คุณย่าพึ่งผ่าตัดมะเร็งที่คอเสร็จค่ะ แต่ท่านมีโรคแทรกซ้อนคือปอดอักแสบ แต่เราทำงานกลางคืนถ้าเราทำงานกลางคืนเราก็ต้องนอนหอค่ะ เพราะว่าที่ทำงานอยู่ห่างจากบ้านค่ะเวลาไปทำงาน (ย่ามีลูก3 คนนะคะ พ่อเราเป็นคนเล็กสุด)ป้าคนโตก็ชอบส่งข้อความมาหาว่า ย่าคิดถึงคืออยากไห้เรากลับบ้านอ่ะค่ะ แค่พ่อเราก็โอเครนะคะที่เราทำงาน แต่ป้าคนโตจะชอบส่งข้อความมาไห้เรากลับบ้านเพราะย่าป่วย ย่าเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กค่ะ เพราะ พ่อแม่แยกทางกัน คือเราจะสลับกันอ่ะค่ะ ทำงาน 1 อาทิตย์ กลับบ้าน 1 อาทิตย์ แต่มันก็ยังไม่นานพอสำหรับป้าเรา คือห้องย่ากับห้องเราจะติดกัน เวลาเราอยู่บ้านป้าคนโตก็จะชอบบอกว่าไห้คอยฟังเสียงย่าด้วยเวลาเดินไปห้องน้ำ ห้องเรากับห้องย่าจะอยู่ข้างนอกบ้านค่ะเป็นห้องต่อออกมาจากบ้าน ห้องน้ำก็อยู่ข้างนอกถัดไปค่ะ เราก็ไม่ได้อะไรค่ะ ไม่ใช่เราไม่เป็นห่วงย่านะคะแต่เราเห็นว่าที่บ้านมีคนเยอะ ย่ามีลูก 3 คนแล้วลูก 3 คนก็บ้านติดๆกันหมดเลย แล้วป้า(คนกลางนะคะ)คนละคนกับที่เล่าไปเบี้ยงต้นนะคะเค้าค่อนข้างมีเงินค่ะ เค้าไห้เงินเดือนย่าตลอด ตอนแรกห้องย่าไม่มีแอร์ตอนนี้หน้าร้อนเค้าก็ติดแอร์ไห้ ซื้อขอไห้กินตลอด ซื้อทีวี ซื้อที่นอน ททำห้องย่าใหม่หมด ย่าไม่สบายก็ซื้อกล้องมาติดแล้วก็บอกย่าค่ะ ป้าคนกลางจะไม่ค่อยยุ่งกับเราค่ะ เหมือนต่างคนต่างใช้ชีวิต ส่วนป้าคนโตเวลาเราอยู่บ้านก็คือดีค่ะ บางครั้งก็ชอบทำอาหารมาไห้เรา ชวนเราคุย แล้วเค้าก็เป็นคนทำอาหารให้น่ากินด้วยค่ะ 3 มื้อ คือเราจะถามว่าเราผิดไหมคะที่เราไม่อยู่บ้านดูแลย่าที่เลี้ยงเรามา ที่เค้าพึ่งจะผ่าตัดมะเร็ง แต่เวลาเราอยู่บ้านเราก็ไม่ได้ทำอะไรไห้ย่าเลย เพราะอาหารป้าก็ทำหมด ย่าก็สามารถลุกเดินอาบน้ำเข้าห้องน้ำเองได้หมดแต่ไม่ใช่เราหายไปเลยนะคะ เรากลับบ้านอาทิตย์เว้นอาทิตย์ แต่ป้าคนโตคือเค้าอยากไห้เราอยู่บ้านทุกวันเลยเพื่อคอยฟังเสียงย่าตอนกลางคืน(แต่ที่บ้านมีกล้องติดในห้องย่านะคะ สามารถฟังเสียงได้) ที่เราอยากทำงานเพราะว่าเราพ่อแม่ไม่ได้ส่งค่ะ เราใช้เงินตัวเองทุกอย่าง แล้วเราทำงานค่อนข้างได้เงินเยอะ 50,000 ต่อเดือนค่ะ ถ้าเราไม่ทำที่บ้านก็ไม่สามารถส่งเราได้ค่ะ ที่ผ่านมาก็จ่ายค่าเทอมเองจนเรียนจบตอนนี้ ปวส.2 จบแล้วค่ะว่าจะดอป1 ปีมาทำงานเนี๊ยแหละค่ะ
เรื่องความกตัญญู