JJNY : 'ประชาไท'ติดตามคำตอบ'ปธ.องคมนตรี'│ตอกหน้าพวกอยากคว่ำเลือกสว.│จุดเตาต้มน้ำ หวังประหยัด│รมช.กลาโหมรัสเซียถูกจับ

'ประชาไท' ติดตามคำตอบจาก 'ปธ.องคมนตรี' หลังไม่ปรากฏชื่อลงนามรับสนองฯ ตั้ง 'ประยุทธ์' เป็นองคมนตรี
https://prachatai.com/journal/2024/04/108944

• ตัวแทนกองบรรณาธิการข่าวประชาไทยื่นหนังสือทวงถามคำตอบจาก 'ปธ.องคมนตรี' หลังยื่นถามไปเมื่อ 4 เดือนก่อน กรณีไม่ปรากฏชื่อลงนามรับสนองฯ ตั้ง 'ประยุทธ์' เป็นองคมนตรี รวมทั้งก่อนหน้านี้อีก 2 คน
• ขณะที่รัฐธรรมนูญมาตรา 11 วรรค 3 ระบุไว้ชัดเจนว่า 'ประธานองคมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนองฯ' และเมื่อย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 ในประกาศแต่งตั้งนุรักษ์ มาประณีต เป็น องคมนตรี ยังปรากฏชื่อ พลเอก สุรยุทธ์ เป็นผู้ลงนามรับสนองฯ อยู่

23 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 เม.ย.67) เวลา 15.00 น. ที่ทำเนียบองคมนตรี สำนักงานองคมนตรี เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ตัวแทนกองบรรณาธิการข่าวประชาไท เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ผ่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทำเนียบองคมนตรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าและคำตอบที่เคยยื่นหนังสือสอบถามไปเมื่อ 4 เดือนก่อน (22 ธ.ค.66) ถึงเหตุผลที่ไม่ปรากฏชื่อประธานองคมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น องคมนตรี  รวมทั้งก่อนหน้านี้อีก 2 คนคือ พลเอก บัณฑิตย์ มลายอริศูนย์ และเกษม จันทร์แก้ว
 
สำหรับประกาศแต่งตั้งทั้ง 3 องคมนตรีดังกล่าว ระบุด้วยว่าอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 11 ของรัฐธรรมนูญ 2560 แต่เมื่อพิจารณาตามมาตรา 11 วรรค 3 นั้นกลับระบุไว้ชัดเจนว่าประธานองคมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนองฯ และเมื่อย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2563 ในประกาศแต่งตั้งนุรักษ์ มาประณีต เป็น องคมนตรี ยังปรากฏชื่อ พลเอก สุรยุทธ์ เป็นผู้ลงนามรับสนองฯ อยู่

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2563 ในประกาศแต่งตั้งนุรักษ์ มาประณีต เป็น องคมนตรี ยังปรากฏชื่อ พลเอก สุรยุทธ์ เป็นผู้ลงนามรับสนองฯ อยู่

นอกจากสอบถามประธานองคมนตรีกรณีนี้แล้ว เมื่อ 4 เดือนก่อนตัวแทนกองบรรณาธิการข่าวประชาไทยังสอบถามเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศพระราชทานเครื่องราชฯให้แก่ชาวต่างประเทศ ไม่ปรากฎชื่อผู้รับสนองพระบรมราชโองการเหมือนก่อนหน้านั้น โดยเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา สารบรรรณกลาง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่งหนังสือ  เลขที่ นร0508/ท1747 ผ่านอีเมล saraban@soc.go.th มายังบรรณาธิการบริหารประชาไท ยืนยันว่า ประกาศพระราชทานเครื่องราชฯที่ไม่ปรากฎชื่อผู้รับสนองพระบรมราชโองการดังกล่าว ถูกต้องแล้ว พร้อมยืนยันว่าเป็นพระราชอํานาจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 9
 
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นจะออกเป็นประกาศสำนักนายกฯ โดยมีนายกฯ เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการนาม เปลี่ยนมาเป็นพระบรมราชโองการ 3 ฉบับล่าสุด ที่ไม่ปรากฎชื่อผู้รับสนองพระบรมราชโองการ  
 

 
ใบตองแห้ง ตอกหน้าพวกอยากคว่ำเลือก สว.ประชาชน หยุดตีรวนฉุดรั้งบ้านเมืองเสียที!.
https://www.matichon.co.th/politics/thai-senate-2024/news_4542030

The Politics ข่าวบ้าน การเมือง X ใบตองแห้ง อธึกกิต แสวงสุข วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการคัดเลือกวุฒิสภา (สว.) จวก สว.ที่ลากตั้ง แต่งตั้งกันมา คุณจะอยู่ไปเพื่ออะไร อยากอยู่ต่ออะไรขนาดนั้น ที่ผ่านมามันเละเทะแค่ไหนแล้ว ไปกีดกั้นคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเดียวกัน พวกคุณทำอะไรน่าเกลียดกันมาเยอะแล้ว ห่วงกลไกพิศดารตีรวนให้ค้าง หวังให้ สว. 250 คนอยู่ต่อไป

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
ร้อนหนักค่าไฟแพง แม่ค้าจุดเตาอั้งโล่ต้มน้ำ หวังประหยัดต้นทุน ไม่อยากขึ้นราคาเครื่องดื่ม
https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/397027

ร้อนหนักค่าไฟแพง ข้าวของขึ้นราคาทุกอย่าง แต่ต้องขายราคาเท่าเดิม มองซ้ายมองขวาเจอวิธีลดต้นทุนจัดเตาอั้งโล่ต้มน้ำจนลูกค้าตกอกตกใจเห็นควันโขมงคิดว่าไฟไหม้ทำขำขันกันไปทั้งบางกับวิธีลดค่าไฟแพง
 
วันที่ 23 เมษายน 2567 เวลา 20.00 น. ที่ร้านค้าในตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มีคลิปชวนขำขันระหว่างแม่ค้ากับลูกค้าที่เห็นควันพวยพุ่งขึ้นมาจนคิดว่า ไฟไหม้แต่ที่ไหนได้แม่ค้าบอกเป็นวิธีลดค่าไฟ หลังจากเจอปัญหาค่าไฟแพงจนทำเดือดร้อน
 
นางสุกัญญา มะโนรมณ์ อายุ 49 ปี แม่ค้าขายน้ำชง ถึงกับขำพร้อมกับเล่าว่า ไฟไม่ได้ไหม้หรอก ตนก่อเตาอั้งโล่ ต้มน้ำไว้สำหรับชงเครื่องดื่มให้กับลูกค้า เพราะข้าวของแพงขึ้นทุกอย่าง ยิ่งค่าไฟ แพงขึ้นจากเดิมมาก ตนเลยหาวิธีลดต้นทุน เพราะไม่อยากขึ้นราคาน้ำ
 
โดยปกติแล้ว ตนขายอยู่ราคา แก้วละ 10-20 บาท ถ้าแก้วเล็ก 15 ออนซ์ ราคา 10 บาท แก้วใหญ่ 22 ออนซ์ ราคา 20 บาท ถ้าขึ้นราคากลัวว่าลูกค้าจะเดือดร้อน
 
เธอบอกกับเราอีกว่าจากเดิมเคยใช้กระติกต้มน้ำร้อน เลยหันมาก่อเตาอั้งโล่ต้มน้ำแทน ก็ช่วยประหยัดค่าไฟลงไปได้มากและยิ่งสภาพอากาศที่ร้อนจัดแบบนี้ ลูกค้าก็อยากกินน้ำชงให้มันชื่นใจ ถ้าขึ้นราคา บางคนเขากำลังซื้อน้อย ก็จะอดไปอีก ตนจึงยอมทนร้อน พัดเตาก่อไฟใช้ถ่านต้มน้ำลดค่าไฟลดต้นทุนเองดีกว่า เพราะของมันแพงขึ้นทุกอย่าง ไปลดปริมาณลงเดี๋ยวรสชาติน้ำก็จะจืดจางไม่อร่อย
 
อย่างไรก็ดีงานนี้เรียกได้ว่าแม่ค้าหาวิธีลดต้นทุนเองดีกว่าไปขึ้นราคาสินค้า ยังไงวิธีโบรำโบราณก็ยังช่วยให้เราประหยัดได้ในยุคที่ค่าไฟแพงแบบนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่