คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
เป็นประเด็นที่น่าสนใจนะครับ ผมว่าหลายคนก็สงสัยเรื่องพวกนี้ ผมก็เคยลองหาข้อมูล หาคำตอบจากแหล่งต่างๆ
แต่พอผ่านไปสักระยะ ก็คลายความสงสัยไปเอง โดยไม่ได้สนใจว่า มันมีคำตอบสุดท้ายอันเป็นที่สิ้นสุดยังไง
ผมแบ่งปันข้อมูลเอาเท่าที่จำได้นะครับ
1. เวลาอ้างอิงตำราต่างๆ บันทึกต่างๆ แล้วมีเรื่องประมาณว่า หลังจากเหตุการณ์นั้นนี้ .... หรือหลังจากฟังธรรมจากพระพุทธองค์
แล้วมีคนบรรลุธรรมพร้อมกันทันที (ไม่ว่าจะบรรลุขั้นไหนก็ตาม) อาจจะหนึ่งคน หลายสิบ หลายร้อยคน เป็นต้น
ประเด็นแรก คือ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรอกครับ ที่จะมีใครไปรู้ว่า คนอื่นๆ บรรลุธรรมขั้นไหน อย่างไร เมื่อไหร่??
แล้วก็นำมาบันทึกไว้อย่างแม่นยำ .... ค่อยๆ พิจารณาเอาตามสติปัญญาของแต่ละท่านเลยครับว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
อ้าว!! ... ถ้ามันไม่เป็นจริงอย่างนั้น ทำไมมันถึงถูกบันทึกไว้ในตำราต่างๆ แล้วก็อ้างอิงกันมาเรื่อยๆ
.... เรื่องพวกนี้ ก็ต้องไปฟังข้อมูลจากครูอาจารย์ละกันครับ เพราะปัญญาของผมก็ไม่มากพอ
แต่ย้ำว่า การจะอ่านตำรา หรือจะยึดถือในอะไรก็ตาม ก็ต้องพิจารณาที่มาที่ไป เหตุและผล อยู่พอสมควร
เพราะบันทึกอะไรต่างๆ ที่ผ่านเวลามาหลายพันปี ไม่มีใครรู้จริงๆ หรอกครับว่า หลายพันปีก่อนเกิดอะไรขึ้นจริงๆ?
หรือระหว่างหลายพันปีที่สืบทอดกันมา มันมีการแต่งเติม คลาดเคลื่อนอะไรไปบ้าง? ทั้งในตัวตำราเอง และผู้ที่สืบทอด
พุทธบริษัทต่างๆ ก็อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนได้
...อย่าเชื่อผมง่ายๆ หรืออย่าเชื่ออะไรง่ายๆ แต่รับรู้ข้อมูลให้รอบคอบ รอบด้าน แล้วพึงไปพิจารณาเอาครับ
ลองฟังประเด็นพวกนี้ในคลิปต่างๆ เหล่านี้ แล้วจะได้มุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในพระไตรปิฎก หรือตำราชั้นต่างๆ
- พุทธไม่สนับสนุนเรื่องฤทธิ์/ปาฏิหาริย์ แต่ทำไมในตำรามีเรื่องพวกนี้อยู่เยอะ? | สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต)
https://youtu.be/b-Rnuw80W6E
- พระไตรปิฎกสืบทอดกันมาอย่างไร ผิดเพี้ยนหรือไม่? | สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต) https://www.youtube.com/playlist?list=PL85WQjF_Yosp9-cEAik94b0nS0VZLTXGW
2. คล้ายๆ กับที่เจ้าของกระทู้เขียนไว้ คือ มีคนบอกว่า คนที่บรรลุธรรมแบบฉับพลัน รวดเร็ว
หรือเพียงแค่ได้ฟังธรรมอย่างเดียว ก็บรรลุธรรมได้
"น่าจะ" ... เกิดจากการสั่งสมบารมีมามากๆๆๆๆๆ อยู่แล้ว
แล้วพอมีอะไรมากระตุกใจบางอย่าง ก็ทำให้เห็นสัจธรรม แล้วก็บรรลุธรรมได้
ประเด็นนี้ คือ การสั่งสมบารมีมามากๆๆๆๆๆ อาจจะหลายชาติก่อนๆๆๆๆได้บำเพ็ญเพียรมามากแล้ว
พอได้ฟังธรรมแล้วก็สามารถทำให้บรรลุธรรมได้
แล้วการสั่งสมบารมีที่ผ่านมา คือ เอาแต่ฟังธรรมอย่างเดียว โดยไม่ต้องฝึกฝนปฏิบัติภาวนาเลย ใช่หรือไม่?
...ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันครับ ท่านผู้นั้นอาจจะบำเพ็ญเพียรด้วยการฝึกภาวนามาแล้วหลายชาติ
แล้วพอถึงชาติที่จะบรรลุธรรม ก็อาจจะยังฝึกภาวนาอยู่เช่นกัน (หรือไม่ได้ฝึก แต่มี "ของเก่า" ติดมา)
พอได้ฟังธรรม แล้วมีอะไรมาสะกิดใจ ทำให้เกิดเห็นแจ้งในสัจธรรมขึ้นมา
หรืออื่นๆ
ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่ได้ฝึกภาวนาเลยทั้งในชาตินี้และชาติก่อนๆๆๆ แล้วเอาแต่ฟังๆๆๆๆๆ ธรรมอย่างเดียว
เพราะฉะนั้น การฟังธรรมเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะชาตินี้ หรือสะสมมาจากชาติก่อนๆๆๆๆ โดยไม่ฝึกภาวนาเลย แล้วจะทำให้เกิดการบรรลุธรรม
ผมก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นไปได้หรือไม่?
ไม่ว่าในตำราเล่าเรื่องพวกนี้ไว้เยอะแค่ไหน ก็ไม่ได้อธิบายให้เราเข้าใจได้ว่า กลไกการทำงานของจิตใจท่านผู้นั้น ทำงานยังไง
ผ่านประสบการณ์อะไรมาบ้างในภพชาติต่างๆ ถึงทำให้ท่านมีบารมีมากน้อยแค่ไหน .... ฯลฯ
เรื่องพวกนี้ เราไม่สามารถไปทำความเข้าใจได้ง่ายหรอกครับ จะจัดว่าเป็นเรื่องอจินไตยอย่างนึงก็ได้มั้งครับ
คงไม่ง่ายที่จะเอาปัญญาของเราที่เป็นระดับเด็กอนุบาล ไปพิจารณาเรื่องที่ต้องใช้ปัญญาขั้นสูง หรือแม้แต่จะมีปัญญาขั้นสูง
ก็ไม่สามารถเข้าใจเรื่องอจินไตยได้ง่ายๆ
3. แน่นอนว่า การฟังธรรมก็ทำให้เกิดปัญญาครับ แต่ประเด็นคือ ปัญญานั้น เป็นปัญญาแบบไหน?
ณ กรณีนี้ เราจะโฟกัสที่ปัญญาที่ทำให้บรรลุธรรม
เราอย่าไปพิจารณาถึงคนที่ถูกอ้างอิงในตำรา
เราลองพิจารณาด้วยตัวเองว่า ในเบื้องต้น ถ้าเราฟังธรรมอย่างเดียว โดยไม่ฝึกภาวนา
แล้วโลภ โกรธ หลง กิเลสอะไรต่างๆ ในใจเรา มันน้อยลงหรือไม่?
เวลาเจอสิ่งกระทบต่างๆ ทั้งพอใจและไม่พอใจ เรารับมือกับมันได้ดีตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำไว้หรือไม่?
ลองสังเกตดูว่า จิตใจเรามันพัฒนาไปสู่การปล่อยวาง การลดความยึดมั่นได้มากน้อยแค่ไหน เป็นต้น
ถ้าเราสามารถทำได้โดยแค่ฟังธรรมอย่างเดียว ไม่ต้องลงมือฝึกภาวนา
เราก็ฟังธรรมไปเรื่อยๆ ครับ แล้วก็สังเกตการพัฒนาจิตใจของตนเองไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าเราพบว่า ฟังธรรมมันช่วยได้ในระดับนึง มันพัฒนาไม่ได้ก้าวหน้าไปกว่านั้นมากนัก
แสดงว่า เราเป็นคนที่ต้องมีการลงมือฝึกฝนอะไรเพิ่มเติมอีก
เรายังไม่มีศักยภาพ ไม่มีบารมีมากพอที่จะบรรลุธรรมด้วยแค่การฟังธรรม หรือคิดวิเคราะห์เอาเอง
แต่เราต้องมีการลงมือฝึกฝน มีการปฏิบัติภาวนา
ปุถุชนทั่วไป แม้แต่ครูอาจารย์ในยุคต่างๆ (ไม่นับเรื่องเล่าอัศจรรย์ต่างๆของพระอรหันต์ ในตำราโบราณ)
ก็จึงต้องใช้การบำเพ็ญเพียรด้วยการฝึกฝนภาวนา
คือ ปัญญาที่เกิดจากการภาวนา การลงมือฝึกฝนปฏิบัติ เพื่อไปพบเจอสภาวธรรมที่แท้จริงบ่อยๆๆๆๆๆๆ
จนจิตใจมันยอมรับ มันเข้าใจ มันรู้ซึ้งถึงสัจธรรม ถึงความเป็นไตรลักษณ์ แล้วใจมันถึงจะปล่อยวางจากการยึดมั่นทั้งปวง
(แต่อย่าเชื่อความเห็นของผมนะครับ ผมอาจจะผิดก็ได้)
ส่วนคำแนะนำจากครูอาจารย์ ก็ลองดูจาก
- ทางเกิดของปัญญา (ฉบับแก้ไข) | สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต) https://youtu.be/TYVTTNiIkVs
- ในการฝึกสติปัฏฐาน "การพิจารณาธรรม"ไม่ได้หมายถึงการใช้"ความคิด"เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลธรรมะ https://youtu.be/VbLQdltOgpM
แต่พอผ่านไปสักระยะ ก็คลายความสงสัยไปเอง โดยไม่ได้สนใจว่า มันมีคำตอบสุดท้ายอันเป็นที่สิ้นสุดยังไง
ผมแบ่งปันข้อมูลเอาเท่าที่จำได้นะครับ
1. เวลาอ้างอิงตำราต่างๆ บันทึกต่างๆ แล้วมีเรื่องประมาณว่า หลังจากเหตุการณ์นั้นนี้ .... หรือหลังจากฟังธรรมจากพระพุทธองค์
แล้วมีคนบรรลุธรรมพร้อมกันทันที (ไม่ว่าจะบรรลุขั้นไหนก็ตาม) อาจจะหนึ่งคน หลายสิบ หลายร้อยคน เป็นต้น
ประเด็นแรก คือ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรอกครับ ที่จะมีใครไปรู้ว่า คนอื่นๆ บรรลุธรรมขั้นไหน อย่างไร เมื่อไหร่??
แล้วก็นำมาบันทึกไว้อย่างแม่นยำ .... ค่อยๆ พิจารณาเอาตามสติปัญญาของแต่ละท่านเลยครับว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
อ้าว!! ... ถ้ามันไม่เป็นจริงอย่างนั้น ทำไมมันถึงถูกบันทึกไว้ในตำราต่างๆ แล้วก็อ้างอิงกันมาเรื่อยๆ
.... เรื่องพวกนี้ ก็ต้องไปฟังข้อมูลจากครูอาจารย์ละกันครับ เพราะปัญญาของผมก็ไม่มากพอ
แต่ย้ำว่า การจะอ่านตำรา หรือจะยึดถือในอะไรก็ตาม ก็ต้องพิจารณาที่มาที่ไป เหตุและผล อยู่พอสมควร
เพราะบันทึกอะไรต่างๆ ที่ผ่านเวลามาหลายพันปี ไม่มีใครรู้จริงๆ หรอกครับว่า หลายพันปีก่อนเกิดอะไรขึ้นจริงๆ?
หรือระหว่างหลายพันปีที่สืบทอดกันมา มันมีการแต่งเติม คลาดเคลื่อนอะไรไปบ้าง? ทั้งในตัวตำราเอง และผู้ที่สืบทอด
พุทธบริษัทต่างๆ ก็อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนได้
...อย่าเชื่อผมง่ายๆ หรืออย่าเชื่ออะไรง่ายๆ แต่รับรู้ข้อมูลให้รอบคอบ รอบด้าน แล้วพึงไปพิจารณาเอาครับ
ลองฟังประเด็นพวกนี้ในคลิปต่างๆ เหล่านี้ แล้วจะได้มุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในพระไตรปิฎก หรือตำราชั้นต่างๆ
- พุทธไม่สนับสนุนเรื่องฤทธิ์/ปาฏิหาริย์ แต่ทำไมในตำรามีเรื่องพวกนี้อยู่เยอะ? | สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต)
https://youtu.be/b-Rnuw80W6E
- พระไตรปิฎกสืบทอดกันมาอย่างไร ผิดเพี้ยนหรือไม่? | สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต) https://www.youtube.com/playlist?list=PL85WQjF_Yosp9-cEAik94b0nS0VZLTXGW
2. คล้ายๆ กับที่เจ้าของกระทู้เขียนไว้ คือ มีคนบอกว่า คนที่บรรลุธรรมแบบฉับพลัน รวดเร็ว
หรือเพียงแค่ได้ฟังธรรมอย่างเดียว ก็บรรลุธรรมได้
"น่าจะ" ... เกิดจากการสั่งสมบารมีมามากๆๆๆๆๆ อยู่แล้ว
แล้วพอมีอะไรมากระตุกใจบางอย่าง ก็ทำให้เห็นสัจธรรม แล้วก็บรรลุธรรมได้
ประเด็นนี้ คือ การสั่งสมบารมีมามากๆๆๆๆๆ อาจจะหลายชาติก่อนๆๆๆๆได้บำเพ็ญเพียรมามากแล้ว
พอได้ฟังธรรมแล้วก็สามารถทำให้บรรลุธรรมได้
แล้วการสั่งสมบารมีที่ผ่านมา คือ เอาแต่ฟังธรรมอย่างเดียว โดยไม่ต้องฝึกฝนปฏิบัติภาวนาเลย ใช่หรือไม่?
...ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันครับ ท่านผู้นั้นอาจจะบำเพ็ญเพียรด้วยการฝึกภาวนามาแล้วหลายชาติ
แล้วพอถึงชาติที่จะบรรลุธรรม ก็อาจจะยังฝึกภาวนาอยู่เช่นกัน (หรือไม่ได้ฝึก แต่มี "ของเก่า" ติดมา)
พอได้ฟังธรรม แล้วมีอะไรมาสะกิดใจ ทำให้เกิดเห็นแจ้งในสัจธรรมขึ้นมา
หรืออื่นๆ
ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่ได้ฝึกภาวนาเลยทั้งในชาตินี้และชาติก่อนๆๆๆ แล้วเอาแต่ฟังๆๆๆๆๆ ธรรมอย่างเดียว
เพราะฉะนั้น การฟังธรรมเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะชาตินี้ หรือสะสมมาจากชาติก่อนๆๆๆๆ โดยไม่ฝึกภาวนาเลย แล้วจะทำให้เกิดการบรรลุธรรม
ผมก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นไปได้หรือไม่?
ไม่ว่าในตำราเล่าเรื่องพวกนี้ไว้เยอะแค่ไหน ก็ไม่ได้อธิบายให้เราเข้าใจได้ว่า กลไกการทำงานของจิตใจท่านผู้นั้น ทำงานยังไง
ผ่านประสบการณ์อะไรมาบ้างในภพชาติต่างๆ ถึงทำให้ท่านมีบารมีมากน้อยแค่ไหน .... ฯลฯ
เรื่องพวกนี้ เราไม่สามารถไปทำความเข้าใจได้ง่ายหรอกครับ จะจัดว่าเป็นเรื่องอจินไตยอย่างนึงก็ได้มั้งครับ
คงไม่ง่ายที่จะเอาปัญญาของเราที่เป็นระดับเด็กอนุบาล ไปพิจารณาเรื่องที่ต้องใช้ปัญญาขั้นสูง หรือแม้แต่จะมีปัญญาขั้นสูง
ก็ไม่สามารถเข้าใจเรื่องอจินไตยได้ง่ายๆ
3. แน่นอนว่า การฟังธรรมก็ทำให้เกิดปัญญาครับ แต่ประเด็นคือ ปัญญานั้น เป็นปัญญาแบบไหน?
ณ กรณีนี้ เราจะโฟกัสที่ปัญญาที่ทำให้บรรลุธรรม
เราอย่าไปพิจารณาถึงคนที่ถูกอ้างอิงในตำรา
เราลองพิจารณาด้วยตัวเองว่า ในเบื้องต้น ถ้าเราฟังธรรมอย่างเดียว โดยไม่ฝึกภาวนา
แล้วโลภ โกรธ หลง กิเลสอะไรต่างๆ ในใจเรา มันน้อยลงหรือไม่?
เวลาเจอสิ่งกระทบต่างๆ ทั้งพอใจและไม่พอใจ เรารับมือกับมันได้ดีตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำไว้หรือไม่?
ลองสังเกตดูว่า จิตใจเรามันพัฒนาไปสู่การปล่อยวาง การลดความยึดมั่นได้มากน้อยแค่ไหน เป็นต้น
ถ้าเราสามารถทำได้โดยแค่ฟังธรรมอย่างเดียว ไม่ต้องลงมือฝึกภาวนา
เราก็ฟังธรรมไปเรื่อยๆ ครับ แล้วก็สังเกตการพัฒนาจิตใจของตนเองไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าเราพบว่า ฟังธรรมมันช่วยได้ในระดับนึง มันพัฒนาไม่ได้ก้าวหน้าไปกว่านั้นมากนัก
แสดงว่า เราเป็นคนที่ต้องมีการลงมือฝึกฝนอะไรเพิ่มเติมอีก
เรายังไม่มีศักยภาพ ไม่มีบารมีมากพอที่จะบรรลุธรรมด้วยแค่การฟังธรรม หรือคิดวิเคราะห์เอาเอง
แต่เราต้องมีการลงมือฝึกฝน มีการปฏิบัติภาวนา
ปุถุชนทั่วไป แม้แต่ครูอาจารย์ในยุคต่างๆ (ไม่นับเรื่องเล่าอัศจรรย์ต่างๆของพระอรหันต์ ในตำราโบราณ)
ก็จึงต้องใช้การบำเพ็ญเพียรด้วยการฝึกฝนภาวนา
คือ ปัญญาที่เกิดจากการภาวนา การลงมือฝึกฝนปฏิบัติ เพื่อไปพบเจอสภาวธรรมที่แท้จริงบ่อยๆๆๆๆๆๆ
จนจิตใจมันยอมรับ มันเข้าใจ มันรู้ซึ้งถึงสัจธรรม ถึงความเป็นไตรลักษณ์ แล้วใจมันถึงจะปล่อยวางจากการยึดมั่นทั้งปวง
(แต่อย่าเชื่อความเห็นของผมนะครับ ผมอาจจะผิดก็ได้)
ส่วนคำแนะนำจากครูอาจารย์ ก็ลองดูจาก
- ทางเกิดของปัญญา (ฉบับแก้ไข) | สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปยุตฺโต) https://youtu.be/TYVTTNiIkVs
- ในการฝึกสติปัฏฐาน "การพิจารณาธรรม"ไม่ได้หมายถึงการใช้"ความคิด"เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลธรรมะ https://youtu.be/VbLQdltOgpM
แสดงความคิดเห็น
ฟังธรรมอย่างเดียวไปเรื่อยๆ ข้ามภพข้ามชาติเป็นเหตุให้เราบรรลุธรรมจากการฟังได้รึเปล่า
มีตัวอย่างในพระไตรปิฏกไหมครับ เอาแค่เฉพาะการฟังธรรมอย่างเดียวนะ
มีว่าเป็นกรรมดีกรรมหนัก เป็นบุพกรรม ส่งผลให้เราบรรลุธรรมจากการฟัง เช่น ชาติก่อนๆ ฟังธรรมมาเยอะ พอชาติหนึ่ง
ได้เจอพระพุทธเจ้าฟังธรรมแล้วก็บรรลุเลย
สะสมการฟังไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม ไม่ต้องสร้างบารมีด้านอื่น