สวัสดีค่ะ
เชื่อว่าหลายคนที่ผ่านมาเห็นข้อความนี้ น่าจะเคยเป็นคนตั้งคำถามนี้กับตัวเอง
เลยอยากรู้ว่า คำตอบของแต่ละคน เป็นยังไงบ้างคะ แล้วทำไมถึงมีคำถามนี้เกิดขึ้นได้
จริงๆแล้ว เราเป็นคนนึงที่รู้สึกพอใจกับชีวิตตัวเองระดับนึงเลยค่ะ ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็พอมีพอใช้
ไม่ได้มีความสุขในทุกวัน แต่ก็มีครอบครัวที่คอยให้ปรับทุกข์ ไม่ได้เก่งอะไรเลย แต่ก็ผ่านเรื่องราวต่างๆมาได้
แต่ สิ่งที่เราได้รับการปลูกฝังและรู้สึกภูมิใจใน ชีวิตนี้ ของตัวเองที่สุดเลยคือ การมีครอบครัวที่ดี
ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวใหญ่ (หมายถึงคนที่เรารักมากๆที่เรานับได้ว่าพวกเขาคือครอบครัวนะ)
เราผูกพันกับที่บ้านมากๆ เรียกได้ว่าเป็นคนติดครอบครัวก็ว่าได้ เพราะครอบครัวที่เราอยู่ มีแต่คำว่า ความสุข ความสบายใจ และความภูมิใจ
ก่อนหน้านี้เรามีก๋ง ย่า ตา และยาย ที่เรารักมาก และภูมิใจที่เกิดมาเป็นหลานของพวกเขา ..ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็ได้จากเรากันไปหมดแล้ว
ณ ตอนนี้ เรามี พ่อ แม่ พี่ชาย อา อาสะใภ้ และลูกของอาอีก2คน (ซึ่งทั้งหมดนี้คือคนที่เราเรียกว่าครอบครัว แบบที่เรารักมากจริงๆ)
มันเป็นเรื่องความผูกพันความรู้สึกตลอดเวลาที่ผ่านในชีวิตของเรา ที่ทำให้ทั้งเราและลูกพี่ลูกน้องของเรารักกันมากๆ แบบที่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง
ซึ่งมันก็อธิบายได้ไม่ง่ายเลย เราสองครอบครัวอยู่ไกลกันคนละจังหวัด แต่ปีนึงจะต้องมีเวลาช่วงวันหยุดให้กันไม่น้อยกว่า2-3ครั้ง สมัยที่ทุกคนยังเรียนทุกปิดเทอมเราจะสลับกันไปมาตลอดช่วงปิดเทอมอยู่ด้วยกัน
เรามีพ่อ แม่ อา อาสะใภ้ ที่เรารักและเคารพมากๆ เหมือนมีพ่อ2คน แม่2คนก็ว่าได้
เรามีพี่ชายที่อายุห่างกันมาก ( ซึ่งตอนนี้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว) ที่คอยดูแลเรามาตลอดตั้งแต่เด็ก ไม่เคนทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว เป็นพี่ชายที่เรียกได้ว่าทุกคนในบ้านภูมิใจ และเป็นแบบอย่างให้เราและน้อง(ลูกพี่ลูกน้อง)รู้สึกว่า เนี่ยแหละ ถ้าเราจะมีแฟนสักคนเราจะต้องหาให้ได้แบบนี้
เรามีน้อง2คน(ลูกพี่ลูกน้อง)ที่เรารักมากๆเหมือนน้องแท้ๆ ที่ผูกพันกันมาแต่เด็ก ให้ได้ทุกอย่าง ปรึกษากันทุกเรื่อง บอกรักและคิดถึงกันได้แบบไม่เคยอาย
ดูเหมือนชีวิตของเราก็จะเป็นประมาณนี้มาตลอดช่วงอายุ30ต้นๆของเรา
แต่แล้ววันนึง มีคนๆนึงในนี้ (คือพี่ชายของของเราเอง) ทำให้เราผิดหวังและเสียใจมากๆ มากจนทำให้ทุกคนใจสลาย
(ถึงจะไม่ได้เป็นเรื่องทำร้ายทางร่างกายกัน..แต่มันแย่กับจิตใจพวกเรามาก)
หลังจากนั้นทุกคนต้องแยกย้ายกันไปฮิลใจตัวเอง (ยกเว้นคนต้นเรื่อง)
ซึ่งนี่ก็ผ่านมาจะปีนึงแล้ว แต่ทุกคนก็ยังลืมมันไม่ได้(เพราะมันเป็นเรื่องที่หนักหนามากๆ) แต่ทุกคนก็ต่างไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเสียใจ เลยพยายามลืม
และทำเหมือนไม่มีปัญหาอะไร ถึงแม้เราจะมานั่งคุยกัน ตกลงกันถึงปัญหา ซึ่งต่างก็รู้สึกว่าถึงจะรักกันเหมือนเดิม แต่จะมีอีกความรู้สึกที่แทรกเข้ามาด้วย
เราเอง ตั้งแต่เกิดเรื่องมา ไม่เคยนอนหลับก่อนเที่ยงคืนได้เลย เรื่องราวต่างๆทั้งในอดีต ทั้งอนาคต มันเข้ามาในหัวเต็มไปหมด
อย่านับเลย ว่าร้องไห้กี่ครั้งกับเรื่องนี้ นับไม่ถ้วน ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงวันนี้ เรารู้สึกเราเหมือนเป็นคนมีความสุขได้ไม่สุด
ไม่กล้าจะมีความสุข เราตัดขาดจากโลกโซเชียล ไม่อยากเสพข่าว ไม่อยากสนใจอะไรไปเลย เพราะเหมือนเรื่องราวพวกนี้มันยังส่งผลให้ความสัมพันธ์พวกเราไม่เหมือนเดิมค้างคาใจอยู่ตลอด บางครั้งก็ตลก ที่เราสามารถทำตัวเหมือนในนิยาย
ที่นั่งมองไปเรื่อยๆแล้วน้ำตาก็ไหล จนตอนนี้เราคิดว่ามันอาจจะอยู่กับเราไปทั้งชีวิตก็ได้ เลยตัดสินใจมาระบายในนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิต
เพราะปกติ เราไม่ชอบที่จะเล่าเรื่องความเศร้า เรื่องเครียดให้เพื่อนฟังเลย ถ้าจะไปปรึกษาจิตรแพทย์ก็กลัวจะใหญ่ไป
เลยคิดว่ามาระบายในนี้ ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเราน่าจะดี
เพราะคนที่ผ่านมาอ่าน คงไม่ต้องมาเป็นห่วงเรา หรือมาเป็นทุกข์ใจไปกับเราด้วย ไม่ต้องกลัวว่าเราจะโอเคมั้ย หรือกลัวว่าเราจะคิดมาก
เราไม่อยากให้คนที่ฟังเราต้องเป็นแบบนั้น
สุดท้ายถ้าใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ ก็ขอบคุณนะคะสำหรับการสละเวลา 🍂🌱
(แต่สำหรับใครที่อ่านแล้วอาจจะเป็นกังวล สบายใจได้ เรายังยิ้มได้ในทุกๆวัน)🙂
ชีวืตคืออะไร หากเรา..ไม่กล้าจะมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน
เชื่อว่าหลายคนที่ผ่านมาเห็นข้อความนี้ น่าจะเคยเป็นคนตั้งคำถามนี้กับตัวเอง
เลยอยากรู้ว่า คำตอบของแต่ละคน เป็นยังไงบ้างคะ แล้วทำไมถึงมีคำถามนี้เกิดขึ้นได้
จริงๆแล้ว เราเป็นคนนึงที่รู้สึกพอใจกับชีวิตตัวเองระดับนึงเลยค่ะ ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็พอมีพอใช้
ไม่ได้มีความสุขในทุกวัน แต่ก็มีครอบครัวที่คอยให้ปรับทุกข์ ไม่ได้เก่งอะไรเลย แต่ก็ผ่านเรื่องราวต่างๆมาได้
แต่ สิ่งที่เราได้รับการปลูกฝังและรู้สึกภูมิใจใน ชีวิตนี้ ของตัวเองที่สุดเลยคือ การมีครอบครัวที่ดี
ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวใหญ่ (หมายถึงคนที่เรารักมากๆที่เรานับได้ว่าพวกเขาคือครอบครัวนะ)
เราผูกพันกับที่บ้านมากๆ เรียกได้ว่าเป็นคนติดครอบครัวก็ว่าได้ เพราะครอบครัวที่เราอยู่ มีแต่คำว่า ความสุข ความสบายใจ และความภูมิใจ
ก่อนหน้านี้เรามีก๋ง ย่า ตา และยาย ที่เรารักมาก และภูมิใจที่เกิดมาเป็นหลานของพวกเขา ..ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็ได้จากเรากันไปหมดแล้ว
ณ ตอนนี้ เรามี พ่อ แม่ พี่ชาย อา อาสะใภ้ และลูกของอาอีก2คน (ซึ่งทั้งหมดนี้คือคนที่เราเรียกว่าครอบครัว แบบที่เรารักมากจริงๆ)
มันเป็นเรื่องความผูกพันความรู้สึกตลอดเวลาที่ผ่านในชีวิตของเรา ที่ทำให้ทั้งเราและลูกพี่ลูกน้องของเรารักกันมากๆ แบบที่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึง
ซึ่งมันก็อธิบายได้ไม่ง่ายเลย เราสองครอบครัวอยู่ไกลกันคนละจังหวัด แต่ปีนึงจะต้องมีเวลาช่วงวันหยุดให้กันไม่น้อยกว่า2-3ครั้ง สมัยที่ทุกคนยังเรียนทุกปิดเทอมเราจะสลับกันไปมาตลอดช่วงปิดเทอมอยู่ด้วยกัน
เรามีพ่อ แม่ อา อาสะใภ้ ที่เรารักและเคารพมากๆ เหมือนมีพ่อ2คน แม่2คนก็ว่าได้
เรามีพี่ชายที่อายุห่างกันมาก ( ซึ่งตอนนี้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว) ที่คอยดูแลเรามาตลอดตั้งแต่เด็ก ไม่เคนทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว เป็นพี่ชายที่เรียกได้ว่าทุกคนในบ้านภูมิใจ และเป็นแบบอย่างให้เราและน้อง(ลูกพี่ลูกน้อง)รู้สึกว่า เนี่ยแหละ ถ้าเราจะมีแฟนสักคนเราจะต้องหาให้ได้แบบนี้
เรามีน้อง2คน(ลูกพี่ลูกน้อง)ที่เรารักมากๆเหมือนน้องแท้ๆ ที่ผูกพันกันมาแต่เด็ก ให้ได้ทุกอย่าง ปรึกษากันทุกเรื่อง บอกรักและคิดถึงกันได้แบบไม่เคยอาย
ดูเหมือนชีวิตของเราก็จะเป็นประมาณนี้มาตลอดช่วงอายุ30ต้นๆของเรา
แต่แล้ววันนึง มีคนๆนึงในนี้ (คือพี่ชายของของเราเอง) ทำให้เราผิดหวังและเสียใจมากๆ มากจนทำให้ทุกคนใจสลาย
(ถึงจะไม่ได้เป็นเรื่องทำร้ายทางร่างกายกัน..แต่มันแย่กับจิตใจพวกเรามาก)
หลังจากนั้นทุกคนต้องแยกย้ายกันไปฮิลใจตัวเอง (ยกเว้นคนต้นเรื่อง)
ซึ่งนี่ก็ผ่านมาจะปีนึงแล้ว แต่ทุกคนก็ยังลืมมันไม่ได้(เพราะมันเป็นเรื่องที่หนักหนามากๆ) แต่ทุกคนก็ต่างไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเสียใจ เลยพยายามลืม
และทำเหมือนไม่มีปัญหาอะไร ถึงแม้เราจะมานั่งคุยกัน ตกลงกันถึงปัญหา ซึ่งต่างก็รู้สึกว่าถึงจะรักกันเหมือนเดิม แต่จะมีอีกความรู้สึกที่แทรกเข้ามาด้วย
เราเอง ตั้งแต่เกิดเรื่องมา ไม่เคยนอนหลับก่อนเที่ยงคืนได้เลย เรื่องราวต่างๆทั้งในอดีต ทั้งอนาคต มันเข้ามาในหัวเต็มไปหมด
อย่านับเลย ว่าร้องไห้กี่ครั้งกับเรื่องนี้ นับไม่ถ้วน ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงวันนี้ เรารู้สึกเราเหมือนเป็นคนมีความสุขได้ไม่สุด
ไม่กล้าจะมีความสุข เราตัดขาดจากโลกโซเชียล ไม่อยากเสพข่าว ไม่อยากสนใจอะไรไปเลย เพราะเหมือนเรื่องราวพวกนี้มันยังส่งผลให้ความสัมพันธ์พวกเราไม่เหมือนเดิมค้างคาใจอยู่ตลอด บางครั้งก็ตลก ที่เราสามารถทำตัวเหมือนในนิยาย
ที่นั่งมองไปเรื่อยๆแล้วน้ำตาก็ไหล จนตอนนี้เราคิดว่ามันอาจจะอยู่กับเราไปทั้งชีวิตก็ได้ เลยตัดสินใจมาระบายในนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิต
เพราะปกติ เราไม่ชอบที่จะเล่าเรื่องความเศร้า เรื่องเครียดให้เพื่อนฟังเลย ถ้าจะไปปรึกษาจิตรแพทย์ก็กลัวจะใหญ่ไป
เลยคิดว่ามาระบายในนี้ ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเราน่าจะดี
เพราะคนที่ผ่านมาอ่าน คงไม่ต้องมาเป็นห่วงเรา หรือมาเป็นทุกข์ใจไปกับเราด้วย ไม่ต้องกลัวว่าเราจะโอเคมั้ย หรือกลัวว่าเราจะคิดมาก
เราไม่อยากให้คนที่ฟังเราต้องเป็นแบบนั้น
สุดท้ายถ้าใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ ก็ขอบคุณนะคะสำหรับการสละเวลา 🍂🌱
(แต่สำหรับใครที่อ่านแล้วอาจจะเป็นกังวล สบายใจได้ เรายังยิ้มได้ในทุกๆวัน)🙂