ทนายอนันต์ชัย’ เอาผิดลัทธิเชื่อมจิต ซัดสำนักพุทธอ่อนแอไม่ทำอะไรเลย
อนันต์ชัย บุกกองปราบแจ้งความเอาผิด ลัทธิเชื่อมจิต สอนหลักธรรมนอกพระไตรปิฎก
พร้อมย้ำว่า สำนักพุทธอ่อนแอ ไม่ทำอะไรเลย…
13 พ.ค. 2024 12:22 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง อี้ แทนคุณ และแพรี่ ไพรวัลย์ เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต จำนวน 10 คน ในข้อหาผิด พ.ร.บ.คอม และผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก การเรี่ยไร และการฉ้อโกง โดยทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า ภารกิจในวันนี้ ตนเองและเครือข่าย มาเพื่อปกปักรักษาสถาบันหลักของชาติ คือ ศาสนา เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ เป็นลัทธิที่สอนผิดพระไตรปิฎก ขอพูดจากใจจริงว่า คณะสงฆ์ไทยอ่อนแอมาก ไม่ค่อยมาแอ็กชันใดๆ ในเรื่องการสอนผิดหลักธรรม เช่น ลัทธิเชื่อมจิต คณะสงฆ์ไทย และสำนักพุทธ ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการ กำจัด พวกลัทธิแบบนี้
วันนี้ไม่ใช่แค่การแจ้งความเอาผิดกับลัทธิเชื่อมจิต แต่อยากให้มีองค์กรหนึ่ง ที่เอาไว้ตรวจสอบกลุ่มคนที่ทำผิดหลักธรรมคำสอน ของพระไตรปิฎก ซึ่งองค์กรนี้ต้องมีคนเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ พระไตรปิฎก ถ้ามีใครสอนผิด องค์กรนี้ จะเรียกมา ตรวจสอบ ใครทำผิด มีโทษทางอาญา ซึ่งในเมืองไทยมีกฎหมายที่เป็นแม่บทที่คุ้มครองพระศาสนาเอาไว้ ใครที่สอนผิดหลักศาสนา ต้องมีความผิด ซึ่งลัทธิเชื่อมจิต เป็นลัทธิที่รู้กันเอง ตั้งขึ้นมาเอง จะมาสอนคนอื่นได้อย่างไร ที่สำคัญเลย คือหน่วยงานรัฐ อย่างสำนักพุทธ มีอำนาจหน้าที่ ในการตรวจสอบลัทธิเชื่อมจิตโดยตรง ต้องเสนอเรื่องนี้ให้มหาเถรสมาคม ว่าตอนนี้มีลัทธิ สอนบิดเบือนพระไตรปิฎก ให้พระสังฆราชตรวจสอบ หรือเงื่อนไขที่ 2 คือ สำนักพุทธมาสะสางเรื่องนี้เอง ร้องทุกโทษกล่าวโทษต่อลัทธิเชื่อมจิต ผิด พ.ร.บ.คอม และผิดข้อหาอื่นๆ เรื่องนี้เป็นอาญาแผ่นดิน แต่ทำไมสำนักพุทธไม่รู้กฎหมาย และไม่ทำอะไร เป็นหน่วยงานที่อ่อนแอ ไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้ประชาชน มาดำเนินการแจ้งความเอาผิดกันเอง
ทนายอนันต์ชัย ยังพูดเชื่อมไปยังกระทรวง พม.ว่าสามารถตรวจสอบ และดำเนินการเอาผิดกับลัทธิเชื่อมจิตได้ เพราะมีการใช้เด็กเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเด็กมีความเสี่ยงในการทำความผิด พ่อแม่น้องไนซ์ เอาเด็กมาโฆษณาว่าเป็นฮีโร่ เป็นเด็กวิเศษ และเคยให้น้องไนซ์มามากล่าวหา มาด่าแพรี่ ไพรวัลย์ เคยด่าหนุ่ม กรรชัย มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งทั้งสองคนได้แจ้งความเอาไว้แล้ว แน่นอนว่าผู้ปกครองนั้น ต้องปฏิบัติต่อเด็กให้ดี อบรมให้ดี เลี้ยงดูให้ชอบตามกฎหมาย สวนทางกับลัทธิเชื่อมจิต พ่อแม่ใช้น้องไนซ์เป็นเครื่องมือ เพื่อหาเงิน
จากการตรวจสอบคือ ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ปี 64 แอดมินมีการสร้างเพจ เนรมิตรเทวาจุติ มีการสร้างเรื่องให้เด็กคนนี้เป็นผู้วิเศษ ทำรูปขึ้นมาโดยให้น้องไนซ์นั่งกลางพญานาค เหมือนเป็นพระพุทธเจ้า ปรางค์นาคปรก หลังจากนั้นแอดมินได้สร้างเรื่องว่า ก่อนจะคลอดเด็กคนนี้ มีปาฏิหาริย์เยอะแยะ เหมือนเด็กคนนี้เป็นเด็กวิเศษ สิ่งเหล่านี้เป็นการโฆษณา โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เมื่อมีการแสวงหาผลประโยชน์ มีการเรี่ยไร มีการบริจาค เชิญชวนไปอบรม ไปปฏิบัติธรรมต่างๆ ย่อมผิดพ.ร.บ.การเรี่ยไร แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น กำลังทำอะไรกันอยู่ และคนที่ไปอบรมนั้น ทำไมโง่อย่างนี้ วันนี้ขอใช้คำว่า ลัทธิเชื่อมจิตกำลังทำการหลอกลวงประชาชนอยู่ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ชัดเจน ซึ่งลัทธิเชื่อมจิต เกิดจากการวางแผนของพ่อแม่ของน้องไนซ์
พ่อแม่น้องไนซ์ สร้างสตอรี่ให้ลูก เป็นผู้วิเศษ เป็นเลิศ มีบุญ เป็นคนที่อวตารมาเกิด มันเป็นไปได้ยังไง ส่วนคนที่ไปเป็นสาวก มันช่างบ้องตื้นเหลือเกิน ศาสนาพุทธ ไม่มีอวตาร การอ้างว่าลูกของตัวเองเป็นลูกของพระพุทธเจ้า ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน และไม่มีทางเป็นลูกของเจ้าแม่กวนอิมไม่ได้ เพราะคนละนิกาย ลัทธิเชื่อมจิต แต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ อยากถามประชาชน ว่าการสอนธรรมแบบนี้ ไปหลงเชื่อได้อย่างไร วันนี้ดำเนินคดีคนที่เกี่ยวข้องกับลัทธิเชื่อมจิต 10 คน เริ่มที่พ่อแม่น้องไนซ์ หมอที่ดูแลน้องไนซ์ แอดมินใบเฟิร์น แอดมินสาว ที่ดูแลน้องไนซ์ แอดมินผู้ควบเพจเฟซบุ๊ก แอดมินผู้ควบคุม TikTok และมีทนายทรราชอีกหนึ่งคน จากการที่มีการโปรโมทลัทธินี้ ขอแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอม มีความ พ.ร.บ.การเรี่ยไรเงิน ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และจะเข้าข่ายการฉ้อโกง ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมฝากให้พ่อแม้น้องไนซ์ ให้เลิกซะ เอาลูกไปเรียนหนังสือ เรียนให้จบ อย่าอุปโลกน์อะไรขึ้นมาเอง
ด้านคุณอี้ แทนคุณ ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า มีลูกศิษย์ลัทธิเชื่อมจิต ได้ติดต่อเข้ามา เปิดเผยว่า การไปอบรมแต่ละครั้งเสียเงินเสียทองเยอะมาก ตอนแรกเหมือนกับจะได้ผล เหมือนมีแสงขึ้นมา เหมือนจะบรรลุแล้ว แต่ไม่รู้เป็นอุปทานหมู่หรือไม่ แต่พออยู่ไปอยู่มา ได้เห็นสภาพของน้องไนซ์เปลี่ยนไป คือแค่เอานิ้วแตะหัว แตะหน้าผาก มันจะเชื่อมจิตได้อย่างไร ทำเหมือนเป็นการ์ตูนไปได้ จนสุดท้ายเหยื่อรายนี้ ก็คิดได้ ว่าตัวเองหลงผิด ตอนหลังจึงมาให้ข้อมูล เพื่อแจ้งความ และจะไปชวนเหยื่อรายอื่นมาแจ้งความอีกด้วย ฝากถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อให้มาร่วมแจ้งความด้วยกัน และอี้แทนคุณ ได้ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์
ด้านต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า ตอนที่ทำเรื่องนี้ ได้เข้าไปแจ้งเรื่องกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างตำรวจ กระทรวง พม. สำนักพุทธ แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ส่วนพม.สุราษฎร์ธานี ก็ออกมาชื่นชมพ่อแม่น้องไนซ์ ว่าดูแลลูกได้ดีมากซึ่งทุกคนก็เห็อนอยู่ว่า พ่อแม่ ใช้น้องไนซ์เป็นเครื่องมือ สรุปคือ
พม.สุราษฎร์ธานี เป็นลูกศิษย์ของน้องไนซ์ หรือไม่ หลังจากนั้นทางเป็นหนึ่งจึงได้แฉเรื่องที่ดิน ที่ลัทธิเชื่อมจิตไปมีผลประโยชน์ทับซ้อน จึงทำให้คนไทยตื่นตัวกับเรื่องนี้ และลัทธิเชื่อมจิต ก็โมโหตัวเองมาก ไลฟ์สดด่าต้นอ้อ เป็นหนึ่งทุกวัน เรื่องนี้ทำให้คนไทย ไม่นิ่งเฉย ออกมาปกป้องศาสนาพุทธกันมาก คุณต้นอ้อ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ ฟ้องมา ก็ฟ้องกลับไม่กลัว.
ข่าวจากเวป
https://www.one31.net/news/detail/69671
มีสำนักพุทธไปทำไม? ทนายอนันต์ชัย’ เอาผิดลัทธิเชื่อมจิต ซัดสำนักพุทธอ่อนแอไม่ทำอะไรเลย
อนันต์ชัย บุกกองปราบแจ้งความเอาผิด ลัทธิเชื่อมจิต สอนหลักธรรมนอกพระไตรปิฎก
พร้อมย้ำว่า สำนักพุทธอ่อนแอ ไม่ทำอะไรเลย…
13 พ.ค. 2024 12:22 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง อี้ แทนคุณ และแพรี่ ไพรวัลย์ เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต จำนวน 10 คน ในข้อหาผิด พ.ร.บ.คอม และผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก การเรี่ยไร และการฉ้อโกง โดยทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า ภารกิจในวันนี้ ตนเองและเครือข่าย มาเพื่อปกปักรักษาสถาบันหลักของชาติ คือ ศาสนา เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ เป็นลัทธิที่สอนผิดพระไตรปิฎก ขอพูดจากใจจริงว่า คณะสงฆ์ไทยอ่อนแอมาก ไม่ค่อยมาแอ็กชันใดๆ ในเรื่องการสอนผิดหลักธรรม เช่น ลัทธิเชื่อมจิต คณะสงฆ์ไทย และสำนักพุทธ ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการ กำจัด พวกลัทธิแบบนี้
วันนี้ไม่ใช่แค่การแจ้งความเอาผิดกับลัทธิเชื่อมจิต แต่อยากให้มีองค์กรหนึ่ง ที่เอาไว้ตรวจสอบกลุ่มคนที่ทำผิดหลักธรรมคำสอน ของพระไตรปิฎก ซึ่งองค์กรนี้ต้องมีคนเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ พระไตรปิฎก ถ้ามีใครสอนผิด องค์กรนี้ จะเรียกมา ตรวจสอบ ใครทำผิด มีโทษทางอาญา ซึ่งในเมืองไทยมีกฎหมายที่เป็นแม่บทที่คุ้มครองพระศาสนาเอาไว้ ใครที่สอนผิดหลักศาสนา ต้องมีความผิด ซึ่งลัทธิเชื่อมจิต เป็นลัทธิที่รู้กันเอง ตั้งขึ้นมาเอง จะมาสอนคนอื่นได้อย่างไร ที่สำคัญเลย คือหน่วยงานรัฐ อย่างสำนักพุทธ มีอำนาจหน้าที่ ในการตรวจสอบลัทธิเชื่อมจิตโดยตรง ต้องเสนอเรื่องนี้ให้มหาเถรสมาคม ว่าตอนนี้มีลัทธิ สอนบิดเบือนพระไตรปิฎก ให้พระสังฆราชตรวจสอบ หรือเงื่อนไขที่ 2 คือ สำนักพุทธมาสะสางเรื่องนี้เอง ร้องทุกโทษกล่าวโทษต่อลัทธิเชื่อมจิต ผิด พ.ร.บ.คอม และผิดข้อหาอื่นๆ เรื่องนี้เป็นอาญาแผ่นดิน แต่ทำไมสำนักพุทธไม่รู้กฎหมาย และไม่ทำอะไร เป็นหน่วยงานที่อ่อนแอ ไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้ประชาชน มาดำเนินการแจ้งความเอาผิดกันเอง
ทนายอนันต์ชัย ยังพูดเชื่อมไปยังกระทรวง พม.ว่าสามารถตรวจสอบ และดำเนินการเอาผิดกับลัทธิเชื่อมจิตได้ เพราะมีการใช้เด็กเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเด็กมีความเสี่ยงในการทำความผิด พ่อแม่น้องไนซ์ เอาเด็กมาโฆษณาว่าเป็นฮีโร่ เป็นเด็กวิเศษ และเคยให้น้องไนซ์มามากล่าวหา มาด่าแพรี่ ไพรวัลย์ เคยด่าหนุ่ม กรรชัย มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งทั้งสองคนได้แจ้งความเอาไว้แล้ว แน่นอนว่าผู้ปกครองนั้น ต้องปฏิบัติต่อเด็กให้ดี อบรมให้ดี เลี้ยงดูให้ชอบตามกฎหมาย สวนทางกับลัทธิเชื่อมจิต พ่อแม่ใช้น้องไนซ์เป็นเครื่องมือ เพื่อหาเงิน
จากการตรวจสอบคือ ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม ปี 64 แอดมินมีการสร้างเพจ เนรมิตรเทวาจุติ มีการสร้างเรื่องให้เด็กคนนี้เป็นผู้วิเศษ ทำรูปขึ้นมาโดยให้น้องไนซ์นั่งกลางพญานาค เหมือนเป็นพระพุทธเจ้า ปรางค์นาคปรก หลังจากนั้นแอดมินได้สร้างเรื่องว่า ก่อนจะคลอดเด็กคนนี้ มีปาฏิหาริย์เยอะแยะ เหมือนเด็กคนนี้เป็นเด็กวิเศษ สิ่งเหล่านี้เป็นการโฆษณา โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เมื่อมีการแสวงหาผลประโยชน์ มีการเรี่ยไร มีการบริจาค เชิญชวนไปอบรม ไปปฏิบัติธรรมต่างๆ ย่อมผิดพ.ร.บ.การเรี่ยไร แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น กำลังทำอะไรกันอยู่ และคนที่ไปอบรมนั้น ทำไมโง่อย่างนี้ วันนี้ขอใช้คำว่า ลัทธิเชื่อมจิตกำลังทำการหลอกลวงประชาชนอยู่ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ชัดเจน ซึ่งลัทธิเชื่อมจิต เกิดจากการวางแผนของพ่อแม่ของน้องไนซ์
พ่อแม่น้องไนซ์ สร้างสตอรี่ให้ลูก เป็นผู้วิเศษ เป็นเลิศ มีบุญ เป็นคนที่อวตารมาเกิด มันเป็นไปได้ยังไง ส่วนคนที่ไปเป็นสาวก มันช่างบ้องตื้นเหลือเกิน ศาสนาพุทธ ไม่มีอวตาร การอ้างว่าลูกของตัวเองเป็นลูกของพระพุทธเจ้า ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน และไม่มีทางเป็นลูกของเจ้าแม่กวนอิมไม่ได้ เพราะคนละนิกาย ลัทธิเชื่อมจิต แต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ อยากถามประชาชน ว่าการสอนธรรมแบบนี้ ไปหลงเชื่อได้อย่างไร วันนี้ดำเนินคดีคนที่เกี่ยวข้องกับลัทธิเชื่อมจิต 10 คน เริ่มที่พ่อแม่น้องไนซ์ หมอที่ดูแลน้องไนซ์ แอดมินใบเฟิร์น แอดมินสาว ที่ดูแลน้องไนซ์ แอดมินผู้ควบเพจเฟซบุ๊ก แอดมินผู้ควบคุม TikTok และมีทนายทรราชอีกหนึ่งคน จากการที่มีการโปรโมทลัทธินี้ ขอแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอม มีความ พ.ร.บ.การเรี่ยไรเงิน ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และจะเข้าข่ายการฉ้อโกง ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมฝากให้พ่อแม้น้องไนซ์ ให้เลิกซะ เอาลูกไปเรียนหนังสือ เรียนให้จบ อย่าอุปโลกน์อะไรขึ้นมาเอง
ด้านคุณอี้ แทนคุณ ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า มีลูกศิษย์ลัทธิเชื่อมจิต ได้ติดต่อเข้ามา เปิดเผยว่า การไปอบรมแต่ละครั้งเสียเงินเสียทองเยอะมาก ตอนแรกเหมือนกับจะได้ผล เหมือนมีแสงขึ้นมา เหมือนจะบรรลุแล้ว แต่ไม่รู้เป็นอุปทานหมู่หรือไม่ แต่พออยู่ไปอยู่มา ได้เห็นสภาพของน้องไนซ์เปลี่ยนไป คือแค่เอานิ้วแตะหัว แตะหน้าผาก มันจะเชื่อมจิตได้อย่างไร ทำเหมือนเป็นการ์ตูนไปได้ จนสุดท้ายเหยื่อรายนี้ ก็คิดได้ ว่าตัวเองหลงผิด ตอนหลังจึงมาให้ข้อมูล เพื่อแจ้งความ และจะไปชวนเหยื่อรายอื่นมาแจ้งความอีกด้วย ฝากถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อให้มาร่วมแจ้งความด้วยกัน และอี้แทนคุณ ได้ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์
ด้านต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า ตอนที่ทำเรื่องนี้ ได้เข้าไปแจ้งเรื่องกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างตำรวจ กระทรวง พม. สำนักพุทธ แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ส่วนพม.สุราษฎร์ธานี ก็ออกมาชื่นชมพ่อแม่น้องไนซ์ ว่าดูแลลูกได้ดีมากซึ่งทุกคนก็เห็อนอยู่ว่า พ่อแม่ ใช้น้องไนซ์เป็นเครื่องมือ สรุปคือ
พม.สุราษฎร์ธานี เป็นลูกศิษย์ของน้องไนซ์ หรือไม่ หลังจากนั้นทางเป็นหนึ่งจึงได้แฉเรื่องที่ดิน ที่ลัทธิเชื่อมจิตไปมีผลประโยชน์ทับซ้อน จึงทำให้คนไทยตื่นตัวกับเรื่องนี้ และลัทธิเชื่อมจิต ก็โมโหตัวเองมาก ไลฟ์สดด่าต้นอ้อ เป็นหนึ่งทุกวัน เรื่องนี้ทำให้คนไทย ไม่นิ่งเฉย ออกมาปกป้องศาสนาพุทธกันมาก คุณต้นอ้อ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ ฟ้องมา ก็ฟ้องกลับไม่กลัว.
ข่าวจากเวป
https://www.one31.net/news/detail/69671