ปลายปี 2559 ผมได้เขียนกระทู้ เงินเดือน 50,000 ได้มายังไง แล้ววันวันทำอะไรมั่ง มาครับ...ผมจะเล่าให้ฟัง (
https://ppantip.com/topic/35851523)
เร็วๆนี้ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมพึ่งได้รับ noti ว่ามีคนมาตอบ reply ไว้บนกระทู้นั้นอยู่เลย ก็ดีใจที่กระทู้เป็นประโยชน์ครับ
วันนี้ ปี 2567 มา update อีกทีว่าตัวเลขไปแตะที่ 6 หลักอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ 8ปี เงินเดือนเบิ้ลเป็น 2 เท่า ทำยังไง?
มีเรื่องราวมากมายที่อยากเล่าให้ฟัง ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันครับ!!!
- Profile
งาน IT(System Engineer) บ.ข้ามชาติ ได้ตัวเลข 1แสน ตอนอายุ 40
*อายุเท่านี้ สายงานIT ได้ตัวเลขเท่านี้ ผมว่ากลางๆ กำลังดี ไม่ช้าไม่เร็ว งานITมีคนเก่งจริงที่ได้เงินแสนตั้งแต่เลข3ต้นๆก็ไม่น้อย ส่วนคนที่ถึงเลข5แล้วแต่ยังไม่ถึงตัวเลขนี่เยอะเลย
- เส้นทางตัวเลขรายรับ
ผมจบตัวเลข บ.เดิม ที่ 55k แล้วย้ายมา บ.ใหม่ ได้เพิ่ม 27.3% ดูเหมือนได้เพิ่มเยอะ เพราะกระโดดข้ามไปสายธุรกิจที่จ่ายดีกว่า แต่สวัสดิการหายไปเยอะมากๆเหมือนกัน
ที่ บ.ใหม่นี้ ผมยังทำอยู่ มาถึงตอนนี้เข้าปีที่ 7 แล้ว มีได้รับการ promote 1 รอบ รอบนั้นเงินเดือนขึ้น 12.5% ที่เหลือก็ปรับประจำปี เฉลี่ยปีละ 4-5%
- ทำงานอะไร, งานหนักขนาดไหน, วันๆทำอะไรบ้าง ทำไมค่าจ้างเยอะ
หน้าที่ผมคือ System Engineer ดูแลระบบ server พูดให้เห็นภาพ ระบบงานที่ใช้งานกันภายในบริษัทนั้น run อยู่บน server
ผมมีหน้าที่ดูแล server ให้รองรับการทำงานของ application หรือระบบงานต่างๆ ให้ทำงานได้ปกติอย่างเต็มประสิทธิภาพ
งานแบบนี้ IT จะเรียกว่างานหลังบ้าน
ยกตัวอย่างให้พอเข้าใจ ก็จะประมาณใครสักคนที่เดินสำรวจรอบบ้านทุกๆวัน ว่าท่อน้ำ สายไฟ มีตรงไหนรั่วไหม/ช็อตหรือเปล่า
ประตู/หน้าต่าง ยังใช้งานได้ดี เปิดปิดเรียบร้อย หลังคาแตกหักยังไงหรือเปล่า ฝนตกมาจะรั่วมั้ย แอร์เย็นตามปกติมั้ย
รอบๆบ้านมีดินทรุด ให้ซ่อมเมื่อไหร่แจ้งมา หน้าต่างมียุงเข้า ติดมุ้งลวดมั้ย? ทรงๆนายช่าง IT นี่แหละครับ ใช่เลย
เทียบกับงานจริง ก็คือดูแลในภาพรวมของระบบงานโครงสร้างIT(IT Infrastructure) ให้ใช้งานได้ดีอยุ่ตลอดเวลา
เช่น อยากได้ระบบงานใหม่ ฐานข้อมูลชุดใหม่ เรามานั่งคุยกันว่าต้องการอะไร หน้าที่คือเราจะสร้างงานชุดนั้นและดูแลรักษาให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่
ทำไมค่าจ้างเยอะ ง่ายๆเพราะเป็นงานเฉพาะทางครับ
ขยายความงานเฉพาะทาง มันคืองานที่อาศัยองค์ประกอบเฉพาะทางหลายๆอย่างรวมกัน งานแบบนี้รู้เรื่องเดียวทำไม่ได้ ทำได้ก็ไม่ลึกพอ(ซึ่งก็คือทำไม่ได้นั่นแหละ)
ที่เปิดประเด็นนี้ขึ้นมา คิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังคิดว่าอยากย้ายงานมาสายIT คนสาย IT โดยตรงบอกเลยว่าทำได้ครับ แต่ไม่ง่าย
เพราะอะไร? เพราะคนที่เรียนจบ IT มาโดยตรง ที่นั่งเขียนโปรแกรมนั้นไม่ได้เรียนวิชาเขียนโปรแกรมแล้วมานั่งทำงานได้เลย เรียนวิชา security แล้วมาทำได้เลย
มันอาศัยความรู้ที่เป็นองค์ประกอบจากการเรียนทั้งสายวิชา รวมถึงการเก็บเกี่ยวองค์ความรู้ต่างๆของตัวเองด้วย เช่น เข้าคอร์สอบรม สอบcert ฯลฯ
ผมเคยตอบคำถามนี้ไปประมาณว่า ข้ามสายมาIT เพราะเห็นว่ารายได้ดี น่าทำน่าสนใจ มันก็ทำได้ คนที่ข้ามสายมาแล้วไปได้ดีกว่าคนสายITตรงก็มี แต่น้อย
ถ้าจะโดดมาสายIT ให้นึกถึงภาพภูเขาน้ำแข็ง ยอดที่โผล่อยู่บนผิวน้ำคืองานที่ต้องทำ ส่วนก้อนใหญ่ที่อยู่ใต้น้ำ นั่นแหละองค์ความรู้ที่จะทำให้ไปได้ด้วยดีในสายงานนี้
ผมให้กำลังใจคนที่จะย้ายสายงานมา ให้คุณเชื่อเถอะว่าคุณทำได้แน่ๆถ้าคุณอุทิศชีวิตให้มันมากพอ
แต่ถ้าคุณไม่ลงทุนกับมันมากพอ คุณจะไม่โตในสายงานนี้ และจงทำใจเมื่อเห็นเด็กจบใหม่ ทะยอยโตข้ามหัวคุณไปเป็นเรื่องปกติ
งานยุ่งมั้ย ทีมผมนี้เป็นทีมที่ถ้ามานั่งข้างๆ คุณจะเป็นว่างานไม่ยุ่งเท่าไหร่ บางทีถึงขั้นสบาย เพราะเวลาที่เรายุ่ง นั่นคือเวลาที่พวกท่านทานข้าวเย็นนอนดูละคร/netflixกัน
งานสายนี้ค่าตัวแพงเพราะต้องการความแม่นยำ ลองนึกภาพท่านๆทำงานในระบบงาน keyงานผิดไปก็เข้าไปแก้ไขให้ถูกต้อง ไม่ค่อยมีผลกระทบต่องานคนอื่นเท่าไหร่
แต่งานของพวกเรา มีบางงานที่ถูกสั่งให้ทำในเวลางาน ถ้าพลาดจุดสำคัญขึ้นมาเพียงนิดเดียว ผลกระทบอาจทำให้ระบบงานล่ม ใช้งานไม่ได้กันไปทั้งบริษัทในช่วงเวลาหนึ่ง
ดังนั้น ทุกอย่างต้องแม่นยำสุดๆ ใครเป็นแฟนหรือเป็นเพื่อนกับคนที่ทำงานสายนี้ จะเห็นว่าทำอะไรที จะต้องดูนั่นดูนี่ จะต้องคิดอะไรเยอะแยะ จะรอบคอบรัดกุมไปถึงไหน
เราเป็นแบบนั้นเพราะงานของเรามันไม่มีช่องว่างให้กับความผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว และเรื่องพวกนี้แหละที่พวกเราถูกหล่อหลอมให้เป็นแบบนั้น
มันจึงเป็นที่มาว่าทำไมงานสายนี้ถึงต้องหนีไปทำเวลาหลังเลิกงาน หรือทำในวันหยุด พวกที่บอกว่าไปเที่ยวก็ต้องพก notebook ไปเป็นอวัยวะชิ้นที่33 นี่แหละพวกผมล่ะ
- คิดว่าอะไรที่ทำให้ตัวเองมาได้ถึงขนาดนี้
ชี้ไปที่ mindset จุดเดียวเลยครับ แต่เป็น mindset ตั้งแต่ของครอบครัว ลงมาถึงตัวผมเอง
พ่อแม่ ไม่ได้มีเงินส่งเสียเยอะแยะมากมาย เล่าให้ฟังก็ได้ว่าตอนเรียน ป.ตรีฯ ครอบครัวต้องไปขอยืมเงินญาติมาส่งจนผมเรียนจบ(แบบเกือบไม่จบ T_T)
Mindset ที่เป็นจุดที่ทำให้ผมมาถึงตรงนี้ได้ คือใฝ่เรียนรู้ ผมอยากรู้ทุกอย่าง จนถึงวันนี้ผมก็เรียนรู้เทคโนโลยีITใหม่ๆ
รู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร แล้วทำตัวเองให้พร้อมกับสิ่งนั้นให้มากที่สุด เรื่องนี้อยากให้อ่านในกระทู้ที่แล้ว จะเห็นภาพชัดมากๆ
เล่าสั้นๆอีกที ตอนที่รู้ตัวว่าอยากทำงานไหนผมจ่ายตังค์ไปเข้าคอร์สเลย เรื่องภาษาคิดว่าเป็นนskillที่ดีมากๆ ผมก็ไปลงเรียน ผมเป็นคนที่ถ้าอยากรู้อะไรจะกระโดดเข้าใส่ประมาณนั้น
ขอเล่านิด มีบางงานที่ผมสนใจอยากทำ แต่ไม่มีโอกาสเพราะแทบไม่มีความรู้ ได้แต่ไปเข้าอบรมฟรีเล็กๆบ้าง ศึกษาจาก Youtube บ้าง อ่านตาม page Facebook บ้าง
แต่เชื่อมั้ยว่าผมก็ร่อน resume ไปสมัครงานนั้นแหละ ได้สัมภาษณ์ด้วย และแน่นอนว่าไม่ผ่าน เพราะไม่ได้หวังว่าจะผ่าน แค่สะสมเป็นประสบการณ์ที่ดีไว้
- เงินแสนแต่เหนื่อยใจ => เหนื่อยใจเรื่องอะไร
สั้นๆง่ายๆ เรื่องคนนี่แหละครับ ไม่เล่าเยอะ เอาแค่ว่ามี toxic ที่ทุกคนในแผนกที่ต้องทำงานกับคนๆนี้ ส่ายหน้าหนีกันหมด
ทีมงานข้างเคียงที่โยนปัญหาทุกอย่างมาลงที่ทีมผม(เขาไม่ได้ตั้งใจ เกิดจากความไม่เข้าใจในprocess แต่เมื่อรู้เรื่องแล้วก็ทำไม่สนใจ อ้อยเข้าปากช้าง)
คุยกะเพื่อนๆมหา'ลัย เพื่อนมันยังแซวว่า ที่เขาให้เงินเมิงขนาดนี้ ก็คงมีค่าจ้างทำงานกับสภาพแวดล้อมอย่างนี้ไปด้วยแล้ว ผมก็ได้แต่ อืม...น่าจะใช่
ทุกที่ มีปัญหาเล็กใหญ่เหมือนกันหมดครับ ผมหนีจาก บ.เดิมมา จากปัญหาเรื่องหนึ่ง ย้ายมาที่ปัจจุบันก็เจอเรื่องราวอีกแบบหนึ่ง
เชื่อว่าถึงย้ายไป บ. อื่นต่อ ก็จะมีเรื่องอื่นๆตามแต่ culture ที่แตกต่างของแต่ละที่ไป ยังไงก็ไม่มีทางหนี้พ้นครับ
ถึงตรงนี้ ใครที่ไม่ไหวกับที่ทำงาน ไม่ไหวจริงๆย้ายครับ ไม่ต้องรอ แต่ที่ไหนที่คุณพอทนทำใจอยู่ไหว ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวแล้วครับ
- ขออนุญาตแชร์เรื่องส่วนตัว เป็น 1 ในกรณีศึกษาว่าเงินเดือน 1แสน ใช้อะไรบ้าง เหลือเก็บเท่าไหร่
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หักภาษี หักอะไรไป โดนหักเยอะT_T เงินเข้า บช จริงๆ ประมาณ 85k
ผมส่งที่บ้านรวมๆ15k ผ่อนบ้าน25k มีค่าบำรุงรักษาบ้าน/รถ ใช้จ่ายจำเป็น+ส่วนตัว รวมๆแล้วเหลือเก็บต่อเดือนไม่น้อยกว่า 20k (แกว่งๆอยู่ในช่วง20k-30k)
*** สุดท้ายนี้ ท่านใดมีความคิดเห็นอย่างไร สามารถแลกเปลี่ยนกันอย่างปัญญาชนตามอัธยาศัย
มีสิ่งใดสงสัยสามารถถามไว้ได้เลย ผมจะมาตอบให้ , ใครอยากแชร์มุมมองใดเพิ่มเติม ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
แสนแล้วจร้า... เงินแสนแต่เหนื่อยใจ ไหนมันยังไง มาดู!!! (เล่าให้ฟังครบทุกมุม)
เร็วๆนี้ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมพึ่งได้รับ noti ว่ามีคนมาตอบ reply ไว้บนกระทู้นั้นอยู่เลย ก็ดีใจที่กระทู้เป็นประโยชน์ครับ
วันนี้ ปี 2567 มา update อีกทีว่าตัวเลขไปแตะที่ 6 หลักอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ 8ปี เงินเดือนเบิ้ลเป็น 2 เท่า ทำยังไง?
มีเรื่องราวมากมายที่อยากเล่าให้ฟัง ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันครับ!!!
- Profile
งาน IT(System Engineer) บ.ข้ามชาติ ได้ตัวเลข 1แสน ตอนอายุ 40
*อายุเท่านี้ สายงานIT ได้ตัวเลขเท่านี้ ผมว่ากลางๆ กำลังดี ไม่ช้าไม่เร็ว งานITมีคนเก่งจริงที่ได้เงินแสนตั้งแต่เลข3ต้นๆก็ไม่น้อย ส่วนคนที่ถึงเลข5แล้วแต่ยังไม่ถึงตัวเลขนี่เยอะเลย
- เส้นทางตัวเลขรายรับ
ผมจบตัวเลข บ.เดิม ที่ 55k แล้วย้ายมา บ.ใหม่ ได้เพิ่ม 27.3% ดูเหมือนได้เพิ่มเยอะ เพราะกระโดดข้ามไปสายธุรกิจที่จ่ายดีกว่า แต่สวัสดิการหายไปเยอะมากๆเหมือนกัน
ที่ บ.ใหม่นี้ ผมยังทำอยู่ มาถึงตอนนี้เข้าปีที่ 7 แล้ว มีได้รับการ promote 1 รอบ รอบนั้นเงินเดือนขึ้น 12.5% ที่เหลือก็ปรับประจำปี เฉลี่ยปีละ 4-5%
- ทำงานอะไร, งานหนักขนาดไหน, วันๆทำอะไรบ้าง ทำไมค่าจ้างเยอะ
หน้าที่ผมคือ System Engineer ดูแลระบบ server พูดให้เห็นภาพ ระบบงานที่ใช้งานกันภายในบริษัทนั้น run อยู่บน server
ผมมีหน้าที่ดูแล server ให้รองรับการทำงานของ application หรือระบบงานต่างๆ ให้ทำงานได้ปกติอย่างเต็มประสิทธิภาพ
งานแบบนี้ IT จะเรียกว่างานหลังบ้าน
ยกตัวอย่างให้พอเข้าใจ ก็จะประมาณใครสักคนที่เดินสำรวจรอบบ้านทุกๆวัน ว่าท่อน้ำ สายไฟ มีตรงไหนรั่วไหม/ช็อตหรือเปล่า
ประตู/หน้าต่าง ยังใช้งานได้ดี เปิดปิดเรียบร้อย หลังคาแตกหักยังไงหรือเปล่า ฝนตกมาจะรั่วมั้ย แอร์เย็นตามปกติมั้ย
รอบๆบ้านมีดินทรุด ให้ซ่อมเมื่อไหร่แจ้งมา หน้าต่างมียุงเข้า ติดมุ้งลวดมั้ย? ทรงๆนายช่าง IT นี่แหละครับ ใช่เลย
เทียบกับงานจริง ก็คือดูแลในภาพรวมของระบบงานโครงสร้างIT(IT Infrastructure) ให้ใช้งานได้ดีอยุ่ตลอดเวลา
เช่น อยากได้ระบบงานใหม่ ฐานข้อมูลชุดใหม่ เรามานั่งคุยกันว่าต้องการอะไร หน้าที่คือเราจะสร้างงานชุดนั้นและดูแลรักษาให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่
ทำไมค่าจ้างเยอะ ง่ายๆเพราะเป็นงานเฉพาะทางครับ
ขยายความงานเฉพาะทาง มันคืองานที่อาศัยองค์ประกอบเฉพาะทางหลายๆอย่างรวมกัน งานแบบนี้รู้เรื่องเดียวทำไม่ได้ ทำได้ก็ไม่ลึกพอ(ซึ่งก็คือทำไม่ได้นั่นแหละ)
ที่เปิดประเด็นนี้ขึ้นมา คิดว่าเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังคิดว่าอยากย้ายงานมาสายIT คนสาย IT โดยตรงบอกเลยว่าทำได้ครับ แต่ไม่ง่าย
เพราะอะไร? เพราะคนที่เรียนจบ IT มาโดยตรง ที่นั่งเขียนโปรแกรมนั้นไม่ได้เรียนวิชาเขียนโปรแกรมแล้วมานั่งทำงานได้เลย เรียนวิชา security แล้วมาทำได้เลย
มันอาศัยความรู้ที่เป็นองค์ประกอบจากการเรียนทั้งสายวิชา รวมถึงการเก็บเกี่ยวองค์ความรู้ต่างๆของตัวเองด้วย เช่น เข้าคอร์สอบรม สอบcert ฯลฯ
ผมเคยตอบคำถามนี้ไปประมาณว่า ข้ามสายมาIT เพราะเห็นว่ารายได้ดี น่าทำน่าสนใจ มันก็ทำได้ คนที่ข้ามสายมาแล้วไปได้ดีกว่าคนสายITตรงก็มี แต่น้อย
ถ้าจะโดดมาสายIT ให้นึกถึงภาพภูเขาน้ำแข็ง ยอดที่โผล่อยู่บนผิวน้ำคืองานที่ต้องทำ ส่วนก้อนใหญ่ที่อยู่ใต้น้ำ นั่นแหละองค์ความรู้ที่จะทำให้ไปได้ด้วยดีในสายงานนี้
ผมให้กำลังใจคนที่จะย้ายสายงานมา ให้คุณเชื่อเถอะว่าคุณทำได้แน่ๆถ้าคุณอุทิศชีวิตให้มันมากพอ
แต่ถ้าคุณไม่ลงทุนกับมันมากพอ คุณจะไม่โตในสายงานนี้ และจงทำใจเมื่อเห็นเด็กจบใหม่ ทะยอยโตข้ามหัวคุณไปเป็นเรื่องปกติ
งานยุ่งมั้ย ทีมผมนี้เป็นทีมที่ถ้ามานั่งข้างๆ คุณจะเป็นว่างานไม่ยุ่งเท่าไหร่ บางทีถึงขั้นสบาย เพราะเวลาที่เรายุ่ง นั่นคือเวลาที่พวกท่านทานข้าวเย็นนอนดูละคร/netflixกัน
งานสายนี้ค่าตัวแพงเพราะต้องการความแม่นยำ ลองนึกภาพท่านๆทำงานในระบบงาน keyงานผิดไปก็เข้าไปแก้ไขให้ถูกต้อง ไม่ค่อยมีผลกระทบต่องานคนอื่นเท่าไหร่
แต่งานของพวกเรา มีบางงานที่ถูกสั่งให้ทำในเวลางาน ถ้าพลาดจุดสำคัญขึ้นมาเพียงนิดเดียว ผลกระทบอาจทำให้ระบบงานล่ม ใช้งานไม่ได้กันไปทั้งบริษัทในช่วงเวลาหนึ่ง
ดังนั้น ทุกอย่างต้องแม่นยำสุดๆ ใครเป็นแฟนหรือเป็นเพื่อนกับคนที่ทำงานสายนี้ จะเห็นว่าทำอะไรที จะต้องดูนั่นดูนี่ จะต้องคิดอะไรเยอะแยะ จะรอบคอบรัดกุมไปถึงไหน
เราเป็นแบบนั้นเพราะงานของเรามันไม่มีช่องว่างให้กับความผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว และเรื่องพวกนี้แหละที่พวกเราถูกหล่อหลอมให้เป็นแบบนั้น
มันจึงเป็นที่มาว่าทำไมงานสายนี้ถึงต้องหนีไปทำเวลาหลังเลิกงาน หรือทำในวันหยุด พวกที่บอกว่าไปเที่ยวก็ต้องพก notebook ไปเป็นอวัยวะชิ้นที่33 นี่แหละพวกผมล่ะ
- คิดว่าอะไรที่ทำให้ตัวเองมาได้ถึงขนาดนี้
ชี้ไปที่ mindset จุดเดียวเลยครับ แต่เป็น mindset ตั้งแต่ของครอบครัว ลงมาถึงตัวผมเอง
พ่อแม่ ไม่ได้มีเงินส่งเสียเยอะแยะมากมาย เล่าให้ฟังก็ได้ว่าตอนเรียน ป.ตรีฯ ครอบครัวต้องไปขอยืมเงินญาติมาส่งจนผมเรียนจบ(แบบเกือบไม่จบ T_T)
Mindset ที่เป็นจุดที่ทำให้ผมมาถึงตรงนี้ได้ คือใฝ่เรียนรู้ ผมอยากรู้ทุกอย่าง จนถึงวันนี้ผมก็เรียนรู้เทคโนโลยีITใหม่ๆ
รู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร แล้วทำตัวเองให้พร้อมกับสิ่งนั้นให้มากที่สุด เรื่องนี้อยากให้อ่านในกระทู้ที่แล้ว จะเห็นภาพชัดมากๆ
เล่าสั้นๆอีกที ตอนที่รู้ตัวว่าอยากทำงานไหนผมจ่ายตังค์ไปเข้าคอร์สเลย เรื่องภาษาคิดว่าเป็นนskillที่ดีมากๆ ผมก็ไปลงเรียน ผมเป็นคนที่ถ้าอยากรู้อะไรจะกระโดดเข้าใส่ประมาณนั้น
ขอเล่านิด มีบางงานที่ผมสนใจอยากทำ แต่ไม่มีโอกาสเพราะแทบไม่มีความรู้ ได้แต่ไปเข้าอบรมฟรีเล็กๆบ้าง ศึกษาจาก Youtube บ้าง อ่านตาม page Facebook บ้าง
แต่เชื่อมั้ยว่าผมก็ร่อน resume ไปสมัครงานนั้นแหละ ได้สัมภาษณ์ด้วย และแน่นอนว่าไม่ผ่าน เพราะไม่ได้หวังว่าจะผ่าน แค่สะสมเป็นประสบการณ์ที่ดีไว้
- เงินแสนแต่เหนื่อยใจ => เหนื่อยใจเรื่องอะไร
สั้นๆง่ายๆ เรื่องคนนี่แหละครับ ไม่เล่าเยอะ เอาแค่ว่ามี toxic ที่ทุกคนในแผนกที่ต้องทำงานกับคนๆนี้ ส่ายหน้าหนีกันหมด
ทีมงานข้างเคียงที่โยนปัญหาทุกอย่างมาลงที่ทีมผม(เขาไม่ได้ตั้งใจ เกิดจากความไม่เข้าใจในprocess แต่เมื่อรู้เรื่องแล้วก็ทำไม่สนใจ อ้อยเข้าปากช้าง)
คุยกะเพื่อนๆมหา'ลัย เพื่อนมันยังแซวว่า ที่เขาให้เงินเมิงขนาดนี้ ก็คงมีค่าจ้างทำงานกับสภาพแวดล้อมอย่างนี้ไปด้วยแล้ว ผมก็ได้แต่ อืม...น่าจะใช่
ทุกที่ มีปัญหาเล็กใหญ่เหมือนกันหมดครับ ผมหนีจาก บ.เดิมมา จากปัญหาเรื่องหนึ่ง ย้ายมาที่ปัจจุบันก็เจอเรื่องราวอีกแบบหนึ่ง
เชื่อว่าถึงย้ายไป บ. อื่นต่อ ก็จะมีเรื่องอื่นๆตามแต่ culture ที่แตกต่างของแต่ละที่ไป ยังไงก็ไม่มีทางหนี้พ้นครับ
ถึงตรงนี้ ใครที่ไม่ไหวกับที่ทำงาน ไม่ไหวจริงๆย้ายครับ ไม่ต้องรอ แต่ที่ไหนที่คุณพอทนทำใจอยู่ไหว ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวแล้วครับ
- ขออนุญาตแชร์เรื่องส่วนตัว เป็น 1 ในกรณีศึกษาว่าเงินเดือน 1แสน ใช้อะไรบ้าง เหลือเก็บเท่าไหร่
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หักภาษี หักอะไรไป โดนหักเยอะT_T เงินเข้า บช จริงๆ ประมาณ 85k
ผมส่งที่บ้านรวมๆ15k ผ่อนบ้าน25k มีค่าบำรุงรักษาบ้าน/รถ ใช้จ่ายจำเป็น+ส่วนตัว รวมๆแล้วเหลือเก็บต่อเดือนไม่น้อยกว่า 20k (แกว่งๆอยู่ในช่วง20k-30k)
*** สุดท้ายนี้ ท่านใดมีความคิดเห็นอย่างไร สามารถแลกเปลี่ยนกันอย่างปัญญาชนตามอัธยาศัย
มีสิ่งใดสงสัยสามารถถามไว้ได้เลย ผมจะมาตอบให้ , ใครอยากแชร์มุมมองใดเพิ่มเติม ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ