พืชยืนต้นจำพวกต้นไม้ (Tree) หลายชนิดจะมีวิธีการขยายพันธุ์ด้วยตัวเองที่เรียกว่า Root Suckering ก็คือเมื่อต้นไม้ต้นนั้นโตเต็มที่ ถึงวัยติดดอก ติดผลได้ มีระบบรากแผ่ขยายออกไปพอสมควร จะเกิดเป็นต้นอ่อนงอกออกมาจากราก เติบโตสูงขึ้นไปเหมือนต้นแม่ พอโตขึ้นงอกรากออกไป ก็แตกหน่อหรือต้นลูกออกมาอีก แบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าระบบรากอยู่ใต้ดินทั้งหมด เรามองไม่เห็นราก อาจจะนึกว่าเป็นต้นไม้คนละต้นกัน แต่จริงๆ แล้วต้องนับว่าเป็นเครือข่ายของต้นไม้ต้นเดียวกัน
ลักษณะการเกิด Root Suckering
ต้นไม้ที่นับว่าใหญ่ที่สุดในโลก ในเชิง พื้นที่ หรือน้ำหนักรวมของต้นไม้ จะมาจากระบบต้นไม้ที่แผ่ขยายพันธุ์ด้วยวิธี Root suckering ชื่อเรียกกันว่า Pando มาจากต้น quaking aspen (
Populus tremuloides) อยู่ที่ Fishlake National Forest รัฐ Utah สหรัฐอเมริกา ต้น aspen ที่นี่ขึ้นอยู่ในพื้นที่รวม 43 เฮคแตร์ (ประมาณ 268 ไร่) พิสูจน์แล้วว่ามาจากระบบรากเดียวกันทั้งหมด น้ำหนักรวมประมาณ 6,000 ตัน ปัจจุบันมีทั้งหมดประมาณ 47,000 ต้น(ย่อย)
การประเมินอายุของ “ระบบต้นไม้” ชุดนี้ทำได้ยากเพราะต้นแม่จริงๆ หาไม่เจอแล้ว ส่วนต้นลูกหรือต้นย่อยที่งอกจากรากจะมีการหมุนเวียนเกิด –ตายอยู่ตลอด ต้นย่อยแต่ละต้นจะอยู่ได้ไม่เกิน 100-130 ปี การหาอายุตอนเริ่มแรก ค่อนข้างหวือหวา ว่ากันเป็นหลักแสน ไปจนถึงหลักล้านปี ต่อมาการพิสูจน์อายุเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น บริเวณนั้นเป็นพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลเกิน 2,000 เมตร เคยเกิดธารน้ำแข็งมาก่อน และต้นไม้ไม่น่าจะรอดชีวิตผ่านยุคธารน้ำแข็งมาได้ ดังนั้นสรุปและค่อนข้างยอมรับตรงกันว่าระบบต้นไม้ชุดนี้น่าจะมีอายุไม่เกิน 12,000 ปี
ภาพข้างบนจากหนังสือ The Oldest Living Things in the World
Pando ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในโลก
ลักษณะการเกิด Root Suckering
ต้นไม้ที่นับว่าใหญ่ที่สุดในโลก ในเชิง พื้นที่ หรือน้ำหนักรวมของต้นไม้ จะมาจากระบบต้นไม้ที่แผ่ขยายพันธุ์ด้วยวิธี Root suckering ชื่อเรียกกันว่า Pando มาจากต้น quaking aspen (Populus tremuloides) อยู่ที่ Fishlake National Forest รัฐ Utah สหรัฐอเมริกา ต้น aspen ที่นี่ขึ้นอยู่ในพื้นที่รวม 43 เฮคแตร์ (ประมาณ 268 ไร่) พิสูจน์แล้วว่ามาจากระบบรากเดียวกันทั้งหมด น้ำหนักรวมประมาณ 6,000 ตัน ปัจจุบันมีทั้งหมดประมาณ 47,000 ต้น(ย่อย)
การประเมินอายุของ “ระบบต้นไม้” ชุดนี้ทำได้ยากเพราะต้นแม่จริงๆ หาไม่เจอแล้ว ส่วนต้นลูกหรือต้นย่อยที่งอกจากรากจะมีการหมุนเวียนเกิด –ตายอยู่ตลอด ต้นย่อยแต่ละต้นจะอยู่ได้ไม่เกิน 100-130 ปี การหาอายุตอนเริ่มแรก ค่อนข้างหวือหวา ว่ากันเป็นหลักแสน ไปจนถึงหลักล้านปี ต่อมาการพิสูจน์อายุเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น บริเวณนั้นเป็นพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลเกิน 2,000 เมตร เคยเกิดธารน้ำแข็งมาก่อน และต้นไม้ไม่น่าจะรอดชีวิตผ่านยุคธารน้ำแข็งมาได้ ดังนั้นสรุปและค่อนข้างยอมรับตรงกันว่าระบบต้นไม้ชุดนี้น่าจะมีอายุไม่เกิน 12,000 ปี
ภาพข้างบนจากหนังสือ The Oldest Living Things in the World