
เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมครับว่า คนสมัยก่อนที่รบกันด้วย หอก ดาบ ธนู วิ่งพุ่งใส่กัน ฟาดฟัน เถือยเนื้อ แทงกัน ฟันกันแผลเหวอะหวะโหดๆ พวกเขาไม่กลัวเจ็บกันเลยเหรอครับ
อย่างที่เราเห็น เด็กช่างยกพวกตีกันเวลาถือมีด ก็แค่ทำเป็นง้างขู่ฟ่อๆ ใส่กันก่อน ยั่งเชิง แต่จะไม่กล้าวิ่งใส่รบพุ่ง ฟันกันเหมือนในสนามรบสมัยก่อน
คือ นักรบสมัยก่อน ต้องดิบ ต้องโหด ต้องใจถึงขนาดไหนครับ ที่จะวิ่งกรูตะลุมบอนเข้าไปแลกคมหอก คมดาบ พลาดมา ป้องกันตัวไม่ทันคือ ตายอย่างเดียว ดีไม่ดีอาจโดนฟันคอขาดกลางสนามรบ แทงใส้ไหล หรือบาดเจ็บสาหัส แผลฉกรรจ์ โดนลูกธนูปักขา ก็ต้องฝืนสู้ต่อ ทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บ คมหอกดาบ ทั้งตีน ทั้งหมัด ลูกธนู มารอบด้าน ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะเจ็บน่าดูเลยนะครับ
พอมนุษย์พัฒนาดินปืนมาได้ จนสร้างอาวุธเป็นปืน ผมคิดว่าคมกระสุนที่ยิง น่าจะเจ็บน้อยกว่า รบพุ่งสมัยก่อนนะครับ
ผมไม่เคยโดยยิงนะครับ แต่คนที่เคยโดนยิงบอกว่า พอกระสุนผ่านร่างจนเป็นรู ตัวก็จะรู้ศึกเริ่มชา ตัวเย็น ถ้าโดนเข้ากะบานอาจจะตายโดยไม่รู้สึกเจ็บเลยก็ได้
ยิ่งช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พลทหารลาบ กองพลเขาจะจำหน่ายมอฟิน ติดตัวไว้ให้ ในยามที่โดนยิง หรือโดนสเก็ดระเบิด เขาก็จะฉีดระงับความเจ็บปวดได้
แต่ถ้าเป็นยุคสมัยรับพุ่งแบบโบราณ ไม่มีมอฟิน ฟันแขน ขาขาด แทงใส้ไหล ดาบบาดปาดเถือยเนื้อ คือ เจ็บทรมานมากเลยนะครับ
ผมอยากรู้จริงๆ ว่า นักรบสมัยรบพุ่งฟันกัน เขาต้องมีจิตใจหาญกล้าขนาดไหน
ขนาดปัจจุบัน เราจะเข้าชาร์จใส่ คนคลั่งยาถือมีดคนเดียว เรายังต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมากพร้อมอุปกรณ์
แต่ในสนามรบพุ่งสมัยก่อน คือ วิ่งตะลุมบอนท่ามกลางดง หอก ดาบ รอบตัวแบบชุลมุน
ผมว่าการรบพุ่งสมัยโบราณ เอาจริงๆ นะครับ ถ้าเราไปอยู่ตรงนั้นน่ากลัวเอาเรื่องเหมือนกัน มันอาจไม่ได้สนุกเหมือนในหนัง
เพื่อนคิดเห็นอย่างไร?
สมัยก่อนโบราณ มนุษย์รบพุ่งตะลุมบอนใส่กันด้วย ดาบ หอก ธนู เขาไม่เจ็บเหรอครับ?
เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมครับว่า คนสมัยก่อนที่รบกันด้วย หอก ดาบ ธนู วิ่งพุ่งใส่กัน ฟาดฟัน เถือยเนื้อ แทงกัน ฟันกันแผลเหวอะหวะโหดๆ พวกเขาไม่กลัวเจ็บกันเลยเหรอครับ
อย่างที่เราเห็น เด็กช่างยกพวกตีกันเวลาถือมีด ก็แค่ทำเป็นง้างขู่ฟ่อๆ ใส่กันก่อน ยั่งเชิง แต่จะไม่กล้าวิ่งใส่รบพุ่ง ฟันกันเหมือนในสนามรบสมัยก่อน
คือ นักรบสมัยก่อน ต้องดิบ ต้องโหด ต้องใจถึงขนาดไหนครับ ที่จะวิ่งกรูตะลุมบอนเข้าไปแลกคมหอก คมดาบ พลาดมา ป้องกันตัวไม่ทันคือ ตายอย่างเดียว ดีไม่ดีอาจโดนฟันคอขาดกลางสนามรบ แทงใส้ไหล หรือบาดเจ็บสาหัส แผลฉกรรจ์ โดนลูกธนูปักขา ก็ต้องฝืนสู้ต่อ ทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บ คมหอกดาบ ทั้งตีน ทั้งหมัด ลูกธนู มารอบด้าน ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะเจ็บน่าดูเลยนะครับ
พอมนุษย์พัฒนาดินปืนมาได้ จนสร้างอาวุธเป็นปืน ผมคิดว่าคมกระสุนที่ยิง น่าจะเจ็บน้อยกว่า รบพุ่งสมัยก่อนนะครับ
ผมไม่เคยโดยยิงนะครับ แต่คนที่เคยโดนยิงบอกว่า พอกระสุนผ่านร่างจนเป็นรู ตัวก็จะรู้ศึกเริ่มชา ตัวเย็น ถ้าโดนเข้ากะบานอาจจะตายโดยไม่รู้สึกเจ็บเลยก็ได้
ยิ่งช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พลทหารลาบ กองพลเขาจะจำหน่ายมอฟิน ติดตัวไว้ให้ ในยามที่โดนยิง หรือโดนสเก็ดระเบิด เขาก็จะฉีดระงับความเจ็บปวดได้
แต่ถ้าเป็นยุคสมัยรับพุ่งแบบโบราณ ไม่มีมอฟิน ฟันแขน ขาขาด แทงใส้ไหล ดาบบาดปาดเถือยเนื้อ คือ เจ็บทรมานมากเลยนะครับ
ผมอยากรู้จริงๆ ว่า นักรบสมัยรบพุ่งฟันกัน เขาต้องมีจิตใจหาญกล้าขนาดไหน
ขนาดปัจจุบัน เราจะเข้าชาร์จใส่ คนคลั่งยาถือมีดคนเดียว เรายังต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมากพร้อมอุปกรณ์
แต่ในสนามรบพุ่งสมัยก่อน คือ วิ่งตะลุมบอนท่ามกลางดง หอก ดาบ รอบตัวแบบชุลมุน
ผมว่าการรบพุ่งสมัยโบราณ เอาจริงๆ นะครับ ถ้าเราไปอยู่ตรงนั้นน่ากลัวเอาเรื่องเหมือนกัน มันอาจไม่ได้สนุกเหมือนในหนัง
เพื่อนคิดเห็นอย่างไร?