บ้างคะ คือเรื่องค่อนข้างยาว เขาเป็นเจ้าของออแกไนซ์ แล้วก็เป็นแฟนเก่าเราด้วย เราเลิกกันไปสักพักใหญ่ๆ แต่เขาก็ยังมีส่งงานฟรีแลนซ์มาให้เราทำอยู่บ้าง จนมาปลายปี 66 เขาก็ยังส่งงานมาให้เราเหมือนเดิม แล้วรอบนี้เขาต้องการให้เราหาคนไปทำงานให้ด้วยประมาน 29 คน แต่เป็นงานที่มีมัดจำ เพราะเป็นงานที่เกี่ยวกับตัวเงิน+เป็นงานที่ต้องตัดชุดใส่ มัดจำคนละ 2000 เพื่อกันคนแคนงาน โดยส่วนตัวไม่เคยรับงานมีมัดจำเลยสักครั้ง แต่กับงานนี้ที่ออแกไนซ์นี้เป็นคนส่งให้ เราตัดสินใจรับเพราะ 1 เป็นคนที่ถือว่าก็ใกล้ตัว และ 2 เราเคยรับงานนี้จากเขามาแล้ว 3-4 ครั้ง แล้วก็เสียมัดจำทุกครั้ง แต่พอจบงานก็ได้เงินคืนทันที เราเลยรับกับเขาและหาคนทำงานนี้มาด้วย เขาบอกให้เราจัดการเองเลย โดยให้คนที่เราหามาโอนเงินมัดจำเข้าที่เรา และเราค่อยรวบยอดทั้งหมดโอนให้เขา ซึ่งพอทุกคนโอนมาเราก็จะโอนให้เขาทันที แต่เขาบอกว่าพรุ่งนี้มีคุยงาน อาจมีเปลี่ยนแผนนิดหน่อย เขาจะมารับเราเพื่อไปคุยงานและวางมัดจำงานที่นั่น เราก็ตกลง เราไปนั่งคุยงานนกันที่ร้านกาแฟร้านนึง โดยมีเขา เรา แล้วก็ผู้หญิงคนนึงที่อ้างว่าตัวเองเป็นลูกค้าที่มาจ้างออแกไนซ์นี้อีกที ซึ่งอันนี้เราไม่รู้ว่าจริงหรือหลอก พอมาถึงตอนต้องจ่ายมัดจำ ผญ คนนี้บอกเราว่า เขารับได้แค่เงินสดเท่านั้น อ้างว่ารับเงินโอนไม่ได้บลาๆ อะเราก็ตะหงิดใจแต่ก็ไม่อะไรเท่าไหร่ ผู้ชายที่เป็นแฟนเก่าเราเลยบอกให้เราไปกดมาเพื่อจ่ายให้เขา เราก็ยังยืนยันที่จะโอนให้ผู้ชาย แล้วให้ผู้ชายเป็นคนไปกด จนสุดท้ายก็ต้องเป็นเราที่ต้องไปกด พอหลังจากวันที่จ่าย งานยังไม่ได้เริ่มนะคะ จ่ายไปประมานวันที่ 25 ธค งส่วนงานวันที่ 4-7 มค พอประมานวันที่ 29 ธค เขาก็ส่งงานมาให้อีก ซึ่งเป็นงานที่ต้องเสียมัดจำและเราต้องหาคนอีกเหมือนเดิม รอบนี้ 30 คน งานวันที่ 25-29 ได้คนเดิมที่จะทำวันที่ 4-7 ที่จะถึง แล้วก็มีคนใหม่เสริมมา แต่หลายคนก็กังวลเพราะว่าถ้าจ่ายอีก 2000 มันก้เป็นเงินค่อนข้างเยอะ เราก็พอเข้าใจ เราเลยเป็นคนออกให้คนอื่น ยอดที่เราออกไปคือ 48000 ยังไม่รวมของตัวเอง แล้วก็มีบางคนที่ออกเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่ถึงใจขนาดนั้น รู้แค่ว่าเราต้องการงานนี้ เราต้องหาคนได้ เพราะเราได้ค่าหัวจากการหาคนงานนี้ด้วยเหมือนกัน *รอบนี้มีสลิปการโอน/ พอวันที่ 3 วันก่อนเริ่มงาน งานเราโดนเลื่อนออกไปจาก 4-7 เป็น 14-18 เขาให้เหตุผลว่า ดีลพื้นที่จัดงานไม่ได้ ก็งงแหละดีลพื้นที่อะไรก่อนวันงานเริ่มแค่วันเดียว แต่ก็ยังเข้าข้างตัวเอง ว่าเขาไม่ทำเราแบบนั้นหรอก ต้องบอกก่อนนะคะว่า ความสัมพันของเรากับผู้ชายคนนี้ เราเลือกที่จะจบแล้ว แต่ตัวผู้ชายยังขอโอกาส ซึ่งตัวเราเองก็ชัดเจนตั้งแต่ก่อนกลับมารับงานกับเขาหลังจากเลิกกันไปแล้ว เราบอกว่าเราสามารถทำงานกับเขาได้ แต่ทำได้แค่ในฐานะลูกจ้างกับนายจ้างเท่านั้น ส่วนเขาจะคิดยังไงอันนี้เราไม่รู้ค่ะ พอวันที่ 11 เราได้มีการคุยกันอีกครั้งในส่วนของเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการคุยแนวทะเลาะรุนแรงแล้วแหละ คำสุดท้ายที่เขาพูดกับเราในวันนั้น คือเขาบอกเราว่า แล้วจะต้องเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ จังหวะนั้นก็เริ่มคิดแล้วแหละ ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ แล้วก็มีจริงๆ เย็นวันที่ 12 เขาโทรมาขอยกเลิกคิวงานเราทั้งหมด แล้วไม่คืนเงินมัดจำ ตอนนั้นคือทำอะไรไม่ถูกแล้ว งานก็ใกล้จะเริ่ม สุดท้ายก็ทำไรไม่ได้ ก็เลยพูดไปตรงๆ คนเข้าใจก็มี คนไม่เข้าใจก็เยอะ เราทยอยใช้คนอื่นมาเรื่อยๆ แต่เราแทบจะไม่มีหลักฐานอะไรเลย เขาจะโทรคุยกับเราอย่างเดียว แทบจะไม่เคยทิ้งหลักฐานอะไรไว้เลยย จนถึงปัจจุบัน เราเริ่มไม่ไหวแล้วเพราะรายจ่ายส่วนตัวก็เยอะมากๆ  ยังต้องรับผิดชอบเรื่องนี้อีก ระยะเวลาที่ผ่านมาเราได้มีการติดต่อพูดคุยกับผู้ชายคนนั้นอยู่บ้างเพื่อเจรจา แต่ไม่เป็นผล ล่าสุดเราเลยพูดไปว่า ยังไงเราก็จะฟ้อง หลักฐานจะเยอะจะน้อยก็จะฟ้อง เขาตอบกลับเรามาว่า เขารออยู่ แล้วมาดูกันว่าระหว่างเรากับเขาใครจะพังได้มากกว่ากัน เราไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรถ้าเราฟ้อง เราพึ่งอายุ 24 เอง ส่วนผู้ชาย 31 มันอึดอัดที่เราไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไง เราไม่อยากรับผิดชอบอะไรแล้ว แต่มันก็ต้องรับ คนอื่นก็เดือดร้อนเพราะเราเหมือนกัน  ใครพอจะช่วยให้คำตอบได้มั่งไหมคะว่าควรทำยังไงต่อดี ไม่ไหวแล้ว