อัพเดตโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ เดินหน้าสู่เฟส 3 ครอบคลุมเพิ่มขึ้นอีก 33 จังหวัด เป็น 45 จังหวัด 16 เขตสุขภาพ เริ่ม 1 พฤษภาคมนี้ พบประชาชนที่เข้ารับบริการ 2 เฟสก่อนหน้านี้ พึงพอใจเกือบ 100%
วันที่ 26 เมษายน 2567 ข่าวสด รายงานว่า น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ติดตามเร่งรัดว่า ขณะนี้การดำเนินการจะเข้าสู่ระยะที่ 3 หรือเฟส 3 ในวันที่
1 พ.ค.ถึงนี้ การให้บริการจะครอบคลุมเพิ่มอีก 33 จังหวัด จากเดิม 12 จังหวัด รวมเป็น 45 จังหวัด ครอบคลุม 16 เขตสุขภาพ
ได้แก่
เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท อุทัยธานี สระบุรี นนทบุรี ลพบุรี อ่างทอง นครนายก พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย บึงกาฬ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีความมั่นใจว่า การขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ในเฟส 3 จะสามารถยกระดับการบริการ อำนวยความสะดวกประชาชน ไม่ต้องรอคิว รอรับยา ตรวจเสร็จรับยาที่บ้าน Health Rider เหมือนที่เริ่มมาแล้วในเฟส 1 เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2567 นำร่อง 4 จังหวัด ต่อมาเฟส 2 นำร่องอีก 8 จังหวัด เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 เฟส ประชาชนพอใจการได้รับบริการเกือบ 100 %
การให้บริการได้เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขครบทุกแห่งและทุกกองทุนสุขภาพ ปัจจุบันมีหน่วยบริการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง 893 แห่ง จาก 902 แห่งทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ 99.7 ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการพัฒนาโครงสร้างเป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ
มีการเชื่อมต่อแอพพลิเคชันและไลน์หมอพร้อมทั่วประเทศแล้ว กว่า 40 ล้านคน มีการนัดหมายและดำเนินการบริการระบบการแพทย์ทางไกล 55,446 ครั้ง ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล 81,317ใบ มีการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์โดย Health Rider 55,376 ออเดอร์
ทั้งนี้ กว่าร้อยละ 90 ของผู้รับบริการมีความพึงพอใจดีมาก เนื่องจากได้รับบริการที่รวดเร็ว เจ้าหน้าที่ส่งยาพูดจาสุภาพ ความสมบูรณ์ของพัสดุ ลดระยะเวลาการรอคอย ช่วยลดความแออัดในการรอรับยาที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอก ในระยะเฟส 4 จะขยายครอบคลุมทั้งประเทศภายในปี 2567 อย่างแน่นอน
โฆษกกระทรวง กล่าวว่า จากการสรุปข้อมูลล่าสุดวันที่ 24 เม.ย.2567 พบความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ รับ – ส่งยา (Health Rider) ดังนี้
จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ 39 จังหวัด
หน่วยบริการที่เข้าร่วม 301 แห่ง
อสม.และบุคลากรสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการฯแล้ว 5,258 คน
วิ่งจัดส่งยาแล้วทั้งประเทศ 85,217 ออเดอร์
และมีรายได้ของ Health Rider เป็นความภาคภูมิใจของบุคลากรของกระทรวงและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันเต็มที่และดียิ่งเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล
30 บาทรักษทุกที่ ใช้บัตรประชาชนใบเดียว ใช้ได้ที่ไหนบ้าง ?
ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) เมื่อมีอาการเจ็บป่วย นอกจากเข้ารักษาได้ที่สถานพยาบาลประจำตามสิทธิของท่านหรือหน่วยบริการในระดับปฐมภูมิได้ทุกแห่งแล้ว ยังเข้ารักษาได้ที่หน่วยบริการเอกชนที่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อไปนี้ได้ทั่วประเทศ ไม่ว่าสิทธิบัตรทองจะอยู่ที่จังหวัดไหน ก็ไปใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียว
ใช้บริการได้ทั่วประเทศ ดังนี้
ร้านยา
คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น
คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น
คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น
ใช้บริการได้เฉพาะจังหวัดนำร่อง 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ดังนี้
คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น
คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น
คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น
สำหรับการตรวจสอบหน่วยบริการ ที่ร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ของ สปสช. สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของ สปสช.
https://www.nhso.go.th/page/Innovative-services-all-provinces และเลือกประเภทหน่วยบริการเอกชนที่ต้องการตรวจสอบ
30 บาทรักษาทุกที่ ครอบคลุมอะไรบ้าง ?
คนไทยที่มีสิทธิบัตรทอง เกือบ 50 ล้านคน สามารถเข้ารับการรักษาได้ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดังนี้
ร้านยา ให้บริการดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ โดยปรึกษาเภสัชกรและรับยา สำหรับ 16 กลุ่มอาการ มีดังนี้
ปวดหัว (HEADACHE)
เวียนหัว (Dizziness)
ปวดข้อ (PAIN IN JOINT)
เจ็บกล้ามเนื้อ (MUSCLE PAIN)
ไข้ (FEVER)
ไอ (COUGH)
เจ็บคอ (SORE THROAT)
ปวดท้อง (STOMACHACHE)
ท้องผูก (CONSTIPATION)
ท้องเสีย (DIARRHEA)
ถ่ายปัสสาวะขัด, ปัสสาวะลำบาก, ปัสสาวะเจ็บ (DYSURIA)
ตกขาวผิดปกติ (VAGINAL DISCHARGE)
อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน (SKIN RASH/LESION)
บาดแผล (WOUND)
ความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตา (EYE DISORDER)
ความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับหู (EAR DISORDER)
คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น ให้บริการตรวจรักษาโรคเบื้องต้น 32 อาการ ทำแผล ฝากครรภ์-ตรวจหลังคลอด โดย 32 กลุ่มโรคเบื้องต้นตามขอบเขตวิชาชีพ มีดังนี้
ไข้ตัวร้อน
ไข้และมีผื่นหรือจุด
ไข้จับสั่น
ไอ
ปวดศีรษะ
ปวดเมื่อย
ปวดหลัง
ปวดเอว
ปวดท้อง
ท้องผูก
ท้องเดิน
คลื่นไส้อาเจียน
การอักเสบต่าง ๆ
โลหิตจาง
ดีซ่าน
โรคขาดอาหาร
อาหารเป็นพิษ
โรคพยาธิลำไส้
โรคบิด
โรคไข้หวัด
โรคหัด
โรคสุกใส
โรคคางทูม
โรคไอกรน
โรคผิวหนังเหน็บชา
ปวดฟัน
เหงือกอักเสบ
เจ็บตา
เจ็บหู
โรคติดต่อตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ภาวะแท้งคุกคามหรือหลังแท้งแล้ว
การให้ภูมิคุ้มกันแก่โรคแก่บุคคลทั่วไป หญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด ทารกและเด็ก
คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น รับบริการตรวจรักษาโรคแบบผู้ป่วยนอกตามการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น ตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟลูออไรด์
คลินิกการแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น นวด ประคบ อบสมุนไพร เพื่อการรักษา เป็นต้น
คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น ให้บริการตรวจวัดระดับไขมันในเลือด ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ ตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง (อายุ 50-70 ปี) รวมถึงตรวจแล็บตามใบสั่งตรวจของแพทย์ เป็นต้น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/general/news-1551337
30 บาทรักษาทุกที่ 1 พ.ค.นี้ เดินหน้าเฟส 3 ครอบคลุม 45 จังหวัด
วันที่ 26 เมษายน 2567 ข่าวสด รายงานว่า น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ที่น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ติดตามเร่งรัดว่า ขณะนี้การดำเนินการจะเข้าสู่ระยะที่ 3 หรือเฟส 3 ในวันที่ 1 พ.ค.ถึงนี้ การให้บริการจะครอบคลุมเพิ่มอีก 33 จังหวัด จากเดิม 12 จังหวัด รวมเป็น 45 จังหวัด ครอบคลุม 16 เขตสุขภาพ
ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท อุทัยธานี สระบุรี นนทบุรี ลพบุรี อ่างทอง นครนายก พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย บึงกาฬ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีความมั่นใจว่า การขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ในเฟส 3 จะสามารถยกระดับการบริการ อำนวยความสะดวกประชาชน ไม่ต้องรอคิว รอรับยา ตรวจเสร็จรับยาที่บ้าน Health Rider เหมือนที่เริ่มมาแล้วในเฟส 1 เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2567 นำร่อง 4 จังหวัด ต่อมาเฟส 2 นำร่องอีก 8 จังหวัด เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 เฟส ประชาชนพอใจการได้รับบริการเกือบ 100 %
การให้บริการได้เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขครบทุกแห่งและทุกกองทุนสุขภาพ ปัจจุบันมีหน่วยบริการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง 893 แห่ง จาก 902 แห่งทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ 99.7 ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการพัฒนาโครงสร้างเป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ
มีการเชื่อมต่อแอพพลิเคชันและไลน์หมอพร้อมทั่วประเทศแล้ว กว่า 40 ล้านคน มีการนัดหมายและดำเนินการบริการระบบการแพทย์ทางไกล 55,446 ครั้ง ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล 81,317ใบ มีการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์โดย Health Rider 55,376 ออเดอร์
ทั้งนี้ กว่าร้อยละ 90 ของผู้รับบริการมีความพึงพอใจดีมาก เนื่องจากได้รับบริการที่รวดเร็ว เจ้าหน้าที่ส่งยาพูดจาสุภาพ ความสมบูรณ์ของพัสดุ ลดระยะเวลาการรอคอย ช่วยลดความแออัดในการรอรับยาที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอก ในระยะเฟส 4 จะขยายครอบคลุมทั้งประเทศภายในปี 2567 อย่างแน่นอน
โฆษกกระทรวง กล่าวว่า จากการสรุปข้อมูลล่าสุดวันที่ 24 เม.ย.2567 พบความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการ รับ – ส่งยา (Health Rider) ดังนี้
จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ 39 จังหวัด
หน่วยบริการที่เข้าร่วม 301 แห่ง
อสม.และบุคลากรสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการฯแล้ว 5,258 คน
วิ่งจัดส่งยาแล้วทั้งประเทศ 85,217 ออเดอร์
และมีรายได้ของ Health Rider เป็นความภาคภูมิใจของบุคลากรของกระทรวงและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันเต็มที่และดียิ่งเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล
30 บาทรักษทุกที่ ใช้บัตรประชาชนใบเดียว ใช้ได้ที่ไหนบ้าง ?
ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) เมื่อมีอาการเจ็บป่วย นอกจากเข้ารักษาได้ที่สถานพยาบาลประจำตามสิทธิของท่านหรือหน่วยบริการในระดับปฐมภูมิได้ทุกแห่งแล้ว ยังเข้ารักษาได้ที่หน่วยบริการเอกชนที่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อไปนี้ได้ทั่วประเทศ ไม่ว่าสิทธิบัตรทองจะอยู่ที่จังหวัดไหน ก็ไปใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียว
ใช้บริการได้ทั่วประเทศ ดังนี้
ร้านยา
คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น
คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น
คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น
ใช้บริการได้เฉพาะจังหวัดนำร่อง 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ดังนี้
คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น
คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น
คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น
สำหรับการตรวจสอบหน่วยบริการ ที่ร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ของ สปสช. สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของ สปสช. https://www.nhso.go.th/page/Innovative-services-all-provinces และเลือกประเภทหน่วยบริการเอกชนที่ต้องการตรวจสอบ
30 บาทรักษาทุกที่ ครอบคลุมอะไรบ้าง ?
คนไทยที่มีสิทธิบัตรทอง เกือบ 50 ล้านคน สามารถเข้ารับการรักษาได้ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดังนี้
ร้านยา ให้บริการดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ โดยปรึกษาเภสัชกรและรับยา สำหรับ 16 กลุ่มอาการ มีดังนี้
ปวดหัว (HEADACHE)
เวียนหัว (Dizziness)
ปวดข้อ (PAIN IN JOINT)
เจ็บกล้ามเนื้อ (MUSCLE PAIN)
ไข้ (FEVER)
ไอ (COUGH)
เจ็บคอ (SORE THROAT)
ปวดท้อง (STOMACHACHE)
ท้องผูก (CONSTIPATION)
ท้องเสีย (DIARRHEA)
ถ่ายปัสสาวะขัด, ปัสสาวะลำบาก, ปัสสาวะเจ็บ (DYSURIA)
ตกขาวผิดปกติ (VAGINAL DISCHARGE)
อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน (SKIN RASH/LESION)
บาดแผล (WOUND)
ความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตา (EYE DISORDER)
ความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับหู (EAR DISORDER)
คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น ให้บริการตรวจรักษาโรคเบื้องต้น 32 อาการ ทำแผล ฝากครรภ์-ตรวจหลังคลอด โดย 32 กลุ่มโรคเบื้องต้นตามขอบเขตวิชาชีพ มีดังนี้
ไข้ตัวร้อน
ไข้และมีผื่นหรือจุด
ไข้จับสั่น
ไอ
ปวดศีรษะ
ปวดเมื่อย
ปวดหลัง
ปวดเอว
ปวดท้อง
ท้องผูก
ท้องเดิน
คลื่นไส้อาเจียน
การอักเสบต่าง ๆ
โลหิตจาง
ดีซ่าน
โรคขาดอาหาร
อาหารเป็นพิษ
โรคพยาธิลำไส้
โรคบิด
โรคไข้หวัด
โรคหัด
โรคสุกใส
โรคคางทูม
โรคไอกรน
โรคผิวหนังเหน็บชา
ปวดฟัน
เหงือกอักเสบ
เจ็บตา
เจ็บหู
โรคติดต่อตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ภาวะแท้งคุกคามหรือหลังแท้งแล้ว
การให้ภูมิคุ้มกันแก่โรคแก่บุคคลทั่วไป หญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด ทารกและเด็ก
คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น รับบริการตรวจรักษาโรคแบบผู้ป่วยนอกตามการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น ตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟลูออไรด์
คลินิกการแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น นวด ประคบ อบสมุนไพร เพื่อการรักษา เป็นต้น
คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น ให้บริการตรวจวัดระดับไขมันในเลือด ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ ตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง (อายุ 50-70 ปี) รวมถึงตรวจแล็บตามใบสั่งตรวจของแพทย์ เป็นต้น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/general/news-1551337