JJNY : อุณหภูมิทะลุ 40 องศา ดันราคาทุเรียนสูง│‘ชัยภูมิ’ แล้งจัด│จับตาวันนี้เคาะแรงจูงใจ│ผู้นำกัมพูชาเสนอลดเวลาเรียน

อุณหภูมิทะลุ40องศา ดันราคาทุเรียนสูง เหตุร้อนจัด สลัดผลร่วงทิ้ง ผลผลิตสู่ตลาดลดลง.
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8212204
 
 
ราชบุรี ระอุทะลุ 40 องศา ดันราคาทุเรียนตลาดค้าส่งสูง เหตุอากาศร้อนจัด สลัดผลร่วงทิ้ง ผลผลิตออกสู่ท้องตลาดลดลง ลุ้นฝนตกช่วยลดอุณหภูมิ-ราคา
 
2 พ.ค. 67 – ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่โซนจำหน่ายทุเรียน ตลาดกลางผักและผลไม้จังหวัดราชบุรี (ตลาดศรีเมือง) ตั้งอยู่ อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อสำรวจราคาและความต้องการบริโภคทุเรียน
 
โดยได้พูดคุย นายวีรศักดิ์ ตริยะธำรง เจ้าของร้านเจ๊แดง ค้าปลีกและค้าส่งทุเรียน ซึ่งขายมาแล้วกว่า 20 ปี ก่อนจะได้รับการเปิดเผยว่า ตนรับซื้อทุเรียนหน้าสวนจากทางภาคตะวันออกและภาคใต้ มีทั้งสายพันธุ์หมอนทอง ชะนี นกกระจิบ พวงมณี และก้านยาว
 
โดยช่วงนี้เป็นฤดูทุเรียนจากภาคตะวันออก จ.ระยอง จันทบุรี ออกสู่ท้องตลาด ซึ่งพบว่าผลผลิตทุเรียนปีนี้มีปริมาณลดลงอย่างเห็นได้ชัด ต่างจากปี 2566 ที่ผู้ค้าส่งในตลาดศรีเมืองจะมีทุเรียนมาวางกองขายกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาจำหน่ายในปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 10-20 บาท โดยทุเรียนหมอนทองขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม อยู่ที่กิโลกรัมละ 130 บาท และขนาดน้ำหนักตั้งแต่ 2-4 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 150-160 บาท
 
ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคยังคงทรงตัว เนื่องจากยังเป็นช่วงต้นฤดู และด้วยราคาทุเรียนขายปลีกที่ยังคงสูงอยู่ จึงทำให้ยอดขายลดลงไปประมาณร้อยละ 30 โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าคนกลางที่ซื้อทุเรียนขนาดเล็กไปขายตามตลาดนัด อันเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจผู้บริโภคมีกำลังซื้อน้อย จึงไม่สามารถทำราคาขายได้ แต่ก็จะมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และร้านค้าทั่วไป ที่จะซื้อทุเรียนขนาดใหญ่นำไปขายแบบแกะเนื้อจำหน่าย ซึ่งจะสามารถทำราคาและกำไรได้มากกว่าขายแบบทั้งลูก
 
ส่วนผลกระทบจากสภาพอากาศร้อน ยังทำให้ผลทุเรียนที่นำมาวางขายสุกเร็วกว่าปกติ เพื่อนร่วมอาชีพบางร้านต้องปรับตัว ด้วยการปอกทุเรียนใส่ถาดมาแช่ตู้เย็นขาย เพื่อยืดอายุคุณภาพเนื้อของทุเรียน ลดความเสียหาย
 
ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่มีผลผลิตทุเรียนออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าหากสภาพอากาศยังคงร้อนอย่างต่อเนื่อง ไม่มีฝนตกลงมาช่วยลดอุณหภูมิ เชื่อว่าผลผลิตทุเรียนจะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น โดยอาจจะส่งผลต่อราคาจำหน่ายทุเรียน

ทั้งนี้ ท่านใดต้องการทุเรียนคุณภาพ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ร้านเจ๊แดง เฮียนุกูล ตั้งอยู่อาคาร 1 ตลาดศรีเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี หรือ เบอร์โทรศัพท์ 082-294-9xxx

(เบอร์โทรศัพท์ตามได้ในข่าวครับ)


 
‘ชัยภูมิ’ แล้งจัด ชาวสวนเสียงสั่น ทุ่มเงินเก็บทั้งชีวิตปลูกไร่พริก ต้องตัดใจทิ้ง ขาดทุนเพราะไม่มีน้ำ
https://ch3plus.com/news/social/ch3onlinenews/397989

น้ำตาชาวสวน! ชาวสวนเสียงสั่นเครือ ทุ่มเงินเก็บทั้งชีวิตเช่าปลูกพริก 4 ไร่ อีกไม่เกินสัปดาห์กำลังจะได้ผลผลิต แต่ไม่มีน้ำเพราะอากาศแล้งจัด ต้องตัดใจทิ้ง ขาดทุน 5 หมื่นบาท
 
นางดอน เจิมชัย อายุ 57 ปี ชาวบ้านราษฏร์พัฒนา หมู่ที่ 10 ตำบลเจาทอง อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยเสียงสั่นเครือว่า ตนกับสามีตัดสินใจนำเงินก้อนสุดท้ายที่เก็บมาตลอดชีวิต ลงทุนเช่าที่ทำไร่พริก จำนวน 5 หมื่นบาท โดยเลือกปลูกพริกใกล้แหล่งน้ำที่สุด หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศขอให้ชาวบ้านงดปลูกพืชที่ใช้น้ำเยอะ หันมาปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย ตนจึงทำตามนโยบายของจังหวัด

โดยปลูกพริกซึ่งขณะนี้เริ่มออกดอกแล้ว แต่ปรากฏว่าเวลานี้น้ำในลำห้วย แห้งขอดจนมองเห็นดินโคลนกลางแหล่งน้ำ ส่งผลให้พริกที่ปลูกไว้จำนวน 4 ไร่เศษ แห้งเหี่ยวและอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์ถ้าไม่สามารถนำน้ำขึ้นมารดได้ตนก็จำเป็นต้องยอมทิ้งไร่พริกโดยจำยอม นางดอน เล่าเพิ่มเติมว่า ตนมองว่าสาเหตุที่เกิดน้ำแห้งมาจาก 2 สาเหตุด้วยกัน คือสภาพอากาศที่แห้งแล้ง และมีชาวบ้านหันมาปลูกอ้อยเพิ่มขึ้น ทำให้มีการใช้น้ำมากขึ้นตามไปด้วย

ด้านนายไพศาล ปั้นมีศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 บ้านราษฏร์พัฒนา ตำบลเจาทอง อำเภอภักดีชุมพล ยอมรับตรงกับนางดอนกว่า ชาวบ้านปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นจากเดิม 50 เปอร์เซ็นต์ เป็น 70 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญอ้อยเป็นพืชที่ใช้น้ำเยอะมาก ส่งผลให้ชาวบ้านแย่งกันสูบน้ำเข้าไร่อ้อยของตน ในฐานะผู้นำชาวบ้านไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนำประกาศของจังหวัดมาประกาศขอความร่วมมือ ในการปลูกพืชน้ำน้อยอายุสั้น แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ให้ความร่วมมือ ด้วยราคาอ้อยดี  ทางออกที่สามารถแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้เวลานี้คือการเจาะน้ำบาดาล



จับตาวันนี้เคาะแรงจูงใจคดีการเมืองได้รับนิรโทษกรรม
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_711438/

จับตาวันนี้ กมธ.ชุดใหญ่เคาะ 25 ฐานความผิด แรงจูงใจคดีการเมือง ได้รับนิรโทษกรรม ย้ำนับคดีย้อนหลังไปถึง 1 มค.48
 
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย ประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาและจำแนกการกระทำเพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางการตราพระราชบัญญัตติ(พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่า หลังจากคณะอนุกมธ.ประชุมเพื่อจำแนกคดีที่มีฐานความผิด ที่มาจากแรงจูงใจทางการเมืองชัดเจน และ ฐานความผิดที่มีแรงจูงใจทางการเมืองไม่ชัดเจน จากต้นร่าง 25 ฐานความผิดตามที่พิจารณาในอนุกมธ.แล้ว ในวันที่ 1 พ.ค. ก็จะมีการเสนอต่อกมธ.ชุดใหญ่ ในวันนี้ ( 2 พ.ค.) เพื่อหาข้อสรุปต่อไป
 
รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวด้วยว่า กรณีการจำแนกคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมืองชัดเจน มีรายละเอียดที่ต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย และต้องใช้กฎหมายนิรโทษกรรมความผิด เช่น คดีบุกยึดสนามบิน ในส่วนของคดีอาญา ไม่เกี่ยวกับคดีทางแพ่ง เพราะเป็นกรณีละเมิดและมีคู่ความ ส่วนบางเรื่อง อาจใช้มาตรการทางกฎหมายอื่นๆ ประกอบ เช่น กฎหมายจราจร เป็นต้น โดยประเด็นพิจารณาจะเช็คลิสต์ในการกระทำที่เข้าข่ายในการนิรโทษกรรมในช่วงการเมืองต่าง โดยตั้งต้นมาตั้งแต่ 1 ม.ค. 2548 เป็นต้นมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่