สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าเทียบระหว่างเรากับเพื่อนที่โปรไฟล์ไม่ต่างกันมาก เพราะเรียนมาด้วยกัน เพียงแต่เพื่อนเราจบ phd
ไลฟ์สไตล์คล้ายกัน ชอบเที่ยว ออกกำลังกาย พัฒนาตัวเอง และไม่ช้อปปิ้งค่ะ เน้นซื้อของที่จำเป็น อยู่บ้าน เก็บเงินไว้ไปเที่ยว
คำว่า "ของมันต้องมี" ใช้ไม่ได้กับพวกเรา
เพื่อนเราเลือกรับราชการ เพราะเป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด เค้าต้องการสวัสดิการด้านการแพทย์ เลยเลือกที่จะรับราชการ
ส่วนเราเลือกทำงานเอกชน เพราะหนี้สินที่บ้านเยอะ และเราต้องดูแลแม่ แถมเราเบื่อระบบราชการ อยากทำงานที่เรารู้สึกสนุก
ส่วนรายได้คิดเป็นเลขกลมๆ เลยนะคะ
เพื่อนเรามีรายได้จากเงินเดือน(ไม่รวมรายได้อื่นๆ) ประมาณปีละ 800k ออมปี 250k ภาษีปีละ 15k
เรามีรายได้จากเงินเดือน(ไม่รวมรายได้อื่นๆ) ประมาณปีละ 2.4M ออมปี 700k ภาษีปีละ 350k
(พวกเรามีผ่อนบ้าน และเพื่อนก็มีส่งเงินให้แม่ค่ะ ส่วนเราก็ดูแลแม่ที่ติดเตียง)
แถวเรามีไลฟ์สไตล์คล้ายกัน คือ เก็บเงินไว้เที่ยวค่ะ ไปปีนเขา ไปโรดทริปต่างประเทศ
ซึ่งอาจจะเป็นเงินจากรายได้อื่นหรือเป็นเงินเดือนที่สะสมกันมา
นับจากนี้ไป 20 ปีจนพวกเราไม่ทำงาน ตอนนี้พวกเรอายุ 40 (เพื่อนทำงานได้ยาวแน่ๆ ส่วนเราไม่น่าจะโดนให้ออก เพราะองค์กรใหญ่ ฝากชีวิตได้)
นับเป็นเลขกลมๆ ไม่มีพวกเพิ่ม เพื่อนจะมีเงินต้นไม่รวมปันผลหรือถูกหวยอะไรเลยนะคะ ที่สะสมมาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท เราจะมี 14 ล้านบาท
(ซึ่งอาจจะมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ค่ะ เพราะยังไงเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง)
หลังจากถูกเลิกจ้าง เราได้เงิน
เราได้เดือนละ 4k
เพื่อนได้ 40k
แต่อีก 20 ปี สมมติพวกเราตายตอน 80 ปี
ด้วยการใช้จ่ายพวกเราทั้งคู่ตอนนี้ใช้เงินประมาณเดือนละ 20k ค่ะ รวมของไร้สาระด้วย
แก่แล้วก็คงใช้เท่าเดิม ถึงจะลดของไร้สาระลงก็เถอะ เพราะเงินเฟ้อ
เพื่อนจะมีเงิน 5M เดิมยังอยู่ แถมพวกเงินที่ได้จากเงินเกษียณไปออมทุกเดือนอีก
ส่วนเรา ต้องเอาเงินออมมาเติมให้พอใช้จากที่ได้จาก ปกสค
แน่นอนความเสี่ยงเรามากกว่าเพื่อน ทั้งตอนนี้และอนาคต
แต่มันก็ไม่แน่นอนเสมอไปค่ะ
พวกเรารู้ค่ะ ว่าอะไรมันเหมาะกับพวกเรา แค่ใช้ชีวิตไม่ประมาทและยอมรับความเสี่ยง
มีวินัยในการเก็บออม และไม่รลืมเติมความสุขของพวกเราเอง มีอะไรก็ให้กำลังใจซัพพอร์ตกัน
และที่สำคัญ...พวกเราก็เลือกแล้วค่ะ
ไลฟ์สไตล์คล้ายกัน ชอบเที่ยว ออกกำลังกาย พัฒนาตัวเอง และไม่ช้อปปิ้งค่ะ เน้นซื้อของที่จำเป็น อยู่บ้าน เก็บเงินไว้ไปเที่ยว
คำว่า "ของมันต้องมี" ใช้ไม่ได้กับพวกเรา
เพื่อนเราเลือกรับราชการ เพราะเป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด เค้าต้องการสวัสดิการด้านการแพทย์ เลยเลือกที่จะรับราชการ
ส่วนเราเลือกทำงานเอกชน เพราะหนี้สินที่บ้านเยอะ และเราต้องดูแลแม่ แถมเราเบื่อระบบราชการ อยากทำงานที่เรารู้สึกสนุก
ส่วนรายได้คิดเป็นเลขกลมๆ เลยนะคะ
เพื่อนเรามีรายได้จากเงินเดือน(ไม่รวมรายได้อื่นๆ) ประมาณปีละ 800k ออมปี 250k ภาษีปีละ 15k
เรามีรายได้จากเงินเดือน(ไม่รวมรายได้อื่นๆ) ประมาณปีละ 2.4M ออมปี 700k ภาษีปีละ 350k
(พวกเรามีผ่อนบ้าน และเพื่อนก็มีส่งเงินให้แม่ค่ะ ส่วนเราก็ดูแลแม่ที่ติดเตียง)
แถวเรามีไลฟ์สไตล์คล้ายกัน คือ เก็บเงินไว้เที่ยวค่ะ ไปปีนเขา ไปโรดทริปต่างประเทศ
ซึ่งอาจจะเป็นเงินจากรายได้อื่นหรือเป็นเงินเดือนที่สะสมกันมา
นับจากนี้ไป 20 ปีจนพวกเราไม่ทำงาน ตอนนี้พวกเรอายุ 40 (เพื่อนทำงานได้ยาวแน่ๆ ส่วนเราไม่น่าจะโดนให้ออก เพราะองค์กรใหญ่ ฝากชีวิตได้)
นับเป็นเลขกลมๆ ไม่มีพวกเพิ่ม เพื่อนจะมีเงินต้นไม่รวมปันผลหรือถูกหวยอะไรเลยนะคะ ที่สะสมมาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท เราจะมี 14 ล้านบาท
(ซึ่งอาจจะมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ค่ะ เพราะยังไงเราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง)
หลังจากถูกเลิกจ้าง เราได้เงิน
เราได้เดือนละ 4k
เพื่อนได้ 40k
แต่อีก 20 ปี สมมติพวกเราตายตอน 80 ปี
ด้วยการใช้จ่ายพวกเราทั้งคู่ตอนนี้ใช้เงินประมาณเดือนละ 20k ค่ะ รวมของไร้สาระด้วย
แก่แล้วก็คงใช้เท่าเดิม ถึงจะลดของไร้สาระลงก็เถอะ เพราะเงินเฟ้อ
เพื่อนจะมีเงิน 5M เดิมยังอยู่ แถมพวกเงินที่ได้จากเงินเกษียณไปออมทุกเดือนอีก
ส่วนเรา ต้องเอาเงินออมมาเติมให้พอใช้จากที่ได้จาก ปกสค
แน่นอนความเสี่ยงเรามากกว่าเพื่อน ทั้งตอนนี้และอนาคต
แต่มันก็ไม่แน่นอนเสมอไปค่ะ
พวกเรารู้ค่ะ ว่าอะไรมันเหมาะกับพวกเรา แค่ใช้ชีวิตไม่ประมาทและยอมรับความเสี่ยง
มีวินัยในการเก็บออม และไม่รลืมเติมความสุขของพวกเราเอง มีอะไรก็ให้กำลังใจซัพพอร์ตกัน
และที่สำคัญ...พวกเราก็เลือกแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
บำนาญประกันสังคม 4,000 VS บำนาญข้าราชการ 40,000 ก็ตอนทำงานเอกชนเงินเดือนเอ็งมากกว่าแล้วไง ?
มีใครที่เกษียณแล้วกระซิบตอบในใจว่า เปล่า ก่อนเกษียณเงินเดือนตรูก็ไม่ได้มากกว่านะ หลังเกษียณบำนาญตรูยังเทียบไม่ติดอีก มั๊ยครับ ? 555+