ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการย้ายงาน หน่อยครับ

จริงจังนะครับ ขอคำแนะนำ ในหลายๆแง่มุม ทั้งระยะสั้นและระยาว จากหลายๆท่าน ที่มีประสบการณ์การทำงาน และสามารถชี้แนะได้ ในกลุ่มนี้หน่อยครับ เพราะคิดหนักมากๆว่าควรเลือกอย่างไรดี

โพสนี้อาจจะยาวหน่อยนะครับ ใครว่างพอมีเวลาอยากให้ช่วยรบกวนลองเข้ามาอ่าน และให้คำแนะนำจากประสบการณ์ของแต่ละท่านหน่อยนะครับ

ผมมีแพลนจะย้ายงานครับ ระหว่าง 2 บริษัท ดังต่อไปนี้ ที่เป็นกลุ่มสินค้าที่แตกต่างกัน ฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน และมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

โดยทั้ง 2 บริษัทเป็นตำแหน่งเดียวกัน คือ Sale Engineer อยากให้พิจารณาในด้านรายได้และค่าคอมมิชชั่นและการเติบโต อย่างละเอียดครับ

บริษัท A

1. ฐานเงินเดือน 22.5 K ทั้งก่อนโปรและหลังโปร , ค่าเสื่อมรถยนต์คงที่ทุกเดือน 8,000 k , ค่าน้ำมันค่าโรงแรมค่าเลี้ยงลูกค้าค่าทางด่วน เบิกตามความจริง , ค่าคอมมิชชั่น 2.5-3 % จากยอดขาย , Bonus รายปี เฉลี่ย 1-2 เดือน ตามยอดขายรายปี
2. เป็นบริษัทสัญชาติยุโรป เป็น Distributor ของกลุ่มสินค้า Predictive Maintenance ทั้งทางด้าน Mechanic เช่น Sensor Vibration , Electric เช่น Generator ในโรงไฟฟ้า , Instrument เช่น Calibration Tool และ Digital พวก Software ระบบจัดการในโรงงานและ Software วิเคราะห์ประสิทธิภาพของเครื่องจักร ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์สากลทางฝั่งยุโรป เป็นแบรนด์สากลที่โด่งดังทุกคนต้องรู้จัก ที่บริษัทถืออยู่ในมือ ฐานลูกค้าเราค่อนข้างหลากหลาย Business ซึ่งมีในมืออยู่แล้วสำหรับกลุ่ม Product นี้
3. แบรนด์ยุโรป เป็นที่รู้จักในด้านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เชื่อถือได้ และเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ชื่อเสียงดีมาก สามารถสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าได้
4. ฐานลูกค้าค่อนข้างกว้าง มีในหลากหลาย Business ทำให้เกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง
5. แบรนด์มีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่า อยู่ในระดับแนวหน้าของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน
6. มูลค่าสินค้าโดยรวมในแต่ละ Project มีมูลค่าสูง แต่ความถี่ในการซื้อจะไม่สูงมาก
7. สภาพแวดล้อมการทำงานค่อนข้างสบาย ยืดหยุ่น ซึ่งอาจทำให้มีความสบายใจในการทำงานมากขึ้น
8. เป็นองค์กรระดับสากล ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานเป็นหลักในทุกช่องทาง

บริษัท B

1. ฐานเงินเดือน 35 K ก่อนโปร และ 40 K หลังผ่านโปร , ค่าเสื่อมรถยนต์และค่าน้ำมันรวมกัน 8 บาท/กิโล, ค่าโรงแรมค่าเลี้ยงข้าวลูกค้า ค่าทางด่วน เบิกตามความจริง , ค่าคอมมิชชั่น 1.5-2 % จากยอดขาย , Bonus รายปีตามผลประกอบการรายปี
2. เป็นบริษัทสัญชาติจีนที่มีชื่อเสียงในประเทศจีนอย่างมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ และมาขยายฐานลูกค้าโดยมาตั้งสาขาในไทย เป็น OEM และ เจ้าของแบรนด์เอง (แบรนด์จีน) ของกลุ่มสินค้า Motor PMSM , CNC Calibration Tools , Automation Machinary , System Integration ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น Automation , Electric Vehicles , HVAC , Home Appliances , Oil and Gas , Renewable Energy , Aerospace , Medical และ Power Generation ซึ่งเราเป็นเจ้าของแบรนด์เอง ฐานลูกค้าเรามีในมืออยู่บ้าง และต้องหาใหม่ด้วย สำหรับกลุ่ม Product นี้
3. แบรนด์ของบริษัทนี้ เชี่ยวชาญด้านมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร (PMSM) เป็นอย่างมาก และมีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศจีนมากเช่นกัน
4. ตลาด PMSM ทั่วโลกกำลังประสบกับการเติบโตที่แข็งแกร่งเนื่องจากความต้องการมอเตอร์ประหยัดพลังงานที่เพิ่มขึ้น ฐานลูกค้าค่อนข้างกว้าง มีในหลากหลาย Business ทำให้เกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง
5. PMSM ถูกนำมาใช้ในการใช้งานที่หลากหลาย ทำให้ตลาดมีความหลากหลายและลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของตลาด
6. แบรนด์ชั้นนำของจีนมักจะแข่งขันกันในแง่ของราคา ทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนน่าสนใจสำหรับตลาดที่คำนึงถึงต้นทุน
7. แบรนด์จีนได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วในด้านคุณภาพและนวัตกรรม ซึ่งช่วยลดช่องว่างกับแบรนด์ตะวันตกที่เป็นที่ยอมรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
8. มูลค่าสินค้าโดยรวมในแต่ละ Project มีมูลค่าไม่สูงมากนัก แต่จะมีโอกาศการขายในปริมาณที่สูงกว่า เน้นปริมาณการขายเป็นหลัก
9. สภาพแวดล้อมการทำงานของบริษัทจีนจะค่อนข้างรวดเร็ว ต้อง Active สม่ำเสมอ
10. เป็นองค์กรสัญชาติจีนก็จริง แต่ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานเป็นหลัก พนักงานและผู้บริหารทุกคนใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ใช้ภาษาจีน บริหารตามหลักสากล

การวิเคราะห์เปรียบเทียบ

A : ชื่อเสียงของแบรนด์ยุโรปในด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการสร้างความไว้วางใจของลูกค้าและความสัมพันธ์ระยะยาว
B: ราคาที่แข่งขันได้และชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นของแบรนด์จีนสามารถดึงดูดฐานลูกค้าในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่คำนึงถึงต้นทุน
A: การขายที่มีมูลค่าสูงและรายได้ประจำจากสัญญาบริการสามารถนำไปสู่ค่าคอมมิชชั่นจำนวนมากและความมั่นคงของรายได้ในระยะยาว
B: การขายในปริมาณมากและโอกาสในการขยายอาจส่งผลให้ได้รับค่าคอมมิชชั่นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
A: น่าจะเสนอสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีโครงสร้างและสนับสนุนพร้อมโอกาสในการพัฒนาทางวิชาชีพ
B: มอบสภาพแวดล้อมการทำงานค่อนข้างรวดเร็ว พร้อมศักยภาพสำหรับความก้าวหน้าทางอาชีพอย่างรวดเร็วและการเปิดรับทั่วโลก

สรุป

ทั้งบริษัท A และ B มีโอกาสในการเติบโตในระยะยาวสำหรับวิศวกรฝ่ายขาย แต่ลักษณะของโอกาสเหล่านี้แตกต่างกัน
A: สภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างสบายใจในการทำงาน และยืดหยุ่น เป็นการขายที่มีมูลค่าสูง และวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุน การมุ่งเน้นไปที่โซลูชันการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์และการบูรณาการกับเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น IoT มอบรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในระยะยาวและศักยภาพในการสร้างรายได้
B: สภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเป็นการขายในปริมาณมากและการขยายตลาดอย่างรวดเร็ว การมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีประหยัดพลังงานและชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นของแบรนด์จีนนำเสนอโอกาสในการเติบโตที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกิดใหม่

ขอความเห็นทุกท่านหน่อยครับบบ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่