แม่รักลูกไม่เท่ากัน
บ้านเรามีกันทั้งหมด 6 คน มีพ่อ แม่ พี่ขาย พี่สะใภ้และลูกของพี่ชาย ส่วนฉันเป็นน้องเล็กตอนที่ฉันยังไม่ได้สร้างครอบครัว คนในบ้านก็ดูปกติ ไปเที่ยวด้วยกัพอนบ่อย พอฉันเริ่มมีครอบครัว คนในบ้านเริ่มแปลกๆไป เรื่องที่เกิดตรง พ่อแม่เรามีธุรกิจส่วนตัว คือตอนแรก พี่ชายจะช่วยขายของกับพ่อแม่แต่แค่ขายบ้างอย่างไม่ได้ขายทั้งหมด มีที่ขายอยู่ 1 ที่อีก 1 ที่เข่าเขา ตอนโควิดเราไม่มีงานทำกับแฟนแม่เลยชวนมาขายของกับแม่ แม่เลยบอกให้พี่เปลี่ยนจากขายอันนี้เป็นอย่างอื่นแทน แต่ตอนนั้นพี่ก็ขายที่แม่บอกขายดีกำไร 5-6 พันต่อวัน แม่จึงซื้อต่อตรงที่แม่เช่าและที่อีกล็อคพี่เข่าที่เขาอีก 1 ที จึงกลายเป็นพี่มีที่ขายของ 2 ล็อค อีกตอนแรกพ่อแม่บอกแผงที่แม่ซื้อต่อจะเป็นของเราสุดท้ายมาบอกทีหลังเป็นของพี่ชายน่ะ แล้วไปจดเป็นชื่อของพี่ขายเรียบร้อย แผงอีก 1 แผงเป็นของเรา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เป็นของเราเต็มตัว เพราะพ่อแม่กลัวพี่ขายน้อยใจว่าซ่านนน เรามาเอ๊ะใจว่าทำไมแม่ถึงตัดสินใจที่จะพี่ชายเร็วมาก และบ้านที่เขาจะยกให้เราสุดท้านกลับยกให้พี่ชาย ตัวเราเองไปกู้บ้าน มีแต่ออกเงิน ส่วนพี่ชายไม่ต้องออกอะไร เพราะพ่อแม่คิดว่าเงินอู่ที่พี่สะใภ้หมด พี่ขายไม่มีอะไรติดตัวเลย เราสงสัยว่ามันขึ้นอยู่ที่พี่ชายน้อยใจกลัวไม่ได้อะไรจากแม่ กลัวแม่ยกให้เราหมด จึงบอกเรื่องน่าสงสารให้แม่ฟ้ง สงสัยอีกอย่างคือพี่สะใภ้เป้าหูให้พี่ชายเราทำเรื่องน่าสงสารให้พ่อแม่ เพื่อที่ตัวเองจะได้อยู่บ้านที่พ่อแม่ยกให้แบบสบาย ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่ากิน อยู่กับพ่อแม่หมด หลานพ่อแม่ดูให้ตลอด ส่วนพี่สะใภ้ขายของจนรวยซื้ออพาทเม้น ซื้อที่ดิน 10ไร่ มีเงินเก็บหลักล้าน จนเรามาได้ยินว่าพี่แกไม่อยากซื้อบ้าน อยากอยู่อพาทเม้นที่แกซื้อไว้ได้ยินก็เอ๊ะ อีกว่าหึยพี่สะใภ้มีครอบครัว มีเงินทำไมไม่ยกบ้านส่วนตัว เสียงดังไม่รบกวนใคร ตอนนี้ยังงง ว่าแกไปพูดกับคนอื่นแบบสวนทางกับที่แกทำตัวให้เราเห็น เพราะแกอยู่บ้านเดียวกับเราตลอด ตอนนี้ห้องแกพัง แกเลยย้ายไปนอนอพาทเม้น พอฉันย้ายออกจากบ้านหลังนี้พี่สะใภ้คงย้ายมาอยู่ที่ห้องนอนของฉันแน่ๆ หรือฉันคิดมากไปเอง
แม่รักลไม่เท่ากันจริงหรอ ??
บ้านเรามีกันทั้งหมด 6 คน มีพ่อ แม่ พี่ขาย พี่สะใภ้และลูกของพี่ชาย ส่วนฉันเป็นน้องเล็กตอนที่ฉันยังไม่ได้สร้างครอบครัว คนในบ้านก็ดูปกติ ไปเที่ยวด้วยกัพอนบ่อย พอฉันเริ่มมีครอบครัว คนในบ้านเริ่มแปลกๆไป เรื่องที่เกิดตรง พ่อแม่เรามีธุรกิจส่วนตัว คือตอนแรก พี่ชายจะช่วยขายของกับพ่อแม่แต่แค่ขายบ้างอย่างไม่ได้ขายทั้งหมด มีที่ขายอยู่ 1 ที่อีก 1 ที่เข่าเขา ตอนโควิดเราไม่มีงานทำกับแฟนแม่เลยชวนมาขายของกับแม่ แม่เลยบอกให้พี่เปลี่ยนจากขายอันนี้เป็นอย่างอื่นแทน แต่ตอนนั้นพี่ก็ขายที่แม่บอกขายดีกำไร 5-6 พันต่อวัน แม่จึงซื้อต่อตรงที่แม่เช่าและที่อีกล็อคพี่เข่าที่เขาอีก 1 ที จึงกลายเป็นพี่มีที่ขายของ 2 ล็อค อีกตอนแรกพ่อแม่บอกแผงที่แม่ซื้อต่อจะเป็นของเราสุดท้ายมาบอกทีหลังเป็นของพี่ชายน่ะ แล้วไปจดเป็นชื่อของพี่ขายเรียบร้อย แผงอีก 1 แผงเป็นของเรา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เป็นของเราเต็มตัว เพราะพ่อแม่กลัวพี่ขายน้อยใจว่าซ่านนน เรามาเอ๊ะใจว่าทำไมแม่ถึงตัดสินใจที่จะพี่ชายเร็วมาก และบ้านที่เขาจะยกให้เราสุดท้านกลับยกให้พี่ชาย ตัวเราเองไปกู้บ้าน มีแต่ออกเงิน ส่วนพี่ชายไม่ต้องออกอะไร เพราะพ่อแม่คิดว่าเงินอู่ที่พี่สะใภ้หมด พี่ขายไม่มีอะไรติดตัวเลย เราสงสัยว่ามันขึ้นอยู่ที่พี่ชายน้อยใจกลัวไม่ได้อะไรจากแม่ กลัวแม่ยกให้เราหมด จึงบอกเรื่องน่าสงสารให้แม่ฟ้ง สงสัยอีกอย่างคือพี่สะใภ้เป้าหูให้พี่ชายเราทำเรื่องน่าสงสารให้พ่อแม่ เพื่อที่ตัวเองจะได้อยู่บ้านที่พ่อแม่ยกให้แบบสบาย ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่ากิน อยู่กับพ่อแม่หมด หลานพ่อแม่ดูให้ตลอด ส่วนพี่สะใภ้ขายของจนรวยซื้ออพาทเม้น ซื้อที่ดิน 10ไร่ มีเงินเก็บหลักล้าน จนเรามาได้ยินว่าพี่แกไม่อยากซื้อบ้าน อยากอยู่อพาทเม้นที่แกซื้อไว้ได้ยินก็เอ๊ะ อีกว่าหึยพี่สะใภ้มีครอบครัว มีเงินทำไมไม่ยกบ้านส่วนตัว เสียงดังไม่รบกวนใคร ตอนนี้ยังงง ว่าแกไปพูดกับคนอื่นแบบสวนทางกับที่แกทำตัวให้เราเห็น เพราะแกอยู่บ้านเดียวกับเราตลอด ตอนนี้ห้องแกพัง แกเลยย้ายไปนอนอพาทเม้น พอฉันย้ายออกจากบ้านหลังนี้พี่สะใภ้คงย้ายมาอยู่ที่ห้องนอนของฉันแน่ๆ หรือฉันคิดมากไปเอง