สวัสดีครับ ผมมีเรื่องอยากจะเล่า แล้วจะถามอะไรซักหน่อย
ก่อนอื่นขอเล่าก่อน ฮ่าๆ
ตั้งชื่อสมมติ ผู้ชายว่า x ผู้หญิงว่า y
x อยู่ในวัยเรียนในมหาวิทยาลัย แล้ว x ก็ไปสนิทกับเพื่อนผู้หญิงคณะเดียวกัน อายุเท่ากัน ชื่อว่า y คือ y เป็นเพื่อนสาวที่ นิสัยดี เรียนเก่ง ทัศนคติดี
x คิดว่า ถ้าคบเพื่อนที่เก่งๆ ตัวเองจะได้ผลประโยชน์ในด้านการเรียนไปด้วย และอาจจะช่วยส่งเสริมกันในจุดนี้ได้ ก็เลยมาคบเป็นเพื่อนกัน ก็เลยสนิทกัน x คิดกับ y แบบเพื่อน
แต่ y ดูเหมือนจะชอบ x แบบเป็นแฟน y เป็นลูกคุณหนูพ่อแม่มีฐานะดี และมักจะชอบ ออกเงินจ่ายค่าอาหารให้ และก็ชอบเข้าร้านอาหารแพงๆ และ y จะเป็นฝ่ายจ่าย
Y ชอบเข้าร้าอาหารหรูๆ เป็นร้านอาหารแพงๆ มื้อละ 1,000-2,000 x ช่วยจ่ายไม่ไหว เพราะยังเป็นนักศึกษายังขอเงินพ่อแม่อยู่
X ก็แต่งตัวธรรมดา ตามประสาเด็กหนุ่ม เสื้อผ้าก็ตามตลาดนัดทั่วไป คือตัวละ 200-300 บาท ซื้อในเนต จะแพงหน่อยก็รองเท้าผ้าใบของแบรนด์เนมที่แม่ซื้อให้ เพราะเกี่ยวกับสุขภาพ
แล้ว y ก็มักจะซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมให้ ซึ่ง x ก็รับบ้าง ไม่รับบ้าง เกรงใจบ้าง แต่ y ก็อยากให้ พยายามซื้อให้ประจำ
เมื่อไม่นานมานี้ มือถือ x พัง (ใช้แอนดรอยส์เครื่องละ 7,000-8,000 บาท) x ได้โทรมาบอกแม่ว่าให้แม่ซื้อมือถือให้ใหม่ แม่ของ x เลยบอกว่า รอสิ้นเดือนนะ เดี๋ยวรูดบัตรเครดิตผ่อน 0% ให้ x ก็บอกโอเค
ต่อมาอาจจะเกิดก่อนและหลังเหตุการณ์ที่ x ได้คุยกับแม่ มีเหตุการณ์นึงเกิดขึ้น คือ มีช่วงเวลานึง y จะโทรติดต่อไม่ได้ เลยโทรไปหาเพื่อนอีกคน เพื่อนบอกมือถือ x พัง y ก็เลยไปซื้อไอโฟนมาให้ พอมาเจอกัน y ก็ให้ไอโฟนแล้วบอก “ไม่ต้องคิดมากหรอก เราตั้งใจให้ รับไปเถอะ จะได้ติดต่อกันได้ เพราะกว่าแม่จะซื้อมือถือใหม่ก็อีกตั้ง 2-3 วัน จะได้ไม่ต้องไปรบกวนเงินพ่อแม่ "
x ก็ปฎิเสธไปแล้ว y บอกถ้าไม่รับ เธอเสียใจและเสียความรู้สึก x เลยโทรมาบอกว่า y ซื้อมือถือ ไอโฟนให้แล้ว แม่ไม่ต้องซื้อให้แล้ว (แล้วไอโฟนรุ่นใหม่ ราคาครึ่งแสน)
ในเมื่อ x บอกปฏิเสธไปแล้ว แต่ y ตั้งใจให้ และ x ก็ไม่ได้ขอหรือไปหลอก y เลย
และไม่ได้มีเจตนาที่อยากจะรับของฟรีจาก y ขนาดนั้น แถม y ยังบอกอีกว่า ถ้า x ไม่รับ y เสียใจและเสียความรู้สึก
x เลยคิดว่า ทำไมถึงรับไม่ได้
x ก็รู้สึกว่า y ตั้งใจให้จริงๆ ถ้า x ปฏิเสธ อีก ก็เหมือนจะรู้สึกผิดเพราะ y เป็นเพื่อนที่อุตส่าห์ไปซื้อมาให้ อีกอย่าง x ก็เพิ่งมีy เป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกในมหาลัยที่รู้สึกดีด้วย กลัว y จะผิดหวังและเสียใจ y เขาก็รวยมากๆ y ไม่เดือดร้อนเงิน แถมมือถือของตัว x เองก็พังด้วย เลยรับไว้
x ไม่ได้คิดไปไกลว่ารับแล้วจะมีผลกระทบอะไรภายหลัง หรือว่าสมควรรับไหม ตัว x เองยังคิดว่า
แล้ว x ยังคิดอีกว่า
มันผิดด้วยเหรอที่จะรับของจากเพื่อนสนิทที่เขาตั้งใจให้ เขาไม่ได้มองว่ามันแพงเพราะเขาก็มีฐานะ y ก็คงให้ด้วยความชื่นชอบและรู้สึกดีด้วยจริงๆ
ถ้า x ทำงานมีเงินเดือนสูงๆ หรือ ถ้า x รวยแบบไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน
และ x ก็อยากซื้อของสักชิ้นให้เพื่อนสนิทหรือสาวที่ชอบ หรือคนที่ตัวเองรู้สึกชอบเช่นกัน จะถูกจะแพง มันก็คือความพึงพอใจระหว่างผู้ให้กับผู้รับ คิดว่ามันคือเรื่องปกติ มันเป็นเรื่องผิดแปลกตรงไหน แล้ว x เองก็เคยซื้อของให้เพื่อนบ่อยตอนสมัย ม.ปลาย แต่ก็แค่หลัก 100 บาท ตามฐานะเท่าที่ตัวเองมี
ควรรับของแพงๆจากเพื่อนสาวไหม เมืาอเพื่อนสาวทำตัวแบบนี้ แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าเพื่อนสาวคาดหวังผลอะไรอยู่
ก่อนอื่นขอเล่าก่อน ฮ่าๆ
ตั้งชื่อสมมติ ผู้ชายว่า x ผู้หญิงว่า y
x อยู่ในวัยเรียนในมหาวิทยาลัย แล้ว x ก็ไปสนิทกับเพื่อนผู้หญิงคณะเดียวกัน อายุเท่ากัน ชื่อว่า y คือ y เป็นเพื่อนสาวที่ นิสัยดี เรียนเก่ง ทัศนคติดี
x คิดว่า ถ้าคบเพื่อนที่เก่งๆ ตัวเองจะได้ผลประโยชน์ในด้านการเรียนไปด้วย และอาจจะช่วยส่งเสริมกันในจุดนี้ได้ ก็เลยมาคบเป็นเพื่อนกัน ก็เลยสนิทกัน x คิดกับ y แบบเพื่อน
แต่ y ดูเหมือนจะชอบ x แบบเป็นแฟน y เป็นลูกคุณหนูพ่อแม่มีฐานะดี และมักจะชอบ ออกเงินจ่ายค่าอาหารให้ และก็ชอบเข้าร้านอาหารแพงๆ และ y จะเป็นฝ่ายจ่าย
Y ชอบเข้าร้าอาหารหรูๆ เป็นร้านอาหารแพงๆ มื้อละ 1,000-2,000 x ช่วยจ่ายไม่ไหว เพราะยังเป็นนักศึกษายังขอเงินพ่อแม่อยู่
X ก็แต่งตัวธรรมดา ตามประสาเด็กหนุ่ม เสื้อผ้าก็ตามตลาดนัดทั่วไป คือตัวละ 200-300 บาท ซื้อในเนต จะแพงหน่อยก็รองเท้าผ้าใบของแบรนด์เนมที่แม่ซื้อให้ เพราะเกี่ยวกับสุขภาพ
แล้ว y ก็มักจะซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมให้ ซึ่ง x ก็รับบ้าง ไม่รับบ้าง เกรงใจบ้าง แต่ y ก็อยากให้ พยายามซื้อให้ประจำ
เมื่อไม่นานมานี้ มือถือ x พัง (ใช้แอนดรอยส์เครื่องละ 7,000-8,000 บาท) x ได้โทรมาบอกแม่ว่าให้แม่ซื้อมือถือให้ใหม่ แม่ของ x เลยบอกว่า รอสิ้นเดือนนะ เดี๋ยวรูดบัตรเครดิตผ่อน 0% ให้ x ก็บอกโอเค
ต่อมาอาจจะเกิดก่อนและหลังเหตุการณ์ที่ x ได้คุยกับแม่ มีเหตุการณ์นึงเกิดขึ้น คือ มีช่วงเวลานึง y จะโทรติดต่อไม่ได้ เลยโทรไปหาเพื่อนอีกคน เพื่อนบอกมือถือ x พัง y ก็เลยไปซื้อไอโฟนมาให้ พอมาเจอกัน y ก็ให้ไอโฟนแล้วบอก “ไม่ต้องคิดมากหรอก เราตั้งใจให้ รับไปเถอะ จะได้ติดต่อกันได้ เพราะกว่าแม่จะซื้อมือถือใหม่ก็อีกตั้ง 2-3 วัน จะได้ไม่ต้องไปรบกวนเงินพ่อแม่ "
x ก็ปฎิเสธไปแล้ว y บอกถ้าไม่รับ เธอเสียใจและเสียความรู้สึก x เลยโทรมาบอกว่า y ซื้อมือถือ ไอโฟนให้แล้ว แม่ไม่ต้องซื้อให้แล้ว (แล้วไอโฟนรุ่นใหม่ ราคาครึ่งแสน)
ในเมื่อ x บอกปฏิเสธไปแล้ว แต่ y ตั้งใจให้ และ x ก็ไม่ได้ขอหรือไปหลอก y เลย
และไม่ได้มีเจตนาที่อยากจะรับของฟรีจาก y ขนาดนั้น แถม y ยังบอกอีกว่า ถ้า x ไม่รับ y เสียใจและเสียความรู้สึก
x เลยคิดว่า ทำไมถึงรับไม่ได้
x ก็รู้สึกว่า y ตั้งใจให้จริงๆ ถ้า x ปฏิเสธ อีก ก็เหมือนจะรู้สึกผิดเพราะ y เป็นเพื่อนที่อุตส่าห์ไปซื้อมาให้ อีกอย่าง x ก็เพิ่งมีy เป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกในมหาลัยที่รู้สึกดีด้วย กลัว y จะผิดหวังและเสียใจ y เขาก็รวยมากๆ y ไม่เดือดร้อนเงิน แถมมือถือของตัว x เองก็พังด้วย เลยรับไว้
x ไม่ได้คิดไปไกลว่ารับแล้วจะมีผลกระทบอะไรภายหลัง หรือว่าสมควรรับไหม ตัว x เองยังคิดว่า
แล้ว x ยังคิดอีกว่า
มันผิดด้วยเหรอที่จะรับของจากเพื่อนสนิทที่เขาตั้งใจให้ เขาไม่ได้มองว่ามันแพงเพราะเขาก็มีฐานะ y ก็คงให้ด้วยความชื่นชอบและรู้สึกดีด้วยจริงๆ
ถ้า x ทำงานมีเงินเดือนสูงๆ หรือ ถ้า x รวยแบบไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน
และ x ก็อยากซื้อของสักชิ้นให้เพื่อนสนิทหรือสาวที่ชอบ หรือคนที่ตัวเองรู้สึกชอบเช่นกัน จะถูกจะแพง มันก็คือความพึงพอใจระหว่างผู้ให้กับผู้รับ คิดว่ามันคือเรื่องปกติ มันเป็นเรื่องผิดแปลกตรงไหน แล้ว x เองก็เคยซื้อของให้เพื่อนบ่อยตอนสมัย ม.ปลาย แต่ก็แค่หลัก 100 บาท ตามฐานะเท่าที่ตัวเองมี