ถ้าไม่ใช้เครื่องแบบนักเรียนต่างกัน จะมีวิธีรู้ได้อย่างไรว่าเป็นนักเรียนที่จ่ายเค่าเรียนนแพงกว่าครับ
จากกรณีที่ มีการไม่เห็นด้วยจำนวนมาก เกี่ยวกับ การใส่เครื่องแบบที่แตกต่างกันของนักเรียน (ในสถาบันเดียวกัน)
เนื่องจาก อาจจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ทำให้เกิดการแบ่งแยก หรือ ความไม่พอใจในความไม่เสมอภาค
โรงเรียน เอกกชน / อินเตอร์ นานาชาติ ไม่มีปัญหาเพราะใช้ชุด แบบเดียวกัน
หรือ โรงเรียน รัฐแบบ หัวเกรียนนักเรียนไทย หรือ โรงเรียนในเขตวัด ที่เรียกว่าโรงเรียนวัด (แบบเดิมๆ) ก็ใส่แบบเดียวกัน
แต่ โรงเรียน ที่จะยกระดับการจัดการเรียนการสอนของตนเอง ให้ได้ราคาค่าเทอมมากขึ้นหรือ น่าสนใจมากขึ้น โดยเปิด EP / M-EP จะมีการใส่ชุดที่แยกกัน
แน่นอนว่า ความไม่เหมือน ต่อให้เป็นเด็กอนุบาล พอเริ่มโตหน่อย ก็รับรู้ได้ถึงความแตกต่างจากประสาทสัมผัส
เช่น เครื่องแบบที่ต่างกัน อาหารเสริม อาหารหลักที่ต่างกัน การไปเข้าค่ายที่ต่างกัน (จ่ายแพง ไปเข้าค่ายโรงแรมต่างจังหวัด)
บางโรงเรียน เข้าค่าย เดือนละครั้ง เหมือนไปเรียน กับครูฝรั่งและ ทัศนศึกษาเพื่อเรียนรู้ในตัว
รวมถึง ห้องเรียนที่มีแอร์ ชุดทีมครูผู้สอนที่ จ้างมาเพื่อสอนเด็กห้องพิเศษโดยตรง หรือ เจ้าของภาษา
แต่ การจ่ายค่าเทอมแพงกว่า ก็ต้องได้ ของที่ดีกว่า เป็นเรื่องปกติของทุกสิ่งรอบตัวเราอยู่แล้ว
ถ้าจะไม่ให้ใช้เครื่องแบบ ที่ต่างกัน แล้วจะแยก เด็กธรรมดา (เรียนฟรี หรือ จ่ายเรียนแค่ขั้นพื้นฐาน) กับ นักเรียนที่จ่ายแพงกว่า (EP MEP)ได้อย่างไร
แบบที่แบบรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด เท่าชุดนักเรียนที่เห็นแล้ว ทราบได้ทันที
ท่านใดมีประสบการณ์ ขอคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณภาพและต้นเรื่องข่าวจากมติชน ขอบคุณครับ
ถ้าไม่ใช้เครื่องแบบต่างกัน จะมีวิธีรู้ได้อย่างไรว่าเป็นนักเรียนที่จ่ายเค่าเรียนนแพงกว่า (มีภาพประกอบ)
จากกรณีที่ มีการไม่เห็นด้วยจำนวนมาก เกี่ยวกับ การใส่เครื่องแบบที่แตกต่างกันของนักเรียน (ในสถาบันเดียวกัน)
เนื่องจาก อาจจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ทำให้เกิดการแบ่งแยก หรือ ความไม่พอใจในความไม่เสมอภาค
โรงเรียน เอกกชน / อินเตอร์ นานาชาติ ไม่มีปัญหาเพราะใช้ชุด แบบเดียวกัน
หรือ โรงเรียน รัฐแบบ หัวเกรียนนักเรียนไทย หรือ โรงเรียนในเขตวัด ที่เรียกว่าโรงเรียนวัด (แบบเดิมๆ) ก็ใส่แบบเดียวกัน
แต่ โรงเรียน ที่จะยกระดับการจัดการเรียนการสอนของตนเอง ให้ได้ราคาค่าเทอมมากขึ้นหรือ น่าสนใจมากขึ้น โดยเปิด EP / M-EP จะมีการใส่ชุดที่แยกกัน
แน่นอนว่า ความไม่เหมือน ต่อให้เป็นเด็กอนุบาล พอเริ่มโตหน่อย ก็รับรู้ได้ถึงความแตกต่างจากประสาทสัมผัส
เช่น เครื่องแบบที่ต่างกัน อาหารเสริม อาหารหลักที่ต่างกัน การไปเข้าค่ายที่ต่างกัน (จ่ายแพง ไปเข้าค่ายโรงแรมต่างจังหวัด)
บางโรงเรียน เข้าค่าย เดือนละครั้ง เหมือนไปเรียน กับครูฝรั่งและ ทัศนศึกษาเพื่อเรียนรู้ในตัว
รวมถึง ห้องเรียนที่มีแอร์ ชุดทีมครูผู้สอนที่ จ้างมาเพื่อสอนเด็กห้องพิเศษโดยตรง หรือ เจ้าของภาษา
แต่ การจ่ายค่าเทอมแพงกว่า ก็ต้องได้ ของที่ดีกว่า เป็นเรื่องปกติของทุกสิ่งรอบตัวเราอยู่แล้ว
ถ้าจะไม่ให้ใช้เครื่องแบบ ที่ต่างกัน แล้วจะแยก เด็กธรรมดา (เรียนฟรี หรือ จ่ายเรียนแค่ขั้นพื้นฐาน) กับ นักเรียนที่จ่ายแพงกว่า (EP MEP)ได้อย่างไร
แบบที่แบบรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด เท่าชุดนักเรียนที่เห็นแล้ว ทราบได้ทันที
ท่านใดมีประสบการณ์ ขอคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณภาพและต้นเรื่องข่าวจากมติชน ขอบคุณครับ