อดีตนางเอกหน้าอิ่มคนนี้ หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นตาเท่าไหร่ แม้แต่นามนางก็คงมีน้อยคนที่จะจดจำได้ กระทั่งประวัติในโลกออนไลน์ก็ไม่มีปรากฏ
ผุยเลยต้องค้นเรื่องของเธอจากทีวีพูลปีเก่า ๆ ผนวกกับความทรงจำสีจางที่บันทึกเอาไว้
แต่ชื่อของ "ซิดนีย์-กุลธิดา" ก็กลายตำนานอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ละครไทย ในหัวข้อ "นางเอกเรื่องเดียว" จากละครภาคสายช่วงสุดสัปดาห์ปีพ.ศ.๒๕๔๕ ของวิกท่าเรือ ค่ายทีวีธันเดอร์ เรื่อง "แผลหัวใจ" ประกบพระเอก-พิธีกรลูกหม้อประจำค่าย ที่มีชื่อเก่าคือ "กมล"
โดยผู้กำกับฯ รุ่นเดอะ ที่มีลูกสาวเป็นนักร้องแหบเสน่ห์ เคยอวยยศเธอว่าเป็นนางเอกที่ร้องไห้สวย น้ำตาหยดใหญ่ ราวกับนางเอกหนังไทยในอดีตคนหนึ่ง ซึ่งบัดนี้เธอต้องอยู่โลกมืดชั่วนิรันดร์
แม้กระแสและเรตติ้งละคร จะไม่ถือว่าเปรี้ยงปร้าง แต่ก็น่าจะต่อยอดได้กว้างขวาง เพราะอายุยังน้อยและหน้าตาดี ไม่ดูเป็น "ฝรั่งข้างรั้ว" หรือ "หมวยเยาวราช" ที่หาละครไทยลงได้ยากกว่า
ถ้าหากเธอไม่หลงลมลิ้นของนิตยสารทีวีพูล ที่ชักชวนให้ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ จะได้แจ้งเกิดแบบระเบิดระเบ้อ (แต่จริง ๆ หนังสือคงอยากกระตุ้นยอดขายมากกว่า เพราะนางแบบหน้าปกยังใหม่มาก ไม่มีชื่อเสียง อาจจะขายยาก ถ้าไม่มีจุดขายแบบนี้มาเรียกร้องความสนใจค่ะ)
แต่อยากบอกให้รู้ว่า วงจรชีวิตของดาราที่อวดเนื้อสาว ไม่เคยยาวนานเท่าดาราที่ขายฝีมือ เพราะเมื่อคนเห็นนวลนางในครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปก็ไม่มีอะไรให้น่าค้นหาอีก
การตัดสินใจของเธอในครั้งนั้น ทำให้ตำแหน่งนางเอกดาวรุ่งอนาคตไกล ลอยเลยลิบลับไม่กลับคืน ถูกตัดขาดจากค่ายละครที่ปลุกปั้น
จนสุดท้าย ก็กลายเป็นนางสมทบตัวเจ็ดตัวแปด ในละครเรื่อง "ทับตะวัน" ของค่ายทีวีซีน รับบทเป็นลูกสาวนางเอกผิวสำลีเม็ดใน ก่อนจะหายสาบสูญไปจากสารบบมายาไทย
จากบทสัมภาษณ์ในทีวีพูลเล่มนี้ เธอดูมีความมั่นใจมาก และเคยเติบโตที่ต่างประเทศมาก่อน ความคิดเลยอาจจะเหมือนสาวหัวนอก
อาจเป็นเพราะความอยากดัง หรืออาจจะเพราะยังเยาว์วัยไม่ทันเหลี่ยมคน ไม่ทันคิดหน้าคิดหลังให้ถ้วนถี่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดพลาดของเธอด้วย เพราะไม่มีใครบังคับ หรือเอาปืนมาจ่อหลังให้ถ่ายอะไรแบบนี้
นับเป็นบทเรียนล้ำค่าของดาราหน้าใหม่ ที่ต้องมีพ่อแม่ตามดูแลอย่างใกล้ชิด
เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครหวังดีกับใครอย่างจริงจัง
ผลประโยชน์เท่านั้นคือคำตอบ
คนแปลกหน้าหลายคน อาจจะพูดดี แต่ประสงค์ร้าย
พ่อแม่บางคนอาจจะพูดร้าย แต่หวังดีต่อลูกอย่างจริงแท้และแน่นอนค่ะ
(ถ้าไม่เจอพ่อบังเกิดเกล้าแบบ "เจ๊หอก" หรืออีกนามของ "บริทนีย์ สเปียร์ส" นะคะ)
ขอให้ทุกคนมีสติและระมัดระวังในทุกการกระทำค่ะ เพราะอดีตบางอย่างมันกลับไปแก้ไขไม่ได้
เหลือไว้แต่เพียง "แผลชีวิต" ที่ยังคงติดค้างอยู่ในความทรงจำตลอดกาล
= นางเอกดาวรุ่งวิกน้อยสี ที่หายไปเพราะถ่ายหวิวขึ้นปกทีวีพูล =
ผุยเลยต้องค้นเรื่องของเธอจากทีวีพูลปีเก่า ๆ ผนวกกับความทรงจำสีจางที่บันทึกเอาไว้
แต่ชื่อของ "ซิดนีย์-กุลธิดา" ก็กลายตำนานอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ละครไทย ในหัวข้อ "นางเอกเรื่องเดียว" จากละครภาคสายช่วงสุดสัปดาห์ปีพ.ศ.๒๕๔๕ ของวิกท่าเรือ ค่ายทีวีธันเดอร์ เรื่อง "แผลหัวใจ" ประกบพระเอก-พิธีกรลูกหม้อประจำค่าย ที่มีชื่อเก่าคือ "กมล"
โดยผู้กำกับฯ รุ่นเดอะ ที่มีลูกสาวเป็นนักร้องแหบเสน่ห์ เคยอวยยศเธอว่าเป็นนางเอกที่ร้องไห้สวย น้ำตาหยดใหญ่ ราวกับนางเอกหนังไทยในอดีตคนหนึ่ง ซึ่งบัดนี้เธอต้องอยู่โลกมืดชั่วนิรันดร์
แม้กระแสและเรตติ้งละคร จะไม่ถือว่าเปรี้ยงปร้าง แต่ก็น่าจะต่อยอดได้กว้างขวาง เพราะอายุยังน้อยและหน้าตาดี ไม่ดูเป็น "ฝรั่งข้างรั้ว" หรือ "หมวยเยาวราช" ที่หาละครไทยลงได้ยากกว่า
ถ้าหากเธอไม่หลงลมลิ้นของนิตยสารทีวีพูล ที่ชักชวนให้ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ จะได้แจ้งเกิดแบบระเบิดระเบ้อ (แต่จริง ๆ หนังสือคงอยากกระตุ้นยอดขายมากกว่า เพราะนางแบบหน้าปกยังใหม่มาก ไม่มีชื่อเสียง อาจจะขายยาก ถ้าไม่มีจุดขายแบบนี้มาเรียกร้องความสนใจค่ะ)
แต่อยากบอกให้รู้ว่า วงจรชีวิตของดาราที่อวดเนื้อสาว ไม่เคยยาวนานเท่าดาราที่ขายฝีมือ เพราะเมื่อคนเห็นนวลนางในครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปก็ไม่มีอะไรให้น่าค้นหาอีก
การตัดสินใจของเธอในครั้งนั้น ทำให้ตำแหน่งนางเอกดาวรุ่งอนาคตไกล ลอยเลยลิบลับไม่กลับคืน ถูกตัดขาดจากค่ายละครที่ปลุกปั้น
จนสุดท้าย ก็กลายเป็นนางสมทบตัวเจ็ดตัวแปด ในละครเรื่อง "ทับตะวัน" ของค่ายทีวีซีน รับบทเป็นลูกสาวนางเอกผิวสำลีเม็ดใน ก่อนจะหายสาบสูญไปจากสารบบมายาไทย
จากบทสัมภาษณ์ในทีวีพูลเล่มนี้ เธอดูมีความมั่นใจมาก และเคยเติบโตที่ต่างประเทศมาก่อน ความคิดเลยอาจจะเหมือนสาวหัวนอก
อาจเป็นเพราะความอยากดัง หรืออาจจะเพราะยังเยาว์วัยไม่ทันเหลี่ยมคน ไม่ทันคิดหน้าคิดหลังให้ถ้วนถี่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดพลาดของเธอด้วย เพราะไม่มีใครบังคับ หรือเอาปืนมาจ่อหลังให้ถ่ายอะไรแบบนี้
นับเป็นบทเรียนล้ำค่าของดาราหน้าใหม่ ที่ต้องมีพ่อแม่ตามดูแลอย่างใกล้ชิด
เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครหวังดีกับใครอย่างจริงจัง
ผลประโยชน์เท่านั้นคือคำตอบ
คนแปลกหน้าหลายคน อาจจะพูดดี แต่ประสงค์ร้าย
พ่อแม่บางคนอาจจะพูดร้าย แต่หวังดีต่อลูกอย่างจริงแท้และแน่นอนค่ะ
(ถ้าไม่เจอพ่อบังเกิดเกล้าแบบ "เจ๊หอก" หรืออีกนามของ "บริทนีย์ สเปียร์ส" นะคะ)
ขอให้ทุกคนมีสติและระมัดระวังในทุกการกระทำค่ะ เพราะอดีตบางอย่างมันกลับไปแก้ไขไม่ได้
เหลือไว้แต่เพียง "แผลชีวิต" ที่ยังคงติดค้างอยู่ในความทรงจำตลอดกาล