ตั้งแต่..จำความได้..หลังจากที่..ปู่-ย่า..ตา-ยาย..ได้จากผม ไป ผมทบทวนดูและคุ่นคิดหลายต่อหลาย..ครั้ง..ว่า..ทำไมตัวผมถึง..เหมือนยุคนเดว.เผชิญในเรื่องที่ทุกคน มองข้ามว่ามัน เป็นปัญหาจากตัวผมทำเอง..
....ทางบ้าน..ผมจำได้ว่าตั้งแต่เล็กๆ..จนถึงปัจจุบัน...(ผมไม่เคยที่จะได้ความ รัก และ ความยินดี จาก พ่อและแม่ เลยสักครั้ง) ยกเว้นได้สิ่งของที่ ตัวผมจะขอเอาเอง ไม่เคยมีสักอย่าง สักอัน ที่ พ่อและแม่จะซื้อเอามาให้ ผมเอง ไม่เคย ไม่เคย..จริงๆ..ดูเองเลยของในบ้านมี อันไหนบ้าง
....ส่วนคำชม คำยินดี จาก ปากพ่อและแม่ คำถาม จากความห่วงใย ไม่เคยเลยที่ ผมจะได้ยินโดยหู ผม (ไม่มีจริงๆ) ลองถามท่านดู แล้วจะได้คำตอบ แบบเสียดสี มาแทน100%
....ขนาดแต่งงงาน ..งานแต่งเป็นแบบได ถ้า.หลานไม่เอาเพลงมาช่วยเปิดให้ ก็....ช่างมันเถอะ จนถึงปัจจุบัน ก็ยังหาคำชม คำยินดี กับลูก ไม่เคยมี มีแต่.จะหนักขึ้น
....ขนาดแต่งแล้ว มีลูกน้อยด้วย ยังออกบ้านไปเช่าบ้านคนอื่นอยู่ อีกด้วยซ้ำ (อันนี้พ่อและแม่ทำร้ายผมเอง.) ถ้าเป็นภาพที่จำได้ตลอดเวลา พยายามที่จะ ลืม...พยายาม ลบ..คือ ภาพที่ 2คน ท่าน ทำร้าน ตัวผม จนหาที่เปรียบไม่ได้ (ไม่รู้ผมเป็นตัวอะไร) เว้นแต่ตอนโตมา จากการโดนกระทำ เปลี่ยนคำพูดละ..จนถึงปัจจุบัน
....ขนาดจะกลับบ้านใน รอบปี เมษา คิดดู ถึงบ้าน ปุ๊บ มันมาปรับ..ทุกปี เรื่องจริง ผมพยายาม เลี่ยง ไม่ประทับ มันก็มายูดี ทะเลาะกับผม อยู่ดี จน ผมเหนื่อยใจเลย (หนักสุด สงการปี 66 คิดดูครับ) ผมพาเพื่อนไปนอนบ้านเพื่อจะมาทำงาน ขากลับ ไม่รู้เป็นอะไรเป็นสิ่งที่ ผมท้อๆๆ ที่สุด นินทาาแต่ผม แบบ ก็รู้ว่าผมอยู่ตรงนี้ และเพื่อคนก็อยู่ตรง ทั้งแต่ง และเสียดสีตัว ผม ไม่รู้จะพูด ว่าแบบไหน
...ก็ออกบ้านมาทำงาน กับแฟน มาขายของ เงินก็ส่งมาให้ลูกๆ ที่บ้าน มี รถกระบะ ถึง 3 คัน ก็ยัง ไม่ยินดีกับ ลูกอีกด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำ ว่าตัวลูกคือ ผมเอง ไม่มีอะไร สักอย่าง ไม่เหมือน ลูกคนอื่นๆ ขนาดอยู่บ้าน ก็ได้เป็นเจ้าคน นายคน กันหมด (หลานสาว เป็น ผชหมู่3...น้องโอเป็น ผช.หมู่3) มันคนละอาชีพละ ท่านยังเปรียบเทียบได้อีก..ขนาด ท่านออกมาดูว่าตอนนั้นผม อยู่ไหนที่นินทราผม โดยตั้งใจแกล้งหรือเสียดสี ก็ไม่รู้ ออกมาดูก็เห็นผมและเพื่อนนั่งอยู่ ท่านก็ทำเฉย ขึ้นไปนินทราบต่อ ผมนิปวดใจขนาด....พอก่อน ผมแนนหน้า.. อก
เรื่องเล่า..ที่คุณไม่อยากอ่าน
....ทางบ้าน..ผมจำได้ว่าตั้งแต่เล็กๆ..จนถึงปัจจุบัน...(ผมไม่เคยที่จะได้ความ รัก และ ความยินดี จาก พ่อและแม่ เลยสักครั้ง) ยกเว้นได้สิ่งของที่ ตัวผมจะขอเอาเอง ไม่เคยมีสักอย่าง สักอัน ที่ พ่อและแม่จะซื้อเอามาให้ ผมเอง ไม่เคย ไม่เคย..จริงๆ..ดูเองเลยของในบ้านมี อันไหนบ้าง
....ส่วนคำชม คำยินดี จาก ปากพ่อและแม่ คำถาม จากความห่วงใย ไม่เคยเลยที่ ผมจะได้ยินโดยหู ผม (ไม่มีจริงๆ) ลองถามท่านดู แล้วจะได้คำตอบ แบบเสียดสี มาแทน100%
....ขนาดแต่งงงาน ..งานแต่งเป็นแบบได ถ้า.หลานไม่เอาเพลงมาช่วยเปิดให้ ก็....ช่างมันเถอะ จนถึงปัจจุบัน ก็ยังหาคำชม คำยินดี กับลูก ไม่เคยมี มีแต่.จะหนักขึ้น
....ขนาดแต่งแล้ว มีลูกน้อยด้วย ยังออกบ้านไปเช่าบ้านคนอื่นอยู่ อีกด้วยซ้ำ (อันนี้พ่อและแม่ทำร้ายผมเอง.) ถ้าเป็นภาพที่จำได้ตลอดเวลา พยายามที่จะ ลืม...พยายาม ลบ..คือ ภาพที่ 2คน ท่าน ทำร้าน ตัวผม จนหาที่เปรียบไม่ได้ (ไม่รู้ผมเป็นตัวอะไร) เว้นแต่ตอนโตมา จากการโดนกระทำ เปลี่ยนคำพูดละ..จนถึงปัจจุบัน
....ขนาดจะกลับบ้านใน รอบปี เมษา คิดดู ถึงบ้าน ปุ๊บ มันมาปรับ..ทุกปี เรื่องจริง ผมพยายาม เลี่ยง ไม่ประทับ มันก็มายูดี ทะเลาะกับผม อยู่ดี จน ผมเหนื่อยใจเลย (หนักสุด สงการปี 66 คิดดูครับ) ผมพาเพื่อนไปนอนบ้านเพื่อจะมาทำงาน ขากลับ ไม่รู้เป็นอะไรเป็นสิ่งที่ ผมท้อๆๆ ที่สุด นินทาาแต่ผม แบบ ก็รู้ว่าผมอยู่ตรงนี้ และเพื่อคนก็อยู่ตรง ทั้งแต่ง และเสียดสีตัว ผม ไม่รู้จะพูด ว่าแบบไหน
...ก็ออกบ้านมาทำงาน กับแฟน มาขายของ เงินก็ส่งมาให้ลูกๆ ที่บ้าน มี รถกระบะ ถึง 3 คัน ก็ยัง ไม่ยินดีกับ ลูกอีกด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำ ว่าตัวลูกคือ ผมเอง ไม่มีอะไร สักอย่าง ไม่เหมือน ลูกคนอื่นๆ ขนาดอยู่บ้าน ก็ได้เป็นเจ้าคน นายคน กันหมด (หลานสาว เป็น ผชหมู่3...น้องโอเป็น ผช.หมู่3) มันคนละอาชีพละ ท่านยังเปรียบเทียบได้อีก..ขนาด ท่านออกมาดูว่าตอนนั้นผม อยู่ไหนที่นินทราผม โดยตั้งใจแกล้งหรือเสียดสี ก็ไม่รู้ ออกมาดูก็เห็นผมและเพื่อนนั่งอยู่ ท่านก็ทำเฉย ขึ้นไปนินทราบต่อ ผมนิปวดใจขนาด....พอก่อน ผมแนนหน้า.. อก