หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
"รีวิวบ้านตัวเอง" สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจปลูกบ้าน
กระทู้สนทนา
บ้าน
บ้านเดี่ยว
บ้านสไตล์มินิมอล
"รีวิวบ้านตัวเอง" สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจปลูกบ้าน ขนาดเล็ก Size S
วันนี้จะมารีวิวบ้านตัวเอง เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคยที่กำลังตัดสินใจในการปลูกบ้านนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะมาอวดหรืออะไรเลย (เพราะบ้านผมก็อวดใครไม่ได้เลยครับหลังกะจ้อยหร่อยมาก) คือที่มารีวิวเนื่องด้วยเมื่อไม่นานมานี้ได้นั่งคุยกับเพื่อนที่กำลังจะปลูกบ้าน เพื่อก็มีคำถามมาถามเราหลายเรื่องด้วยความที่เรามีประสบการณ์(เล็กน้อย) ในการปลูกบ้านมาก่อนก็เลยแนะนำเพื่อนไปตามความรู้สึกและประสบการณ์ของตัวเอง(เท่านั้น) ส่วนตัวแล้วออกแบบบ้านเอง หมายถึงเราเขียนแปลคร่าวๆว่าเราต้องการแบบไหน มีห้องกี่ห้องตรงไหน ขนาดเท่าไหร่ มีพื้นที่อะไรอย่างไร วัสดุจะใช้อะไร ปรตู หน้าต่าง ห้องน้ำแบบไหน แล้วเราก็ไปให้ช่างผู้รับเหมาหรือสถาปนิกเขียนแบบอีกทีนะครับ ผมเขียนแบบไม่ได้เพราะไม่ได้เรียนมาทางนี้นะครับ
เริ่มที่ขนาดตัวบ้านเลยนะครับ พื้นที่ใช้สอย 93 ตารางเมตร เป็นบ้าน Size มินิมอลมากแต่อยู่สบาย(อยู่มา 2 ปีแล้วครับ) การปลูกบ้านของแต่ละคนขนาดไม่เท่ากัน เพราะต้องคำนึงถึงหลายเหตุ เช่น จำนวนผู้อยู่อาศัย, ขนาดที่ดิน (ขนาด+ทำเลที่ตั้ง เพราะมีผลต่อราคา), ความชอบส่วนตัวและครอบครัว(กรณีมีครอบครัวแล้ว), งบประมาณที่มี หมายถึง ความสามารถในการชำระหนี้ (กรณีกู้ธนาคาร) หรือ ถ้าเป็นคนที่มีเงินสดก็จำนวนเงินที่ตั้งใจจะใช้ (บวกไว้เลยอีก 20% เพราะจะเกินจากเดิมแน่นอน)และ วัสดุหรือสไตล์ที่ชอบ ทั้งหมดจะเป็นตัวแปลส่งผลต่อการออกแบบบ้านสักหลัง
บ้านผมพื้นที่ 93 ตารางเมตร เพราะอยู่กัน 2 คนกับภรรยา (ปลูกก่อนแต่งงา 1 ปี ) พื้นที่ที่เราเลือกคือพื้นที่ออกจากนอกเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร และอยู่ใกล้ที่ทำงานของผมประมาณ 4-5 กิโลเมตร (มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี) สรุปคือ เป็นกึ่งกลางระหว่าง ตัวเมืองและที่ทำงาน แน่นอนว่าเราตั้งใจให้เป็นแบบนั้น แต่ก่อนที่จะมาซึ่งทำเลที่ตั้งของบ้านนั้น (เรากู้เงินซื้อที่ดิน+ปลูกบ้าน ในคราวเดียวกัน) ต้องใจเย็นมากๆกับการหาซื้อที่ดินที่เราถูกใจ ผมโชคดีที่มีพี่ๆที่เขาหาซื้อที่ดินปลูกบ้านกันมาก่อนจึงทำให้เขารู้ว่าตรงไหนบ้างที่ประกาศขาย ผมกับภรรยาไปทุกที่ที่ประกาศขายเราไปยืน ไปดู ไปสำรวจในเวลาต่างๆกันเพื่อดูบรรยากาศของบ้าน ซึ่งก่อนที่ผมจะตัดสินใจปลูกบ้านใหม่คือผมซื้อทาวด์โฮมในตัวเมืองไว้ผมอยู่มาประมาณ 8 ปี ที่ผมตัดวินใจจะปลูกบ้านใหม่เพราะคิดถึงเรื่องของอนาคตคือ "การมีครอบครัว" ผมพิจารณาแล้วว่าบ้านที่เป็นทาวด์โฮมหลังที่อยู่มาสำหรับผมไม่เหมาะต่อการสร้างครอบครัว (อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ) เพราะอาจจะเติบโตมาจากบ้านแบบต่างจังหวัดคือมีพื้นที่ในการปลูกต้นไม้ เลี้ยงหมา หรือ อะไรก็ว่าไปและผมไม่ชอบอยู่ในเมือง ผมกับภรรยาเลือกอยู่สักพักเราก็ได้พื้นที่ พื้นที่ที่เราเลือกคือพื้นที่ที่เป็นที่โล่ง ด้านหลังเป็นทุ่งนาซึ่งอากาศถ่ายเทดี ช่วงเย็นจะมีลมพัดผ่านเย็นสบาย
พื้นที่ทั้งหมดที่เราซื้อคือ ที่ดินขนาด1 ไร่ 3 งาน กับอีก 54 ตารางวา (พื้นที่เป็นโฉนด นส.4) หน้ากว้างประมาณ 34 เมตร ส่วนยาวจำไม่ได้) เป็นผืนผ้ายาวลึกลงไปด้านหน้ามีถนน(ขณะนั้นเป็นทางลูกรัง) แต่เทศบาลมีโครงการจะทำเป็นถนนคอนกรีต ซึ่งในปัจจุบันทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนที่เราปลูกบ้านขณะนั้นยังไม่มีบ้านเลยสักหลัง แต่เราจะมีเพื่อนบ้านที่เริ่มปลูกพร้อมกัน 3 หลัง ทางด้านขวาจะเป็นบ้านคุณลุงซึ่งเป็นเจ้าของที่ดั้งเดิม โดยตรงข้ามกัน เป็นบ้านของอาจารย์มนมหาวิทยาลัยเดียวกันซึ่งผมกับเขานัดแนะและชวนกันมาซื้อที่ดินตรงนี้ด้วยกัน ขนาดของที่ดินสำหรับในเมืองจะดูใหญ่และราคาสูง แต่ของผมถือว่าอยู่นอกเมืองราคายังไม่สูงมาก(ราคากลางๆ) ซึ่งตรงกับความต้องการของเราคือมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆ แลพสามารถต่อเติมบ้านสำหรับลูกๆในอนาคตถ้ามี
การวางพื้นที่ใช้สอย เนื่องด้วยพื้นที่เป็นแบบผืนผ้าแต่ก็ไม่แคบ ผมเลือกวางตัวบ้านให้ชิดทางด้านซ้ายของที่ดิน โดยด้านขวามจะได้เป็นพื้นที่โล่ง เพราะทางด้านขวามีบ้านอีกหนึ่งหลังผมไม่ต้องการปลูกชิดทางด้านที่มีบ้าน อยากให้หน้าบ้านและข้างบ้านด้านที่มีบ้านมีความโล่ง มีพื้นที่พอสมควรจะได้มีรบกวนกัน แต่ยังสามารถสื่อสารกันได้ เดินไปคุยกันได้แบบสบายๆ และไม่ได้ปลูกชิดถนนด้านหน้า โดยผมปลูกลึกลงไปจากถนนหน้าบ้านประมาณ 25 เมตร เพราะไม่ต้องการติดถนน และเว้นพื้นที่ไว้สำหรับปลูกที่จอดรถ การปลูกที่จอดรถผมจะปลูกติดกับถนนหน้าบ้าน(ถนนหน้าบ้านเป็นซอยตันไปแค่หนเาบ้านคุณลุงเลยไปเป็นดงอ้อย ไม่สามารถไปไหนต่อได้) เพราะฉนั้นรถที่จะเข้ามาเส้นทางนี้คือรถของบ้านเรา 3 หลังเท่านั้น ผมออกแบบให้โรงจอดรถอยู่หน้าบ้านเพราะต้องการใช้แนวของที่จอดรถเป็นแนวกำแพงไปในตัว คือเราขับรถมาจอดรถแล้วเดินเข้าหน้าบ้าน ไม่เอารถเข้ามาจอดด้านข้างเพราะไม่ต้องการเสียพื้นที่ด้านข้างและไม่ชอบที่ต้องเอารถมาจอดข้างบ้านฝุ่นจะตามรถมา แต่เราก็มีประตูรั้วที่สามารถนำรถเข้ามาในบริเวณข้างบ้านได้ในกรณีจำเป็น
(ภาพอดีต)
ภาพปัจจุบัน
งบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมด(รับเหมา) ตัวบ้านทั้งหมด รวมประตู หน้าต่าง สุขภัณฑ์ ระบบน้ำ ระบบไฟทั้งหมด 1 ล้านบาทถ้วน (ไม่รวมรั้ว และ ที่จอดรถนะครับอันนี้มาทำทีหลัง) เนี่ยหลังนี้เลย 93 ตรม. 1 ล้านบาท บางคนบอกแพง บางคนบอกถูกก็คงต้องพิจารณาหลายๆอย่าง แต่สำหรับผมกำลังพอดีแล้ว คือเราสามาถเลือกวัสดุ เช่น แบบหน้าต่าง ประตู ประจกต่างๆ กระเบื้องมุงหลังคา สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ กระเบื้อง เป็นต้น ทั้งหมดเลือกได้ตามใจเราซึ่งผมก็เลือกในราคากลางๆ (ตามงบประมาณที่เราตั้งไว้) งบประมาณทั้งหมดผมตั้งไว้ที่ 3 ล้านบาท ที่ดิน 1.8 ล้าน + บ้าน 1 ล้าน ถมที่ดินอีก 3 แสน (มีวงเงินในการกู้ธนาคาร และผมสามารถผ่อนโดยไม่ลำบากตรากตรำ) แต่สุดท้ายแล้วผมได้รับวงเงินกู้ 2.7 ล้านบาท เพราะเป็นบ้านหลังที่ 2 ผมจะได้รับเงินกูเพียง 90% ของวงเงิน (เพราะฉนั้นผมต้องมีเงินสดอีก 4 แสนบาทในการดำเนินการ) เพราะฉนั้นเวลาปลูกบ้านเราต้องเตรียมเงินสดไว้ด้วยตามแต่ขนาดของบ้านที่เราจะปลูก เพราะเงินกู้จะออกเป็นงวดๆไป เราต้องมีเงินจ่ายล่วงหน้าซึ่งก็แล้วแต่การตกลงและสัญญากับผู้รับเหมา ผู้รับเหมาของผมนั้นดีมากๆ เป็นโชคดีที่สุดในด้านนี้จริงๆ ผู้รับเหมาของผมชื่อ "ช่างต๋อง" หนองบัว กาญจนบุรี (ใครสนใจหลังไมค์มาผมมีเบอร์โทร) เขารับงานทั่วประเทศนะ เป็นช่างที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างบ้านมายาวนานได้รับการแนะนำมาจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยซึ่งเขาปลูกบ้านไปก่อนหน้าเรียบร้อย ราคาสำหรับผมถือว่ารับได้คือไม่ได้ราคาถูก แต่ก็ไม่ถึงขนาดแพงจนรับไม่ได้แลกกลับมาด้วยความสบายใจและสุดท้ายก็ดีจริงๆ
ก่อนปลูกบ้านผมนั่งดูรีวิวและแบบบ้านต่างๆนานมากดูแทบจะทุกเวป ทุกเวลา จนเราได้แบบที่เราต้องการโดยเรามีสเปคในใจ ในส่วนของผมนั้นมีสเปคดังนี้คือ บ้านชั้นเดียว (สไตล์เรียบง่ายสบายๆ) 2 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ของเราเอง และ 1 ห้องนอนเล็กสำหรับอนาคต หรือ ไว้เก็บของ) 2 ห้องน้ำ (โดยเป็นห้องน้ำใสตัวโซน 1 นอน และ ห้องน้ำตัวบ้าน 1 ห้อง) ห้องนั่งเล่น/รับแขก/Living Room จะเรียกอะไรก็ได้ครับ 1 ห้อง และโซนนั่งทำงานอีก 1 โซน และ ส่วนซักล้าง+ครัว ซึ่งผมตั้งใจเลยว่าจะเป็นส่วนที่อยู่นอกบ้านออกไป เพราะมีประสบการณ์จากบ้านคุณแม่ ทุกวันนี้ครัวคือ ออกจากตัวบ้านมาเลยทสำหรับผมคือมีประตูเปิดออกไปแต่อยู่ในหลัวคาเดียวกัน พยายามไม่ให้กลิ่มเข้าบ้านและเปิดโล่ง ซึ่งในปัจจุบันส่วนนี้เป็นที่ซักล้าง แต่ไม่มีการประกอบอาหาร เพราะปลูกบ้านเล็กอีกหนึ่งหลังสำหรับคุณแม่ภรรยาที่จะเดินทางไปๆกลับๆประเทศพม่า จึงเอาส่วนที่ทำกับข้าวไปไว้ที่บ้านเล็กแทน หลังบ้านจึงมีสภาพเป็นแบบนี้ ปัจจุบัน
และอยากบอกว่าตอบโจทย์ชีวิตมากๆ เดิมทีโต๊ะทานข้าวอยู่ในบ้านแต่ไม่ได้ใช้งาน เพราะถ้าเราใช้ชีวิตแบบสะดวกคือ เราเตรียมอาหารตรงนี้และสามารถนั่งทานได้เลย เก็ล้างได้ง่าย ไม่มีกลิ่นเข้าบ้านสะดวกมาก และที่สำคัญคืออากาศถ่ายเทดีถ้าร้อนหรือฝนตกก็ย้ายเป็นบางครั้ง แต่ปัจจุบันตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันมาก ในส่วนนี้มีเครื่องซักผ้าด้วย
อย่างหนึ่งที่ตอบโจทย์ของการใช้ชีวิตประจำวันคือห้องนอนห้องแต่งตัวและห้องน้ำ บ้านของเราสามารถแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนที่ 1 คือส่วนหน้าที่เป็น Living Room ซึ่งเราเลือกทำตามทรงหลังคาทำให้ดูกว้างขึ้น ส่วนที่ 2 คือพื้นที่ส่วนตัว คือ ส่วนห้องนอน และส่วนที่ 3 คือ พื้นที่ตรงกลางได้แก่ ห้องเล็ก ห้องน้ำ และพื้นที่ทำงาน จากข้อมูลตรงนี้ขอบอกเลยว่า พื้นที่ที่เราควรใส่ใจในการออกแบบบ้านคือ "ห้องนอน และพื้นที่ส่วนตัว" หลายบ้านออกแบบบ้านมาให้ห้องมีขนาดพอๆกัน มีห้องนอนแขกอะไรแบบนั้น จากประสบการณ์จากบ้านแม่(ซึ่งผมเป็นคนออกแบบเองเหมือนกัน) ปัจจุบันห้องนอนแขกนี่คือแทบไม่ได้ใช้ เพราะฉนั้นพื้นที่ที่เราใช้ต้องให้ความสำคัญคือ ห้องนอน สำหรับผมควรจะมีพื้นที่มากที่สุดในบ้าน (ตามสัดส่วนขนาดของบ้าน) สำหรับบ้านผมในปัจจุบันไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมดที่บอกมานะครับ แต่ก็ตอบสนองต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดี ถ้าเพิ่มได้ก็อยากเพิ่มพื้นที่แต่งตัวกับห้องน้ำส่วนตัวอีก 50 เซนติเมตร ส่วนห้องรับแขกหรือ Living Room เนี่ย อยากบอกว่า ใช้งานประมาณ 20% ของชีวิตจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่เลย ยิ่งถ้าเราเป็นครอบครัวเล็กอยู่กับ 2 คน ก็ไม่มีความจำเป็นเท่าใด แต่ก็วางแผนล่วงหน้าว่าถ้ามีลูกเราก็สามารถปรับเป็นพื้นที่สำหรับลูกได้ เพราะเราไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมาก
ขนาดของพื้นที่ต่างๆในบ้านจะรีวิวเป็นคร่าวๆนะครับ เริ่มจากนอกบ้านตั้งแต่ที่จอดรถมาถึงหน้าบ้านนะครับ จากที่จอดรถมาก็จะมีทางเดินเล็กๆมาที่ประตูหน้าบ้านซึ่งอยู่มุมซ้ายของบ้านเป็นประตูไม้บานเดียวแบบนี้เลยครับ
ประตูหน้าบ้านมีรั้วเล็กๆกันหมาครับ ผมกับภรรยาชอบเลี้ยงหมา มี 5 ตัว แต่ละตัวซนมากก็เลยต้องทำรั้วเล็กกันไว้ รองเท้าจะได้ไม่หายแบบไร้ร่องรอย 555 ก่อนหน้านี่จอดไม่ได้เลย เปิดประตูเข้ามาก็จะจเอกับห้องรับ Riving Room (นานๆทีจะมานั่ง) ขนาด 4x4 เมตร แต่แบ่งเป็นพื้นที่ในการทำประตูบ้านก็เหลือไม่ถึงแล้วครับ สภาพก็ประมาณนี้
ตรงส่วนนี้จะมีประตูกระจกเปิดออกได้เป็นบานสไลค์เปิดออกไปจะมีเทอเรสยืนออกไปเพื่อนั่งเล่นแบบนี้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
บ้านผมดีไหมครับ ข้างหน้าเป็นน้ำ ข้างหลังเป็นภูเขา
ใช้ระบบโซล่าเซลล์กับน้ำบาดาล 100% รักษ์โลก หน้าบ้านมีต้นประดู่เรียงกัน
ยู่ยี่
โชว์ล่าสุด โน้ส อุดม ... ทัศนคติที่ตามสังคมไม่ทันแล้ว
จากคลิปที่ตัดแชร์ๆ รู้สึกว่า ทัศนคติของ โน้ส อุดม ... ตามสังคมไม่ทันแล้ว จากที่เคยจิกกัดได้อย่างเจ็บแสบ แต่ล่าสุด โน้ส อุดม เหมือนคนแก่ที่เค้าเรียกว่า "มนุษย์ลุง" การวิพากญ์วิจารย์ของโน้ต ม
supatjay
ทุ่มเงินสด 1 ล้าน บาท หวังถูกรางวัลที่ 1 สุดท้ายฝันสลาย ทำยังไงดีครับ?
ปีที่แล้วครับ ลองทุ่มซื้อดูครับ 1 ล้านบาท หวังถูกรางวัลที่ 1 จะได้ถึง 30 ล้านบาท ผ่านไป 1 ปี ฝันสลายครับ ได้ ผลตอบแทน 7,600 บาท ถูกเดือนละ 600 บาททุกเดือน ยังดีมีเดือนนึง ได้ 1,200 บาท ยังเหลือเ
HMC
เดี๋ยวนี้คนไทยไม่นิยมมีบ้านแบบใต้ถุนสูง กันแล้วเหรอ
ผมยังจำครั้งนึงสมัยสงกรานต์ แม่ผมพากลับบ้านนอก หน้าร้อน มันก็ร้อนอยู่ ตอนบ่ายๆ เราจะมานอนเล่นอยู่ใต้ถุนบ้านกัน ลมพัดเอื่อยๆ เย็นดี ผมว่าภูมิปัญญาคนไทยสมัยก่อนเขาสร้างบ้านได้ตรงกับสภาพอากาศบ้านเรานะ&nb
สมาชิกหมายเลข 1840241
เรียกอาหารในรูปนี้ว่าอะไรคะ
ที่บ้านเรียก ถ่อหรือท้อ แบบรู้กันเองในบ้าน มีไส้เป็นกุยช่าย เอามาทอด กินกับซีอิ๊วขาว อร่อยดี เหมือนเคยได้ยินว่ามีไส้ถั่วด้วย แต่ยังไม่เคยเห็น ชื่อจริงๆ คือชื่อว่าอะไรคะ และมีกี่ไส้
สมาชิกหมายเลข 7918220
🏡ขอคำแนะนำ แบบบ้านงบ 1 ล้านบาท พร้อมอยู่ ได้ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ไหวไหมครับ❔
🤔 กำลังวางแผนสร้างบ้านครับ งบประมาณตั้งไว้ที่ 1 ล้านบาท อยากได้แบบบ้านที่ตอบโจทย์ตามนี้: ✅ 3 ห้องนอน (มี 1 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว) ✅ 1 ห้องน้ำ ✅ 1 ห้องโถง สำห
สมาชิกหมายเลข 6707110
ถ้าจะรีโนเวทห้องแถวสี่คู่หา เป็นบ้าน 3+ ห้องนอน ช่วยคิดหน่อยควรปรับผังยังไง
ห้องแถวชั้นเดียว 4 คูหา ห้องนึงหน้ากว้าง 3.5 เมตร ยาวประมาณ 8 เมตร เสาจะเป็น 4 เมตร 4 เมตร และก็2เมตรตรงห้องน้ำ(สีฟ้าๆ) ทางเข้าอยู่ทางด้านล่างของรูป เป็นประตูม้วนเหล็ก ประตูบ้านหันไปทางทิศ
สมาชิกหมายเลข 6789433
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันท์ใด ถนนในซอยกรุงเทพฯก็อาจใช้เวลาเป็นปีๆ
ขอแชร์ประสบการณ์การร้องทุกข์ฉบับชาวกรุงเทพมหานคร ที่แปลว่า City of Angels!! 1.การขอทางม้าลาย ใช้เวลา 3 ปี ผ่านผู้ว่าฯ 2 สมัย โดยขั้นตอนมาติดตรงการหาผู้รับเหมาค้างอยู่เป็นปีๆ ทั้งนี้ต้องมีการสำรวจจำนว
สมาชิกหมายเลข 8087488
ปากีสถาน วิวพันล้าน หนาวติดลบ EP8:
Skadu – Kaplu.วันที่ 8 ของการเดินทาง ป้าๆ ตื่นขึ้นมาด้วยวิวพันล้านหน้าที่พัก ในเมือง Skadu วิวสวยๆ จากหน้าบ้าน วันนี้อากาศไม่หนาวมาก (ไม่นับตอนกลางคืนที่หนาวทรมานทุกวัน) น่าจะเพราะวันนี้แดดจัด แ
ป้าชอบเที่ยว
Dairy Queen บุกเปิดร้านในทำเลเดียวกับ 7-Eleven
จากห้างสู่ร้านสะดวกซื้อ! เคล็ดลับปั้นยอดขายใหม่ของ Dairy Queen อยู่ที่ 7-Eleven ขายดี 7-8 แสนบาทต่อเดือนใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเราจะได้เห็นร้านไอศกรีมที่มักอยู่ใน
Magpies
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บ้าน
บ้านเดี่ยว
บ้านสไตล์มินิมอล
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 5
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
"รีวิวบ้านตัวเอง" สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจปลูกบ้าน
วันนี้จะมารีวิวบ้านตัวเอง เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคยที่กำลังตัดสินใจในการปลูกบ้านนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะมาอวดหรืออะไรเลย (เพราะบ้านผมก็อวดใครไม่ได้เลยครับหลังกะจ้อยหร่อยมาก) คือที่มารีวิวเนื่องด้วยเมื่อไม่นานมานี้ได้นั่งคุยกับเพื่อนที่กำลังจะปลูกบ้าน เพื่อก็มีคำถามมาถามเราหลายเรื่องด้วยความที่เรามีประสบการณ์(เล็กน้อย) ในการปลูกบ้านมาก่อนก็เลยแนะนำเพื่อนไปตามความรู้สึกและประสบการณ์ของตัวเอง(เท่านั้น) ส่วนตัวแล้วออกแบบบ้านเอง หมายถึงเราเขียนแปลคร่าวๆว่าเราต้องการแบบไหน มีห้องกี่ห้องตรงไหน ขนาดเท่าไหร่ มีพื้นที่อะไรอย่างไร วัสดุจะใช้อะไร ปรตู หน้าต่าง ห้องน้ำแบบไหน แล้วเราก็ไปให้ช่างผู้รับเหมาหรือสถาปนิกเขียนแบบอีกทีนะครับ ผมเขียนแบบไม่ได้เพราะไม่ได้เรียนมาทางนี้นะครับ
บ้านผมพื้นที่ 93 ตารางเมตร เพราะอยู่กัน 2 คนกับภรรยา (ปลูกก่อนแต่งงา 1 ปี ) พื้นที่ที่เราเลือกคือพื้นที่ออกจากนอกเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร และอยู่ใกล้ที่ทำงานของผมประมาณ 4-5 กิโลเมตร (มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี) สรุปคือ เป็นกึ่งกลางระหว่าง ตัวเมืองและที่ทำงาน แน่นอนว่าเราตั้งใจให้เป็นแบบนั้น แต่ก่อนที่จะมาซึ่งทำเลที่ตั้งของบ้านนั้น (เรากู้เงินซื้อที่ดิน+ปลูกบ้าน ในคราวเดียวกัน) ต้องใจเย็นมากๆกับการหาซื้อที่ดินที่เราถูกใจ ผมโชคดีที่มีพี่ๆที่เขาหาซื้อที่ดินปลูกบ้านกันมาก่อนจึงทำให้เขารู้ว่าตรงไหนบ้างที่ประกาศขาย ผมกับภรรยาไปทุกที่ที่ประกาศขายเราไปยืน ไปดู ไปสำรวจในเวลาต่างๆกันเพื่อดูบรรยากาศของบ้าน ซึ่งก่อนที่ผมจะตัดสินใจปลูกบ้านใหม่คือผมซื้อทาวด์โฮมในตัวเมืองไว้ผมอยู่มาประมาณ 8 ปี ที่ผมตัดวินใจจะปลูกบ้านใหม่เพราะคิดถึงเรื่องของอนาคตคือ "การมีครอบครัว" ผมพิจารณาแล้วว่าบ้านที่เป็นทาวด์โฮมหลังที่อยู่มาสำหรับผมไม่เหมาะต่อการสร้างครอบครัว (อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ) เพราะอาจจะเติบโตมาจากบ้านแบบต่างจังหวัดคือมีพื้นที่ในการปลูกต้นไม้ เลี้ยงหมา หรือ อะไรก็ว่าไปและผมไม่ชอบอยู่ในเมือง ผมกับภรรยาเลือกอยู่สักพักเราก็ได้พื้นที่ พื้นที่ที่เราเลือกคือพื้นที่ที่เป็นที่โล่ง ด้านหลังเป็นทุ่งนาซึ่งอากาศถ่ายเทดี ช่วงเย็นจะมีลมพัดผ่านเย็นสบาย
พื้นที่ทั้งหมดที่เราซื้อคือ ที่ดินขนาด1 ไร่ 3 งาน กับอีก 54 ตารางวา (พื้นที่เป็นโฉนด นส.4) หน้ากว้างประมาณ 34 เมตร ส่วนยาวจำไม่ได้) เป็นผืนผ้ายาวลึกลงไปด้านหน้ามีถนน(ขณะนั้นเป็นทางลูกรัง) แต่เทศบาลมีโครงการจะทำเป็นถนนคอนกรีต ซึ่งในปัจจุบันทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนที่เราปลูกบ้านขณะนั้นยังไม่มีบ้านเลยสักหลัง แต่เราจะมีเพื่อนบ้านที่เริ่มปลูกพร้อมกัน 3 หลัง ทางด้านขวาจะเป็นบ้านคุณลุงซึ่งเป็นเจ้าของที่ดั้งเดิม โดยตรงข้ามกัน เป็นบ้านของอาจารย์มนมหาวิทยาลัยเดียวกันซึ่งผมกับเขานัดแนะและชวนกันมาซื้อที่ดินตรงนี้ด้วยกัน ขนาดของที่ดินสำหรับในเมืองจะดูใหญ่และราคาสูง แต่ของผมถือว่าอยู่นอกเมืองราคายังไม่สูงมาก(ราคากลางๆ) ซึ่งตรงกับความต้องการของเราคือมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆ แลพสามารถต่อเติมบ้านสำหรับลูกๆในอนาคตถ้ามี
การวางพื้นที่ใช้สอย เนื่องด้วยพื้นที่เป็นแบบผืนผ้าแต่ก็ไม่แคบ ผมเลือกวางตัวบ้านให้ชิดทางด้านซ้ายของที่ดิน โดยด้านขวามจะได้เป็นพื้นที่โล่ง เพราะทางด้านขวามีบ้านอีกหนึ่งหลังผมไม่ต้องการปลูกชิดทางด้านที่มีบ้าน อยากให้หน้าบ้านและข้างบ้านด้านที่มีบ้านมีความโล่ง มีพื้นที่พอสมควรจะได้มีรบกวนกัน แต่ยังสามารถสื่อสารกันได้ เดินไปคุยกันได้แบบสบายๆ และไม่ได้ปลูกชิดถนนด้านหน้า โดยผมปลูกลึกลงไปจากถนนหน้าบ้านประมาณ 25 เมตร เพราะไม่ต้องการติดถนน และเว้นพื้นที่ไว้สำหรับปลูกที่จอดรถ การปลูกที่จอดรถผมจะปลูกติดกับถนนหน้าบ้าน(ถนนหน้าบ้านเป็นซอยตันไปแค่หนเาบ้านคุณลุงเลยไปเป็นดงอ้อย ไม่สามารถไปไหนต่อได้) เพราะฉนั้นรถที่จะเข้ามาเส้นทางนี้คือรถของบ้านเรา 3 หลังเท่านั้น ผมออกแบบให้โรงจอดรถอยู่หน้าบ้านเพราะต้องการใช้แนวของที่จอดรถเป็นแนวกำแพงไปในตัว คือเราขับรถมาจอดรถแล้วเดินเข้าหน้าบ้าน ไม่เอารถเข้ามาจอดด้านข้างเพราะไม่ต้องการเสียพื้นที่ด้านข้างและไม่ชอบที่ต้องเอารถมาจอดข้างบ้านฝุ่นจะตามรถมา แต่เราก็มีประตูรั้วที่สามารถนำรถเข้ามาในบริเวณข้างบ้านได้ในกรณีจำเป็น
(ภาพอดีต)
ภาพปัจจุบัน
งบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมด(รับเหมา) ตัวบ้านทั้งหมด รวมประตู หน้าต่าง สุขภัณฑ์ ระบบน้ำ ระบบไฟทั้งหมด 1 ล้านบาทถ้วน (ไม่รวมรั้ว และ ที่จอดรถนะครับอันนี้มาทำทีหลัง) เนี่ยหลังนี้เลย 93 ตรม. 1 ล้านบาท บางคนบอกแพง บางคนบอกถูกก็คงต้องพิจารณาหลายๆอย่าง แต่สำหรับผมกำลังพอดีแล้ว คือเราสามาถเลือกวัสดุ เช่น แบบหน้าต่าง ประตู ประจกต่างๆ กระเบื้องมุงหลังคา สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ กระเบื้อง เป็นต้น ทั้งหมดเลือกได้ตามใจเราซึ่งผมก็เลือกในราคากลางๆ (ตามงบประมาณที่เราตั้งไว้) งบประมาณทั้งหมดผมตั้งไว้ที่ 3 ล้านบาท ที่ดิน 1.8 ล้าน + บ้าน 1 ล้าน ถมที่ดินอีก 3 แสน (มีวงเงินในการกู้ธนาคาร และผมสามารถผ่อนโดยไม่ลำบากตรากตรำ) แต่สุดท้ายแล้วผมได้รับวงเงินกู้ 2.7 ล้านบาท เพราะเป็นบ้านหลังที่ 2 ผมจะได้รับเงินกูเพียง 90% ของวงเงิน (เพราะฉนั้นผมต้องมีเงินสดอีก 4 แสนบาทในการดำเนินการ) เพราะฉนั้นเวลาปลูกบ้านเราต้องเตรียมเงินสดไว้ด้วยตามแต่ขนาดของบ้านที่เราจะปลูก เพราะเงินกู้จะออกเป็นงวดๆไป เราต้องมีเงินจ่ายล่วงหน้าซึ่งก็แล้วแต่การตกลงและสัญญากับผู้รับเหมา ผู้รับเหมาของผมนั้นดีมากๆ เป็นโชคดีที่สุดในด้านนี้จริงๆ ผู้รับเหมาของผมชื่อ "ช่างต๋อง" หนองบัว กาญจนบุรี (ใครสนใจหลังไมค์มาผมมีเบอร์โทร) เขารับงานทั่วประเทศนะ เป็นช่างที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างบ้านมายาวนานได้รับการแนะนำมาจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัยซึ่งเขาปลูกบ้านไปก่อนหน้าเรียบร้อย ราคาสำหรับผมถือว่ารับได้คือไม่ได้ราคาถูก แต่ก็ไม่ถึงขนาดแพงจนรับไม่ได้แลกกลับมาด้วยความสบายใจและสุดท้ายก็ดีจริงๆ
ก่อนปลูกบ้านผมนั่งดูรีวิวและแบบบ้านต่างๆนานมากดูแทบจะทุกเวป ทุกเวลา จนเราได้แบบที่เราต้องการโดยเรามีสเปคในใจ ในส่วนของผมนั้นมีสเปคดังนี้คือ บ้านชั้นเดียว (สไตล์เรียบง่ายสบายๆ) 2 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ของเราเอง และ 1 ห้องนอนเล็กสำหรับอนาคต หรือ ไว้เก็บของ) 2 ห้องน้ำ (โดยเป็นห้องน้ำใสตัวโซน 1 นอน และ ห้องน้ำตัวบ้าน 1 ห้อง) ห้องนั่งเล่น/รับแขก/Living Room จะเรียกอะไรก็ได้ครับ 1 ห้อง และโซนนั่งทำงานอีก 1 โซน และ ส่วนซักล้าง+ครัว ซึ่งผมตั้งใจเลยว่าจะเป็นส่วนที่อยู่นอกบ้านออกไป เพราะมีประสบการณ์จากบ้านคุณแม่ ทุกวันนี้ครัวคือ ออกจากตัวบ้านมาเลยทสำหรับผมคือมีประตูเปิดออกไปแต่อยู่ในหลัวคาเดียวกัน พยายามไม่ให้กลิ่มเข้าบ้านและเปิดโล่ง ซึ่งในปัจจุบันส่วนนี้เป็นที่ซักล้าง แต่ไม่มีการประกอบอาหาร เพราะปลูกบ้านเล็กอีกหนึ่งหลังสำหรับคุณแม่ภรรยาที่จะเดินทางไปๆกลับๆประเทศพม่า จึงเอาส่วนที่ทำกับข้าวไปไว้ที่บ้านเล็กแทน หลังบ้านจึงมีสภาพเป็นแบบนี้ ปัจจุบัน
และอยากบอกว่าตอบโจทย์ชีวิตมากๆ เดิมทีโต๊ะทานข้าวอยู่ในบ้านแต่ไม่ได้ใช้งาน เพราะถ้าเราใช้ชีวิตแบบสะดวกคือ เราเตรียมอาหารตรงนี้และสามารถนั่งทานได้เลย เก็ล้างได้ง่าย ไม่มีกลิ่นเข้าบ้านสะดวกมาก และที่สำคัญคืออากาศถ่ายเทดีถ้าร้อนหรือฝนตกก็ย้ายเป็นบางครั้ง แต่ปัจจุบันตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันมาก ในส่วนนี้มีเครื่องซักผ้าด้วย
อย่างหนึ่งที่ตอบโจทย์ของการใช้ชีวิตประจำวันคือห้องนอนห้องแต่งตัวและห้องน้ำ บ้านของเราสามารถแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนที่ 1 คือส่วนหน้าที่เป็น Living Room ซึ่งเราเลือกทำตามทรงหลังคาทำให้ดูกว้างขึ้น ส่วนที่ 2 คือพื้นที่ส่วนตัว คือ ส่วนห้องนอน และส่วนที่ 3 คือ พื้นที่ตรงกลางได้แก่ ห้องเล็ก ห้องน้ำ และพื้นที่ทำงาน จากข้อมูลตรงนี้ขอบอกเลยว่า พื้นที่ที่เราควรใส่ใจในการออกแบบบ้านคือ "ห้องนอน และพื้นที่ส่วนตัว" หลายบ้านออกแบบบ้านมาให้ห้องมีขนาดพอๆกัน มีห้องนอนแขกอะไรแบบนั้น จากประสบการณ์จากบ้านแม่(ซึ่งผมเป็นคนออกแบบเองเหมือนกัน) ปัจจุบันห้องนอนแขกนี่คือแทบไม่ได้ใช้ เพราะฉนั้นพื้นที่ที่เราใช้ต้องให้ความสำคัญคือ ห้องนอน สำหรับผมควรจะมีพื้นที่มากที่สุดในบ้าน (ตามสัดส่วนขนาดของบ้าน) สำหรับบ้านผมในปัจจุบันไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมดที่บอกมานะครับ แต่ก็ตอบสนองต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดี ถ้าเพิ่มได้ก็อยากเพิ่มพื้นที่แต่งตัวกับห้องน้ำส่วนตัวอีก 50 เซนติเมตร ส่วนห้องรับแขกหรือ Living Room เนี่ย อยากบอกว่า ใช้งานประมาณ 20% ของชีวิตจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่เลย ยิ่งถ้าเราเป็นครอบครัวเล็กอยู่กับ 2 คน ก็ไม่มีความจำเป็นเท่าใด แต่ก็วางแผนล่วงหน้าว่าถ้ามีลูกเราก็สามารถปรับเป็นพื้นที่สำหรับลูกได้ เพราะเราไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมาก
ขนาดของพื้นที่ต่างๆในบ้านจะรีวิวเป็นคร่าวๆนะครับ เริ่มจากนอกบ้านตั้งแต่ที่จอดรถมาถึงหน้าบ้านนะครับ จากที่จอดรถมาก็จะมีทางเดินเล็กๆมาที่ประตูหน้าบ้านซึ่งอยู่มุมซ้ายของบ้านเป็นประตูไม้บานเดียวแบบนี้เลยครับ
ประตูหน้าบ้านมีรั้วเล็กๆกันหมาครับ ผมกับภรรยาชอบเลี้ยงหมา มี 5 ตัว แต่ละตัวซนมากก็เลยต้องทำรั้วเล็กกันไว้ รองเท้าจะได้ไม่หายแบบไร้ร่องรอย 555 ก่อนหน้านี่จอดไม่ได้เลย เปิดประตูเข้ามาก็จะจเอกับห้องรับ Riving Room (นานๆทีจะมานั่ง) ขนาด 4x4 เมตร แต่แบ่งเป็นพื้นที่ในการทำประตูบ้านก็เหลือไม่ถึงแล้วครับ สภาพก็ประมาณนี้
ตรงส่วนนี้จะมีประตูกระจกเปิดออกได้เป็นบานสไลค์เปิดออกไปจะมีเทอเรสยืนออกไปเพื่อนั่งเล่นแบบนี้ครับ