ต้องเล่าก่อนว่าเราเป็นนักเรียนกีฬานอนหอพึ่งย้ายเข้ามาใหม่ช่วงเมษา พอดีน้องก็เป็นนักกีฬาค่ะน้องเป็นคนทำไรไม่คิดอยากพูดไรก็พูดชอบวีนเหวี่ยง จนวันนึงเราได้เผลอไปถามกับเพื่อนในกลุ่มน้องว่าเพื่อนน้องอีกคนดัดฟันหรอก็ว่าทำไมหน้าแปลกไปแต่เพื่อนคนนั้นคงเข้าใจความหมายผิดว่า(ทำไมดัดฟันแล้วหน้าแปลก)จนเราพึ่งไปเห็นโน๊ตในอินสตาแกรมของเพื่อนคนที่ดัดฟันไปโน๊ตว่า*ไม่มีใครหน้าแปลกเท่ามึ-แล้วจ้า*เราก็ตกใจว่าอ่าวทำไมเป็นแบบนั้น แต่พอซ้อมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเราก็ไม่ได้สุงสิงหรือคุยกับเพื่อนแก๊งนั้นที่น้องคนนี้ก็อยู่
จนเมื่อวาน เราลงสตอรี่ในไอจีเป็นคลิปตัวเองลิปซิงค์เพลงในแอพตต. ก็มีรุ่นน้องที่เราสนิทคนนึงได้ทักข้อความมาว่าเห็นสตอรี่ในไอจีส่วนตัวของน้องคนนั้นรึยัง ปรากฏว่าน้องถ่ายตัวเองโดยถือโทรศัพท์ที่เปิดคลิปเราเเละลิปซิงค์ตามล้อเลียนโดยจบคลิปได้พูดประโยคที่ว่า *ไม่มีใครแปลกเท่าหน้าแล้ว* แล้วพูดต่อว่า *อุบา-* เราโมโหมากค่ะว่าเห้ยถ้าไม่ชอบหรือเคืองอะไรก็พูดสิ ถามตรงๆก็ได้จะได้ไม่ผิดใจกันแต่มันต้องทำขนาดนี้เลยหรอ ตอนซ้อมเราเด็กใหม่ก็อาจจะมีไม่รู้จังหวะว่าเพื่อนเล่นยังไงหรือซ้อมยังไงอาจจะมั่วไปบ้างเล่นไม่ถูกใจน้องก็หงุดใส่ตลอดค่ะแต่พอเลิกไม่ได้มีอะไรกันขอโทษกันตลอด แต่พอมีเรื่องแบบนี้ทำให้เราตัดสินใจไม่ถูกว่าควรอะยังไงกับน้องคนนี้ดี เพราะน้องนิสัยแบบนี้ไม่เลิกจริงๆยกตัวอย่างคือมีปัญหากับเด็กในหอจนน้องคนนั้นต้องย้ายออก
อยากให้น้องได้รับบทเรียนบ้างค่ะ ไม่อยากถึงขั้นบอกโค้ชที่ดูแล เพราะน้องที่สนิททักมาบอกจะมีปัญหาน้องต้องอยู่อีกนานค่ะ(น้องอยู่ม.2) ถึงบอกโค้ชสรุปจบเเล้วน้องก็จะแค่ขอโทษแล้วก็แซะเราไปเรื่อยๆ เราอยากให้น้องได้บทเรียนที่จะไม่ทำนิสัยแบบนี้ไปอีกค่ะ
เราโดนรุ่นน้องนำคลิปวิดิโอตัวเราเองไปอัดถ่ายล้อเลียนควรทำไงดีคะเเจ้งความได้มั้ย
จนเมื่อวาน เราลงสตอรี่ในไอจีเป็นคลิปตัวเองลิปซิงค์เพลงในแอพตต. ก็มีรุ่นน้องที่เราสนิทคนนึงได้ทักข้อความมาว่าเห็นสตอรี่ในไอจีส่วนตัวของน้องคนนั้นรึยัง ปรากฏว่าน้องถ่ายตัวเองโดยถือโทรศัพท์ที่เปิดคลิปเราเเละลิปซิงค์ตามล้อเลียนโดยจบคลิปได้พูดประโยคที่ว่า *ไม่มีใครแปลกเท่าหน้าแล้ว* แล้วพูดต่อว่า *อุบา-* เราโมโหมากค่ะว่าเห้ยถ้าไม่ชอบหรือเคืองอะไรก็พูดสิ ถามตรงๆก็ได้จะได้ไม่ผิดใจกันแต่มันต้องทำขนาดนี้เลยหรอ ตอนซ้อมเราเด็กใหม่ก็อาจจะมีไม่รู้จังหวะว่าเพื่อนเล่นยังไงหรือซ้อมยังไงอาจจะมั่วไปบ้างเล่นไม่ถูกใจน้องก็หงุดใส่ตลอดค่ะแต่พอเลิกไม่ได้มีอะไรกันขอโทษกันตลอด แต่พอมีเรื่องแบบนี้ทำให้เราตัดสินใจไม่ถูกว่าควรอะยังไงกับน้องคนนี้ดี เพราะน้องนิสัยแบบนี้ไม่เลิกจริงๆยกตัวอย่างคือมีปัญหากับเด็กในหอจนน้องคนนั้นต้องย้ายออก
อยากให้น้องได้รับบทเรียนบ้างค่ะ ไม่อยากถึงขั้นบอกโค้ชที่ดูแล เพราะน้องที่สนิททักมาบอกจะมีปัญหาน้องต้องอยู่อีกนานค่ะ(น้องอยู่ม.2) ถึงบอกโค้ชสรุปจบเเล้วน้องก็จะแค่ขอโทษแล้วก็แซะเราไปเรื่อยๆ เราอยากให้น้องได้บทเรียนที่จะไม่ทำนิสัยแบบนี้ไปอีกค่ะ