เคยเสียเกือบทุกอย่างเพราะเสน่หามั้ยคะ

สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องมาเล่าเป็นเรื่องที่สร้างบาดแผลลึกมากๆระดับนึงให้กับเรา และยังคงฝังใจ ให้อภัยตัวเองไม่ได้อยู่ทุกวันนี้ค่ะ 

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน เราเรียนอยู่ใกล้จะจบแล้วค่ะ มีน้องคนนึงมาชอบ เราเองตอนแรกๆก็ไม่ได้สนใจ เพราะเราสนุกกับงาน การเรียนก็ถือว่าดีพอใช้ได้เลย สนุกกับสังคมตรงนั้น รักเพื่อนๆที่อยู่ด้วยกันในตอนนั้น แอบรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโชคดีคนหนึ่งเลยค่ะ แต่น้องเขาก็เข้าหาเราทางเพื่อนๆเราหลายคนมากเลย เราก็เลยยอมใจอ่อน จากที่น้องเขาตามมาเกือบจะปีนึงได้ค่ะ เราเริ่มสนใจ ทั้งๆที่ตอนนั้นก็คิดอยู่แล้วนะคะ ว่าจะมีจริงๆเหรอคนที่ดีๆ คิดจริงจังแบบนี้ (ที่ไม่ยอมสนใจ เพราะอยากรู้ด้วยค่ะว่าจะมาเล่นๆรึเปล่า เพราะเราเองก็ไม่ได้อยากเสียเวลากับอะไรให้มันสูญเปล่า) ลองคุย แต่ตอนเจอหน้ากันก็ไม่ค่อยทักทายกันหรอกนะคะ อาจจะด้วยเพราะเขาเขิน เราก็ยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไร พอเราเริ่มสนใจ ก็มีเพื่อนในห้อง มาเป็นแม่สื่อให้ (ตอนนั้นไม่เข้าใจค่ะ ว่าทำไมจู่ๆมาช่วย 2 คนนั้นก็ไม่ได้สนิทด้วยนิ จู่ๆเข้ามาทำไม ตอนนั้นเพื่อนๆไม่ค่อยโอเคกับคนที่เป็นแม่สื่อคนนี้เท่าไรเลยค่ะ ตอนนั้นเราไม่เข้าใจจริงๆนะคะว่าทำไม แต่ตอนนี้ถึงบางอ้อแล้วค่ะ) อยู่สักพักนึง ก็เริ่มคุยเป็นจริงเป็นจัง เพื่อนก็สนับสนุนนะคะ เพราะเห็นว่าน้องเขาก็นิสัยดี ไม่ได้มีประวัติเลวร้ายอะไร จนเราตกลงคบกับเป็นจริงเป็นจังค่ะ ขณะที่เขาขอคบ เราก็ถามตรงนั้นเลยค่ะว่าเรามีสิ่งที่เราชอบอยู่ เธอจะห้ามเรามั้ย เราก็บอกไปนะคะว่าเราชอบอะไร บอกชัดแล้วด้วย เขาก็บอกเขาไม่ห้าม เพราะเป็นความสุขของเรา เราก็เลยตกลง หลังจากนั้นตอนแรกๆ ประมาณเกือบเดือนแรกๆทุกอย่ายังดูหอมหวานดีนะคะ ประมาณใกล้ครบเดือน เขาก็จะเริ่มงอแง ว่าเราเอาแต่ทำแต่กิจกรรม ไม่ค่อยมาหาเขา เราก็แบบเริ่มตีตัวออกห่างทีละนิด มีครั้งนึงเราต้องแต่งตัวที่ดูสั้นๆไปหน่อย (ฟีลถือป้ายค่ะ) แต่เราไม่ได้ซีเรียสนะคะ (เราอยากบอกเขาว่าเราชอบกิจกรรมที่เราทำอยู่มากๆ) เขาก็บอกเราว่าโอเค แล้วเขาก็มาดูเราด้วยค่ะ มากับเพื่อนเขา ตอนเสร็จงานเขาก็ชมเราตามประสา เขามาบอกด้วยค่ะว่าเพื่อนเขาบอกว่า 'อะโชคดี คนอื่นได้แค่มอง' (ตอนนั้นคนเยอะนะคะ) พอเรากลับถึงบ้าน โทรคุยกับเขา เหมือนฟิล์มคนละม้วนกันเลยค่ะ เขาบอกว่าเราเราบอกว่าจะใส่สั้นนิดนึง ใจเขาหล่น เพื่อนเขาถึงกับต้องเรียกสะกิด พอไปดูจริงๆมันไม่นิด แล้วก็พูดเชิงประมาณไม่ชอบครูที่ปรึกษากิจกรรมนี้ ที่บังคับให้ใส่ (ตอนนั้นเราพาอีกตัวไปค่ะ มันยาว แต่สีมันอาจจะไม่ได้ ครูเลยให้เปลี่ยนค่ะ) เขาเป็คนที่พูดให้เรารู้สึกผิดได้มากๆถึงขีดสุด จะบอกว่าไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองทำผิดร้ายแรงอะไรถึงขึ้นนี้ เหมือนเราไปทำเรื่องบาปหนามามาก แล้วเขาก็ร้องไห้ เราก็ขอโทษไป เขาก็ยังยืนยันว่าไม่ชอบกิจกรรมที่เราทำอยู่นี้ แต่เหมือนเราโดนมนต์สะกดหรืออะไรก็ไม่รู้ เลยค่ะ ทั้งๆที่เราชอบกิจกรรมนี้ รักสังคม รักเพื่อนๆที่อยู่ด้วยกันมาก กลับทำให้เขาได้ โดยแอบรู้สึกผิดอยู่ในใจได้แต่เอ๊ะ?

พอเราเริ่มตีตัวห่างมาได้สักพัก(เราเป็นคนหลักๆนะคะ) เราไม่เข้าใจเลยค่ะว่าเราจะเป็นได้มาขนาดนี้ได้ยังไง เราเริ่มห่างจากทุกคน เพียงเพื่อรักษาเขาไว้ นับวันเขายิ่งขอให้เราออกจากกิจกรรมนั้น เพียงเพราะเขาไม่ชอบ เราไม่เข้าใจตัวเองเลยค่ะ ทั้งๆที่เรารักมากๆ เพื่อนๆเราก็ดีทั้งนั้น แต่เรากลับทำให้ได้ มีอยู่วันนึง เรากลับเขากิจกรรม เขาไม่คุยกับเรา เราพยายามตามตื้อ ว่าเป็นอะไร เราจับแขนเขา แต่เขากลับสบัดมือออก แล้วหันมาเหลือบด้วยหางตา สลับขึ้นบน ในคนหมู่มาก เราเริ่มไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนเขาเป็นคนเอาแต่ใจคนนึง แต่ตอนนั้นเรากลับคิดมาที่เราเองค่ะว่าเราต้อทำอะไรผิดไปแน่ๆ เรายอมออกจากกิจกรรมตรงนั้นกลางคัน แล้วความสัมพันธ์กบเพื่อนๆในนั้นก็เริ่มพังไม่เป็นท่า ไม่มีชิ้นดี เราพยายามทักไป โทรไป เขาก็ไม่รับ เราคิดอน่างเดียวว่าเราทำอะไรผิด เราเสียใจร้องไห้เหมือนตัวเองทำผิดร้ายแรง จนสุดท้ายก็คืนดีกัน แลกกับว่าเราไม่เข้าในกิจกรรมนั้นอีก เราก็ตกลง(ทำลงไปได้ไง) (นึกย้อนกับไปทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ถ้าเขาทำให้เรารู้สึกผิดได้มาก เราจะเสียใจ ร้องไห้อยู่นานมากเขาก็ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน เรากับเราไม่มีตัวตน เพื่อนของเขาถามว่าเราเป็นไง เขาก็ตอบสบายดี (ตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด เขาพยายามไม่ให้เราเข้าอยู่กับเพื่อนที่ทำกิจกรรมนั้นๆ ด้วยการให้เราโทรตลอดเวลา ง้อเขาเป็นอะไรที่ยากมากๆเลยล่ะค่ะ จนเพื่อนฝากเพื่อนมาอีกทีว่าทำไมเราเก็บตัว เรากัเพื่อนเริ่มไม่ลงรอยกัน เหมือนเราต้องอยู่ในความประพฤติของเขาตลอด มีครั้งนึง เหมือนกับโทรกับเขาแล้วขาดช่วงการราบงานไปแค่นิดเดียว หรือหันไปคุยกับเพื่อนแล้วจำไม่ได้ เขาตัดสายเราทิ้งแล้วก็ไปสนุกกับเพื่อน เราโทรเป็นร้อยสายก็ไม่รับ ทักไปก็ไม่อ่าน เขาตอบมาไม่กี่คำ จากคำพูดนั้นทำให้เรารู้สึกเป็นผู้หญิงที่โคตรแย่คนหนึ่งเลยค่ะ ได้แค่เพื่อนสนิทนั่งปลอบข้างๆ น้ำตาไหลพรากจนถึงบ้าน เราก็ไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟัง แต่ก็รู้ว่าทะเลาะกัน)) 

ความสัมพันธ์กับเพื่อนไม่ต้องถามถึงเลยค่ะ มีเพื่อนที่ไม่พอใจอยู่แล้ว ฟีลตอนนั้นเหมือนเพื่อนไม่คบคนนึงเลยค่ะ เพื่อนเขาให้เพื่อนสนิทมาบอกค่ะว่าเราเปลี่ยนไปเยอะ แค่ไม่กี่เดือนจะบอกว่าตอนนั้นเหมือนเราไม่รับฟังความเห็นต่างอะไรทั้งสิ้น ทั้งๆที่อยู่กับเพื่อนมากกว่าเขาคนนั้น แต่กลับไม่เชื่อ (จะบอกว่าเพื่อนเราดีมากเลยนะคะ สุดๆ มีคนที่ไม่คุยแล้ว กันคนที่พยายามดึงกลับมา)(มีหมอดูเคยเตือนค่ะ ว่าถ้าไม่มีแฟนจะได้ดีเพราะมีคนคุ้มครอง แต่ถ้ามีแฟนจะตกต่ำถึงกรรมกร ถ้ามีลูกพ้นเลย มาในรูปแบบเจ้ากรรมนายเวร แต่ตอนนั้นเราก็ไม่เชื่อค่ะ เพราะเพื่อนเราบอกว่าเขาดี(เราไม่เข้าสังคมไม่ค่อยเป็นค่ะ)เป็นไงล่ะ เป๊ะ!) เราเริ่มรับรู้หรือระแวงไปเองไม่รู้ว่า ไม่มีคนกล้าคุยด้วยแล้วในกิจกรรมนั้น เพราะมีน้องในกิจกรรมที่มองเราด้วยสายตาแปลกๆ ไม่ใช่คนเดียวค่ะ ถึงขึ้นลุกหนีพอเห็นหน้า สุดท้ายตอนวันจบ มีเพื่อนคนนึงที่ดีเสมอมา เขาไม่รับฟังความข้างเดียว มีช่วงนึงที่เราเหนื่อยมากๆอยากให้งานออกมาดี ในตอนนั้นมีแค่เพื่อนคนนี้ที่ไม่ได้สนิทกันมากเท่าไรในตอนนั้น ที่ยังเข้าใจและเชื่อใจอยู่เต็มเปี่ยม มันทำให้เราใจฟู ความเสมอต้นเสมอปลายไม่ว่าเราจะเจอเหตุการณ์อะไรมานี้ เราเข้าไปกอดเขา เราอยากขอบคุณเขามากๆ เขาทำให้รู้สึกยังมีช่องว่างให้หายใจอยู่ได้ ประมาณตอนใกล้กลับ เราคิดว่าเพื่อนในกิจกรรมน่าจะไม่ชอบ ไม่โอเคกับเราไปหมดแล้ว มีเพื่อนคนนึง ยังคงฝากของมาให้เราอยู่ดี มันทำให้เรารู้สึกผิดมากๆ แล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเราเอง ที่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ 

ยาวจนเราจบ ตามท้องเรื่อง อย่างที่คิด เขาเหมือนเป็นโรคจิตที่ชอบควบคุมหรือยังไงก็ไม่รู้ เขาอยากอยู่ในทุกช่วงเวลาของเรา เขาโทร แต่พอตอนของเราเขากลับโทรคุยในขณะที่เขาอยู่แต่ในห้อง เหมือนของเราเขาต้องรู้ทุกอย่างในชีวิต มีเหตุการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์กับเพื่อนเราอาจจะดีขึ้น เขาก็ขัดขวางไว้ แล้วยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ออกจากกลุ่มที่มีเพื่อนๆอยู่ เราจบกัน (เหมือนตอนนั้นเราเสพติดความtoxicนี้เลยค่ะ) เราพยายามขอเขาอยู่นาน เราทะเลาะกันจนไม่คุยกัน เขาเหมือนจะเอาให้ได้ แล้วเขาก็เอาจนได้ เราสูญเสียความสัมพันธ์กับเพื่อน และน้องๆนั้น ออกทุกกลุ่ม ทั้งๆที่มันกำลังจะกลับมาดีขึ้น เขาเป็นคนที่พูดให้คนคล้อยตามและพูดให้คนรู้สึกผิดได้มากที่สุดที่เคยเจอแล้วล่ะค่ะ 

พอเราเปิดเทอมใหม่ เขาก็ขัดขวางไม่ให้เราดีกับเพื่อนเราอีก ด้วยการโทร เหมือนโรคจิต คิดแล้วก็ใจสั่นทั้งโกรธ ห้ามไม่ให้เรามีเพื่อนผช. เขาพูดกับเราได้เจ็บแสบมาก เมื่อเราบอกว่าใครจะกำหนดได้ว่ามีเพื่อนได้แค่ผญ. เขาบอกกับเราว่า คำว่าเพื่อนของเธอมันสั้นจังนะ ยังก้องทั้งคำพูดทั้งน้ำเสียงยังจำได้ดีเลยค่ะ ถามว่าเพื่อนคนนั้นได้ปรับความเข้าใจกันมั้ยก็ ไม่ค่ะ ไม่ดีขึ้นเลย

จนสุดท้ายเราเริ่มทนไม่ไหว เราเลยทำนิสัยtoxic ใส่ทุกอย่างที่เขาเคยทำกับเรา เรารู้สึกว่าคนแบบนี้ พูดไปถ้าฟังก็น่าจะฟังไปนานแล้ว ทั้งจำกัดเพื่อน แต่ควบคุมเขานี้ไม่ได้นะคะ ปวดหัวแทน พอหลังๆเขาเริ่มไม่สนใจ ไม่ใส่ใจวันครบรอบ บอกจะทำให้แต่ไม่ทำ คำพูดพลิกลิ้น (เราอยู่ห่างกันมากแล้วนะคะตอนนี้) จนเขาได้เพื่อนผญ. ใหม่ เราก็เลยทำเหมือนที่เขาเคยทำ บอกตรงๆว่าเหนื่อยค่ะ แต่ก็ทนไม่ไหวแล้วสุดๆแล้วเหมือนกัน เราลองขอให้เขาออกจากกลุ่มดูบ้าง เขาทำว่าเขาออกค่ะ แต่เขาจัดเก็บแทน แล้วพูดให้รู้สึกผิด แต่ไม่ เขาจะมากกว่านี้ไปไม่ได้ สุดท้ายเขาก็เลือกผญ.คนนั้น สวยนะคะว่าไม่ได้ เลิกกันเพราะ เราไม่มีเวลาบ้างแหละ กดดันบ้างแหละ ยังงงอยู่เลยกดดดันอะไร กดดันกับนิสัยตัวเองรึเปล่า หลังจากบอกเลิกกัน เราเสียใจนะคะทั้งโกรธด้วย พอนึกถึงเรื่อที่เสียไป ทั้งเพื่อน ความสัมพันธ์ดี เงิน(พอสมควรอยู่ค่ะ แต่เขาจะคืนเราไม่เอากลับแล้ว ถือว่าเป็นค่าที่ขออย่ากลับมาเจอกันอีก) อนาคตที่ดีๆเคยแพลนไว้ (เขาบอกชอบคนเรียนอันนี้ๆ เราติดพอดีค่ะ เลือกให้เขา (ทำอะไรลงไปปปปป) เราชอบอีกอย่าง แต่เขาบอกมันไม่มั่นคง เชิงไม่สนับสนุนนั้นแหละค่ะ หรือสนับสนุนแบบไม่เต็มใจแบบออกออาการ) พีคกว่านี้เลิกกันได้ 3 วัน เขาแพลนจีบคนใหม่ต่อเลย ขอติดตามเขาไป ทักไปจีบ ให้ขนมเรียบร้อย สเต็บเดิม บอกเราว่าน้องเขามาจีบก่อน บีบจนต้องยอมรับว่าไปจีบก่อนเอง ที่ผ่านมาเรื่องที่บอกว่ายอมรับที่เราชอบได้ ก็ไม่จริง เราก็ถือว่าชาตินี้ขอให้จบกันแค่นี้เราไม่ติดอะไรกันอีก ถ้าชาติหน้าต้องเกิดอีก อย่าได้เจอกันเลย ที่เคยทำอะไรไว้ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น แค่อย่ามาอยู่ในวงจรชีวิตกันอีกเลย อย่ามาเจอ ไม่ต้องมา 

***ที่มาเล่าก็อยากจะมาเป็น อุทาหรณ์ ให้กับคนอื่นๆ อย่าหน้ามืดตามัว อย่ารอให้อะไรดีขึ้น อะไรที่ไม่ใช่คือไม่ใช่ อย่าหลอกตัวเอง เชื่อความรู้สึกตัวเองนะรักตัวเองให้มากๆ เราที่อยู่กับความรู้สึกผิดกับเรื่องทั้งหมดนี้ เราเป็นคนทำเอง ทุกการตัดสินใจเป็นของเราทั้งหมด ยังดีที่เหลือคนในครอบครัว ญาติ เพื่อนสนิท  อย่ารีบร้อน ที่มาเล่าเพราะช่วงนี้นึกถึงทีไรก็ร้องไห้ ใจสั่นทุกที ทั้งความรู้สึกก็ตีปนไป หวังว่าจะเบาใจลงไปบ้าง อาการใจสั่น แวบแรกตื่นตระหนกทันทีที่นึกถึงความรู้สึกผิดที่กระทำตัวเอง เป็นมาสักพักใหญ่แล้ว รู้สึกติดอยู่กับอดีต ทั้งที่มีเพื่อนดีๆบอกให้เอาอดีตมาเรียนรู้ ยอมรับ และเดินหน้าต่อ(รักเพื่อนคนนี้จัง)***

ขอบคุณที่สละเวลามานะคะ

ปล.รบกวนขอวิธีรักษาอาการที่เป็นอยู่หน่อยค่ะ พยายามไม่นึกถึงแต่ก็ฝังใจ แล้วก็รู้สึกผิดเสมอมา แต่ก็คิดว่าสมควรแล้วกับการกระทำในตอนนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่