'เรวัช' พูดถึง 'โน้ส อุดม' อีกครั้งหลังชมเดี่ยวจบ ที่บอกจะขึ้นไปถีบบนเวที แค่คิดเฉยๆ
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8222619
‘เรวัช’ พูดถึง ‘โน้ส อุดม’ อีกครั้งหลังชมเดี่ยวจบ ที่บอกจะขึ้นไปถีบบนเวที แค่คิดเฉยๆ เผยฟังเต็ม ๆ แล้วไม่มีคำพูดอะไรที่เขาทำผิด แต่เขารู้เจตนาดีว่าจะแขวะใคร
กลายเป็นดราม่าถกกันไม่จบ หลังจากที่
โน้ส-อุดม แต้พานิช ทอล์กใน “
เดี่ยวสเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์” ผ่านแพลตฟอร์ม Netflix โดยชาวงหนึ่งมีการพูดถึงเรื่องความ “
พอเพียง”
ต่อมาทอล์กดังกล่าวกลายเป็นกระแสรุมโจมตีใส่
โน้ส โดยเฉพาะ พล.ต.ท.
เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผบช.ปส. ได้ไลฟ์สด พร้อมระบุข้อความดังนี้
“
เมื่อก่อนก็ดู ชอบดู แต่ตอนนี้ได้ยินเสียงก็ไม่อยากฟังแล้ว ไม่ดูชาติกำเนิดตัวเอง ทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง เล่นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เรามันชาวบ้าน ปากมันเสียไม่เข้าท่าเลย มีมุกอื่นให้เล่นเยอะแยะ ไม่ควรเอามุกแบบนี้มาเล่น ผมไม่ได้อคติกับโน้ส แต่อย่าเอามาล้อเล่น ต้องดัดสันดานมัน ถ้านั่งดูอยู่ด้วยนะวันนั้น จะขึ้นไปถีบบนเวทีไม่ให้พูดจบ น่าถอดรองเท้าปาใส่หน้ามัน”
จนเกิดเป็นกระแสในสองด้านทั้งเห็นด้วยกับ พล.ต.ท.
เรวัช และ ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าสิ่งที่
โน้ส พูดถึงในทอล์ก ไม่มีอะไรไปข้องแวะกับสถาบันเลย
ล่าสุด พล.ต.ท.
เรวัช ได้ออกมาไลฟ์สดอีกครั้งถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุใจความดังนี้
“ตัวเขารู้อยู่แล้วว่า ถ้าพูดถึงเรื่องพอเพียงแล้วมันหมายถึงใคร ไปแขวะ จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร ไปฟังเต็ม ๆ แล้วไม่มีคำพูดอะไรที่เขาทำผิด และผิดกฎหมาย แต่ว่าเขารู้ตัวเขาเองอยู่แล้วว่า เจตนาภายในเขาต้องการจะแขวะใคร”
“ผมเองไม่ได้อยากจะไปลงการเมือง และไม่เชียร์พรรคการเมืองไหน แต่พอเขาพูดว่าพอเพียง แต่มันไม่พอ มันก็ปรี๊ดขึ้นมาเลย ส่วนคำพูดอื่น ตลกอื่นเป็นเรื่องของเขาที่จะหาคอนเทนต์มาทำมาหากิน ผมก็ไม่ได้ไปโยง”
“เพียงแต่อยากจะบอกเขาว่า ช่องทางทำมาหากินมีตั้งเยอะ ขอหน่อยได้ไหม มันมีเรื่องเล่นตั้งเยอะแยะ แต่ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาเล่นเท่านั้นเอง ส่วนที่ผมบอกว่าถ้าไปนั่งดูแล้วจะขึ้นไปถีบ ผมก็ได้แต่คิด คิดได้ พูดได้ แต่ทำไม่ได้ ใจมันไม่ได้หยาบช้า ผมจะสู้แต่คนที่มันเป็นภัยต่อบ้านเมือง”
14 ปี หลัง 53 สู่รัฐบาลใหม่ “รมต.อ่านไลน์นะ แต่ไม่ตอบ” เสียงจาก “พยาบาลแหวน-แม่น้องเกด”
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4566202
รายการประชาธิปไตยสองสี โดย อธึกกิต แสวงสุข ใบตองแห้ง EP.6 คุยกับ “
แหวน-ณัฏฐธิดา มีวังปลา” อดีตอาสาสมัครพยาบาลที่รอดชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงในเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 2553 และ
แม่น้องเกด พะเยาว์ อัคฮาด แม่ของ
กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตจากกระสุนปืนภายในวัดปทุมวนารามในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 ” ประเด็นสนทนา 14ปี 2553 สู่รัฐบาลใหม่
ก้าวไกล หนุน ศธ. งดเข้าแถวกลางแดด รับเปิดเทอม แนะกำชับร.ร. ลงโทษหากไม่ปฏิบัติตาม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4566016
ก้าวไกล หนุน ศธ. งดเข้าแถวกลางแดด เปิดเทอมนี้ แนะกำชับร.ร. ลงโทษหากไม่ปฏิบัติตาม
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พรรคก้าวไกล – Move Forward Party ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า เปิดเทอมนี้ ก้าวไกลสนับสนุน งดเข้าแถวกลางแดด
วันจันทร์ที่จะถึงนี้ (13 พฤษภาคม) โรงเรียนส่วนใหญ่กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลเปิดเทอมกันแล้ว ท่ามกลางสภาพอากาศช่วงปลายฤดูร้อนที่ร้อนสุดขั้วกว่าทุกๆ ปี โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม หลายจังหวัดของประเทศไทยจะยังคงเผชิญกับอากาศร้อนอบอ้าวและร้อนจัด บางจังหวัดอาจมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 40 องศาเซลเซียส
แน่นอนว่าสภาพอากาศแบบนี้เสี่ยงอันตรายต่อนักเรียนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแดด ทั้งจากการรับรังสี UV ที่เข้มข้นจนเป็นอันตรายต่อผิวหนัง และหากอยู่กลางแดดนานเกินไปจนนักเรียนขาดน้ำ ก็อาจเกิดอาการลมแดด (Heat Stroke) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ทีมการศึกษาพรรคก้าวไกล (ก้าวLearn) ขอแสดงความห่วงใยถึงนักเรียนผู้เป็นอนาคตของประเทศทุกคน และมีข้อเสนอว่า เพื่อปกป้องนักเรียนจากภัยความร้อนในช่วงเปิดเทอมนี้ โรงเรียนควรปรับแผนกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น สอนวิชาพละในที่ร่ม อากาศถ่ายเท หรือยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่จำเป็นทุกประเภทไปก่อน รวมถึงการเข้าแถวกลางแดดช่วงเช้า
ข้อเสนอนี้สอดคล้องกับ “แนวทางการรับมือสภาพอากาศร้อนจัด” ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สั่งการไปยังโรงเรียนในสังกัดทั่วประเทศ โดยมี 6 แนวทาง คือ
1. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง งดจัดกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งรวมถึงการเข้าแถวกลางแดด
2. จัดเตรียมจุดบริการน้ำดื่มสะอาดภายในสถานศึกษาให้เพียงพอ
3. ตรวจสอบสายไฟ เครื่องปรับอากาศ และพัดลม ให้พร้อมใช้งาน
4. ในกรณีที่สภาพอากาศร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของนักเรียน ให้พิจารณาปิดเรียน และจัดการเรียนในรูปแบบอื่นๆ เช่น เรียนออนไลน์
5. ตรวจสอบการลืมนักเรียนในรถ หรือการปล่อยให้นักเรียนอยู่ในรถที่จอดตากแดด
6. ให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติแก่นักเรียนและครูในการช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อพบผู้ป่วยโรคลมแดด (Heat Stroke) และหากเกิดภาวะฉุกเฉิน ควรเรียกหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669
พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน และเราหวังว่าทางกระทรวงศึกษาธิการจะสามารถกำกับดูแลให้ทุกโรงเรียนนำไปปฏิบัติได้จริง โดยทางเรามีข้อเสนอเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ เพื่อรับมือกับสภาพอากาศร้อนในช่วงเปิดเทอม
Child Care First – กำชับให้ครูทำกิจกรรมทั้งในและนอกหลักสูตรโดยคำนึงถึงสุขภาวะ (well-being) ของเด็กเป็นสำคัญ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เป็นภัยต่อร่างกายและจิตใจของนักเรียน
วางกลไกรับผิดรับชอบ ที่อาจรวมถึงการมีมาตรการลงโทษผู้บริหารโรงเรียนอย่างจริงจังและเด็ดขาด หากมีโรงเรียนใดที่ยังคงบังคับให้นักเรียนทำกิจกรรมกลางแจ้งที่เสี่ยงต่อสุขภาพผู้เรียน โดยไม่ปล่อยให้เกิดการทำตามอำเภอใจ หรือปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเมื่อตรวจสอบพบเจอกรณีดังกล่าว
สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม หากโรงเรียนต้องใช้ในการซ่อมแซมหรือแก้ไขปัญหาอุปกรณ์บรรเทาอากาศร้อนอย่างเร่งด่วน (เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือจุดให้บริการน้ำดื่มสะอาด)
ลงทุนพลังงานสะอาดภายในโรงเรียน (เช่น ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาสนามฟุตบอล อาคารเรียน หรือลานจอดรถ) เพื่อประหยัดค่าไฟ โดยอาจรวมถึงการสนับสนุนให้โรงเรียนขอประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้
ทบทวนความจำเป็นของกิจกรรมเข้าแถวกลางแดดตอนเช้า (แม้หลังจากคลื่นความร้อนผ่านพ้นไป) โดยพิจารณาเปลี่ยนกิจกรรมตั้งแถว เป็นกิจกรรมที่อาจตอบโจทย์วัตถุประสงค์ด้านการเรียนรู้และเหมาะสมกับสภาพอากาศที่มีแนวโน้มจะร้อนขึ้นทุกปีมากกว่า (เช่น การให้ครูประจำชั้นและนักเรียนได้ทำกิจกรรมร่วมกันในห้องเรียนก่อนมีการเรียนการสอน การอัพเดตเหตุการณ์บ้านเมืองเพื่อให้นักเรียนเท่าทันข่าวสาร) เพื่อให้เวลาของผู้เรียนถูกใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวผู้เรียน
JJNY : 'เรวัช' พูดถึง 'โน้ส อุดม' อีกครั้ง│“รมต.อ่านไลน์นะ แต่ไม่ตอบ”│ก้าวไกลแนะกำชับร.ร.ลงโทษ│สหราชอาณาจักรเตรียมเนรเทศ
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8222619
‘เรวัช’ พูดถึง ‘โน้ส อุดม’ อีกครั้งหลังชมเดี่ยวจบ ที่บอกจะขึ้นไปถีบบนเวที แค่คิดเฉยๆ เผยฟังเต็ม ๆ แล้วไม่มีคำพูดอะไรที่เขาทำผิด แต่เขารู้เจตนาดีว่าจะแขวะใคร
กลายเป็นดราม่าถกกันไม่จบ หลังจากที่ โน้ส-อุดม แต้พานิช ทอล์กใน “เดี่ยวสเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์” ผ่านแพลตฟอร์ม Netflix โดยชาวงหนึ่งมีการพูดถึงเรื่องความ “พอเพียง”
ต่อมาทอล์กดังกล่าวกลายเป็นกระแสรุมโจมตีใส่ โน้ส โดยเฉพาะ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผบช.ปส. ได้ไลฟ์สด พร้อมระบุข้อความดังนี้
“เมื่อก่อนก็ดู ชอบดู แต่ตอนนี้ได้ยินเสียงก็ไม่อยากฟังแล้ว ไม่ดูชาติกำเนิดตัวเอง ทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง เล่นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เรามันชาวบ้าน ปากมันเสียไม่เข้าท่าเลย มีมุกอื่นให้เล่นเยอะแยะ ไม่ควรเอามุกแบบนี้มาเล่น ผมไม่ได้อคติกับโน้ส แต่อย่าเอามาล้อเล่น ต้องดัดสันดานมัน ถ้านั่งดูอยู่ด้วยนะวันนั้น จะขึ้นไปถีบบนเวทีไม่ให้พูดจบ น่าถอดรองเท้าปาใส่หน้ามัน”
จนเกิดเป็นกระแสในสองด้านทั้งเห็นด้วยกับ พล.ต.ท.เรวัช และ ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าสิ่งที่ โน้ส พูดถึงในทอล์ก ไม่มีอะไรไปข้องแวะกับสถาบันเลย
ล่าสุด พล.ต.ท.เรวัช ได้ออกมาไลฟ์สดอีกครั้งถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุใจความดังนี้
“ตัวเขารู้อยู่แล้วว่า ถ้าพูดถึงเรื่องพอเพียงแล้วมันหมายถึงใคร ไปแขวะ จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร ไปฟังเต็ม ๆ แล้วไม่มีคำพูดอะไรที่เขาทำผิด และผิดกฎหมาย แต่ว่าเขารู้ตัวเขาเองอยู่แล้วว่า เจตนาภายในเขาต้องการจะแขวะใคร”
“ผมเองไม่ได้อยากจะไปลงการเมือง และไม่เชียร์พรรคการเมืองไหน แต่พอเขาพูดว่าพอเพียง แต่มันไม่พอ มันก็ปรี๊ดขึ้นมาเลย ส่วนคำพูดอื่น ตลกอื่นเป็นเรื่องของเขาที่จะหาคอนเทนต์มาทำมาหากิน ผมก็ไม่ได้ไปโยง”
“เพียงแต่อยากจะบอกเขาว่า ช่องทางทำมาหากินมีตั้งเยอะ ขอหน่อยได้ไหม มันมีเรื่องเล่นตั้งเยอะแยะ แต่ทำไมต้องเอาเรื่องนี้มาเล่นเท่านั้นเอง ส่วนที่ผมบอกว่าถ้าไปนั่งดูแล้วจะขึ้นไปถีบ ผมก็ได้แต่คิด คิดได้ พูดได้ แต่ทำไม่ได้ ใจมันไม่ได้หยาบช้า ผมจะสู้แต่คนที่มันเป็นภัยต่อบ้านเมือง”
14 ปี หลัง 53 สู่รัฐบาลใหม่ “รมต.อ่านไลน์นะ แต่ไม่ตอบ” เสียงจาก “พยาบาลแหวน-แม่น้องเกด”
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4566202
รายการประชาธิปไตยสองสี โดย อธึกกิต แสวงสุข ใบตองแห้ง EP.6 คุยกับ “แหวน-ณัฏฐธิดา มีวังปลา” อดีตอาสาสมัครพยาบาลที่รอดชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงในเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 2553 และ แม่น้องเกด พะเยาว์ อัคฮาด แม่ของกมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตจากกระสุนปืนภายในวัดปทุมวนารามในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 ” ประเด็นสนทนา 14ปี 2553 สู่รัฐบาลใหม่
ก้าวไกล หนุน ศธ. งดเข้าแถวกลางแดด รับเปิดเทอม แนะกำชับร.ร. ลงโทษหากไม่ปฏิบัติตาม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4566016
ก้าวไกล หนุน ศธ. งดเข้าแถวกลางแดด เปิดเทอมนี้ แนะกำชับร.ร. ลงโทษหากไม่ปฏิบัติตาม
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พรรคก้าวไกล – Move Forward Party ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า เปิดเทอมนี้ ก้าวไกลสนับสนุน งดเข้าแถวกลางแดด
วันจันทร์ที่จะถึงนี้ (13 พฤษภาคม) โรงเรียนส่วนใหญ่กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลเปิดเทอมกันแล้ว ท่ามกลางสภาพอากาศช่วงปลายฤดูร้อนที่ร้อนสุดขั้วกว่าทุกๆ ปี โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม หลายจังหวัดของประเทศไทยจะยังคงเผชิญกับอากาศร้อนอบอ้าวและร้อนจัด บางจังหวัดอาจมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 40 องศาเซลเซียส
แน่นอนว่าสภาพอากาศแบบนี้เสี่ยงอันตรายต่อนักเรียนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแดด ทั้งจากการรับรังสี UV ที่เข้มข้นจนเป็นอันตรายต่อผิวหนัง และหากอยู่กลางแดดนานเกินไปจนนักเรียนขาดน้ำ ก็อาจเกิดอาการลมแดด (Heat Stroke) ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ทีมการศึกษาพรรคก้าวไกล (ก้าวLearn) ขอแสดงความห่วงใยถึงนักเรียนผู้เป็นอนาคตของประเทศทุกคน และมีข้อเสนอว่า เพื่อปกป้องนักเรียนจากภัยความร้อนในช่วงเปิดเทอมนี้ โรงเรียนควรปรับแผนกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น สอนวิชาพละในที่ร่ม อากาศถ่ายเท หรือยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่จำเป็นทุกประเภทไปก่อน รวมถึงการเข้าแถวกลางแดดช่วงเช้า
ข้อเสนอนี้สอดคล้องกับ “แนวทางการรับมือสภาพอากาศร้อนจัด” ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สั่งการไปยังโรงเรียนในสังกัดทั่วประเทศ โดยมี 6 แนวทาง คือ
1. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง งดจัดกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งรวมถึงการเข้าแถวกลางแดด
2. จัดเตรียมจุดบริการน้ำดื่มสะอาดภายในสถานศึกษาให้เพียงพอ
3. ตรวจสอบสายไฟ เครื่องปรับอากาศ และพัดลม ให้พร้อมใช้งาน
4. ในกรณีที่สภาพอากาศร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของนักเรียน ให้พิจารณาปิดเรียน และจัดการเรียนในรูปแบบอื่นๆ เช่น เรียนออนไลน์
5. ตรวจสอบการลืมนักเรียนในรถ หรือการปล่อยให้นักเรียนอยู่ในรถที่จอดตากแดด
6. ให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติแก่นักเรียนและครูในการช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อพบผู้ป่วยโรคลมแดด (Heat Stroke) และหากเกิดภาวะฉุกเฉิน ควรเรียกหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669
พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน และเราหวังว่าทางกระทรวงศึกษาธิการจะสามารถกำกับดูแลให้ทุกโรงเรียนนำไปปฏิบัติได้จริง โดยทางเรามีข้อเสนอเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ เพื่อรับมือกับสภาพอากาศร้อนในช่วงเปิดเทอม
Child Care First – กำชับให้ครูทำกิจกรรมทั้งในและนอกหลักสูตรโดยคำนึงถึงสุขภาวะ (well-being) ของเด็กเป็นสำคัญ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เป็นภัยต่อร่างกายและจิตใจของนักเรียน
วางกลไกรับผิดรับชอบ ที่อาจรวมถึงการมีมาตรการลงโทษผู้บริหารโรงเรียนอย่างจริงจังและเด็ดขาด หากมีโรงเรียนใดที่ยังคงบังคับให้นักเรียนทำกิจกรรมกลางแจ้งที่เสี่ยงต่อสุขภาพผู้เรียน โดยไม่ปล่อยให้เกิดการทำตามอำเภอใจ หรือปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเมื่อตรวจสอบพบเจอกรณีดังกล่าว
สนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม หากโรงเรียนต้องใช้ในการซ่อมแซมหรือแก้ไขปัญหาอุปกรณ์บรรเทาอากาศร้อนอย่างเร่งด่วน (เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือจุดให้บริการน้ำดื่มสะอาด)
ลงทุนพลังงานสะอาดภายในโรงเรียน (เช่น ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาสนามฟุตบอล อาคารเรียน หรือลานจอดรถ) เพื่อประหยัดค่าไฟ โดยอาจรวมถึงการสนับสนุนให้โรงเรียนขอประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้
ทบทวนความจำเป็นของกิจกรรมเข้าแถวกลางแดดตอนเช้า (แม้หลังจากคลื่นความร้อนผ่านพ้นไป) โดยพิจารณาเปลี่ยนกิจกรรมตั้งแถว เป็นกิจกรรมที่อาจตอบโจทย์วัตถุประสงค์ด้านการเรียนรู้และเหมาะสมกับสภาพอากาศที่มีแนวโน้มจะร้อนขึ้นทุกปีมากกว่า (เช่น การให้ครูประจำชั้นและนักเรียนได้ทำกิจกรรมร่วมกันในห้องเรียนก่อนมีการเรียนการสอน การอัพเดตเหตุการณ์บ้านเมืองเพื่อให้นักเรียนเท่าทันข่าวสาร) เพื่อให้เวลาของผู้เรียนถูกใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ตัวผู้เรียน