JAS ดีดแรงกว่า 25% แต่เช้ารับประเด็นจ่อซื้อหุ้นคืน 5 บาท แถมเล็งแจก JAS-W4
เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1123179#google_vignette
ราคาหุ้น "จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล" คึกคักหลังมติบอร์ดประกาศหุ้นคืนเพื่อการบริหารการเงิน 1,504 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 5 บาทต่อหุ้นระหว่าง 25 มิถุนายน 2567 ถึง 23 กรกฎาคม 2567 พร้อมเล็งออก JAS-W4 ไม่เกิน 4,146 ล้านหน่วย จัดสรรตามสิทธิ 2:1 ภายใต้เงื่อนไข
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ JAS โดยเช้าวันนี้ (22 เม.ย. 2567) ปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เปิดตลาดโดยทำราคาสูงสุดถึง 3.60 บาทต่อหุ้น บวก 0.74 บาท คิดเป็น 25.87% จากวันทำการก่อนหน้า (ข้อมูล ณ เวลา 10.30 น.) หลังจากเพิ่งประกาศมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เรื่องการเตรียมซื้อหุ้นคืน และแผนการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ JAS-W4
ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2567 ของ บริษัทฯ ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ได้พิจารณาและอนุมัติในเรื่องสําคัญ ดังนี้
1. อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงินโดยการเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป ไม่เกิน 1,504 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 5 บาทต่อหุ้น โดยจะเป็นราคาเดียวและรับซื้อในจํานวนไม่เกิน 300,748,563 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 3.50 ของหุ้นสามัญที่จําหน่ายแล้วของบริษัทฯ ณ ปัจจุบัน (“โครงการซื้อหุ้นคืนแบบ GO”)
ทั้งนี้ เพื่อการบริหารทางการเงิน โดยการใช้เงินสดคงเหลือจากธุรกรรมการขายทรัพย์สินในเดือนพฤศจิกายน 2566และการจ่ายปันผลระหว่างกาล (พิเศษ) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2566โดยโครงการซื้อหุ้นคืนแบบ GO จะเปิดให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ แสดงเจตนาขายหุ้นคืนให้กับบริษัทฯ ในระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2567
2. อนุมัติหลักการในการออกและเสนอขายใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ JAS (JAS-W4) แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จํานวนไม่เกิน 4,146,033,754 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า (“ใบส าคัญแสดงสิทธิฯ JAS-W4”) โดยให้เป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ด้วยอัตราส่วนการจัดสรรที่หุ้นสามัญเดิม (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท) จํานวน 2 หุ้นต่อ 1 หน่วยใบสําคัญแสดงสิทธิฯ JAS-W4 (2:1) โดยบริษัทฯ จะไม่จัดสรรใบสําคัญแสดงสิทธิฯ JAS-W4 ให้หุ้นที่บริษัทฯ ได้ซื้อคืน
ทั้งนี้ ใบสําคัญแสดงสิทธิฯ JAS-W4 จํานวนไม่เกิน 4,146,033,754 หน่วยที่กล่าวข้างต้นนั้น เป็นจํานวนที่คาดว่าจะออกบนสมมติฐานที่ว่าโครงการซื้อหุ้นคืนแบบ GO สามารถซื้อคืนได้เต็มจํานวน คือ300,748,563 หุ้น ซึ่งจะทําให้จํานวนหุ้นที่ชําระแล้วของบริษัทฯ ที่ไม่นับจํานวนหุ้นที่ซื้อคืนจะคงเหลือ 8,292,067,508 หุ้น (จํานวนหุ้นที่ชําระแล้ว ณ ปัจจุบัน 8,592,816,071 –จํานวนหุ้นที่มีแผนการจะซื้อคืน300,748,563 หุ้น)
ส่องธุรกิจ JAS เหลืออะไรบ้าง?
https://thunhoon.com/article/292055
ราคาหุ้น JAS วิ่งขึ้นมาอย่างแรงเมื่อ คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน โดยการเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไปไม่เกิน 1,504 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 5 บาท ด้วยราคาสูงกว่ากระดานค่อนข้างมาก โดยเป็นราคาเดียวและรับซื้อในจำนวนไม่เกิน 300,748,563 หุ้น หรือ 3.50% ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วของบริษัท ณ ปัจจุบัน (โครงการซื้อหุ้นคืนแบบ GO)
ซึ่งจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นของบริษัท แสดงเจตนาขายหุ้นให้กับบริษัทในระหว่างวันที่ 25 มิ.ย. 2567 ถึงวันที่ 23 ก.ค. 2567
แม้โครงการซื้อหุ้นคืนนี้จะได้ราคาสูงกว่ากระดานค่อนข้างมากคือ 5 บาท แต่จำนวนการรับซื้อคืนค่อนข้างน้อย โดยเงื่อนไขการรับซื้อเมื่อมีผู้ขายสูงกว่าจำนวนรับซื้อคืนก็คือ "การนำจำนวนหุ้นที่บริษัทมีเจตนาที่จะซื้อคืนคือ 300 ล้านหุ้น มาหารกับจำนวนหุ้นเสนอขาย"
กล่าวคือ หากมีผู้เสนอขายทั้งหมด 8,592.82 ล้านหุ้น ก็เท่ากับว่า หุ้นที่สามารถขายราคา 5 บาท จะมีนิดเดียวแค่ 3.5% ว่ากันง่าย คือ 100 หุ้น ขายคืนบริษัทได้เพียง 3.5 หุ้นเท่านั้น
ท่ามกลางคำถามบริษัทเห็นอะไรทำไมจึงส่งสัญญาณราคาหุ้นที่ 5 บาท จากการควักเงินซื้อหุ้นคืน 1.5 พันล้านบาท ในเมื่อที่ผ่านมาบริษัทได้มีการขายหุ้น 3BB ซึ้งเป็นธุรกิจหลักออกไปแล้ว
@เหลือธุรกิจอะไรบ้าง
หากสำรวจธุรกิจหลังจากการขาย 3BB ปัจจุบันจะพบว่า JAS ดำเนินธุรกิจ 1.กลุ่มธุรกิจอินเทอร์เน็ต ทีวี ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท ทรี บีบี ทีวี จำกัด ซึ่งจะยังคงให้บริการแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต ทีวี แก่ทั้งลูกค้าของ 3BB จำนวนกว่า 700,000 ราย ภายใต้ชื่อบริการ 3BB GIGATV ซึ่งยังคงให้บริการอย่างต่อเนื่อง และจะเพิ่มการให้บริการครอบคลุมถึงกลุ่มลูกค้า AIS ตามแผนความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่มบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และมี บริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ซึ่งดำเนินการจัดหา และรวบรวมคอนเทนต์ ให้แก่ 3BB GIGATV
2.กลุ่มธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และเทคโนโลยีโซลูชั่น ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจที่ดำเนินการโดย บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ดำเนินธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ และยังลงทุนทำโซลาร์ฟาร์ม เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า รวมถึง บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด จะดำเนินการขยายธุรกิจด้านการเชื่อมต่อ และศูนย์ข้อมูล (Data Center)
3.กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ประกอบด้วยธุรกิจที่ดำเนินการโดย บริษัท พรีเมียม แอสเซท จำกัด (PA) ดำเนินธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารสูง 31 ชั้น ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีอย่างถนนแจ้งวัฒนะ มีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่านหน้าอาคาร ให้เช่าพื้นที่สำนักงาน ศูนย์ data center และนำเสนอบริการต่าง ๆ ทั้ง ห้องจัดประชุมสัมมนาศูนย์อาหาร และห้องฝึกอบรม โดย PA มีแผนดำเนินการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในอาคาร จัสมิน เพื่อให้อาคารฯ เป็น "Smart Hub" ของกลุ่ม JAS และเพื่อรองรับ สตาร์ทอัพ รวมถึง บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนต จำกัด ซึ่งจะขยายธุรกิจให้บริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตต่างๆ แก่ลูกค้าองค์กร และให้บริการด้านการจัดการเครือข่าย บริการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และบริการเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจรภายใต้แบรนด์ "Ji-NET"
ทั้งนี้หากตรวจสอบงบการเงินจะพบว่าธุรกิจที่เหลืออยู่ขณะนี้สร้างรายได้ในปีที่ผ่านมาให้กับ JAS ราวกว่า 2 พันล้านบาท เท่านั้น
@ เดินหน้า AI
นายโสรัชย์ อัศวะประภา ประธานกรรมการและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS ระบุในรายงานประจำปีว่า ปี 2567 กลุ่มบริษัทได้ปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี ดังนี้ 1. ธุรกิจสื่อและแพลตฟอร์มให้ความบันเทิง ให้บริการอินเทอร์เน็ตทีวีภายใต้แบรนด์ 3BB GIGATV และพัฒนาแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตทีวีร่วมกับเครือข่ายชั้นนำของประเทศให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่
2. ธุรกิจดูแลและบริหารจัดการทรัพย์สิน ให้บริการและพัฒนาสำนักงานเช่า พื้นที่ทำงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เพื่อตอบโจทย์ความเป็นออฟฟิศอัจฉริยะหรือ Smart Building และตอบสนองความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย
3. ธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้บริการและส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และธุรกิจพลังงานสะอาดนอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจการลงทุนในเทคโนโลบล็อกเชน บริษัทย่อย ตราสารทุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์AI ฯลฯ ธุรกิจโทรคมนาคม เช่น โครงข่ายและอินเทอร์เน็ตภายในประเทศและระหว่างประเทศ และพื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย และธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์
นายโสรัชย์ ระบุด้วยว่า ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ มีความพร้อมที่มากขึ้นในการลงทุนด้านบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี จึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศไทยสู่ระดับสากล โดยมุ่งน้นการพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่างๆ เช่น AI โดยเฉพาะการลงทุนใน Generative AI ที่เชี่ยวชาญการใช้ภาษาไทย ไปพร้อมกับการพัฒนาธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ด้วยเป้าหมายการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาและยกระดับการทำธุรกิจของลูกค้าองค์กรภายในประเทศ และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น
JAS ดีดแรงกว่า 25% จ่อซื้อหุ้นคืน 5 บาท แถมเล็งแจก JAS-W4 / ส่องธุรกิจ JAS เหลืออะไรบ้าง?
เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1123179#google_vignette
ราคาหุ้น "จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล" คึกคักหลังมติบอร์ดประกาศหุ้นคืนเพื่อการบริหารการเงิน 1,504 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 5 บาทต่อหุ้นระหว่าง 25 มิถุนายน 2567 ถึง 23 กรกฎาคม 2567 พร้อมเล็งออก JAS-W4 ไม่เกิน 4,146 ล้านหน่วย จัดสรรตามสิทธิ 2:1 ภายใต้เงื่อนไข
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ JAS โดยเช้าวันนี้ (22 เม.ย. 2567) ปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เปิดตลาดโดยทำราคาสูงสุดถึง 3.60 บาทต่อหุ้น บวก 0.74 บาท คิดเป็น 25.87% จากวันทำการก่อนหน้า (ข้อมูล ณ เวลา 10.30 น.) หลังจากเพิ่งประกาศมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เรื่องการเตรียมซื้อหุ้นคืน และแผนการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ JAS-W4
ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2567 ของ บริษัทฯ ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ได้พิจารณาและอนุมัติในเรื่องสําคัญ ดังนี้
1. อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงินโดยการเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป ไม่เกิน 1,504 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 5 บาทต่อหุ้น โดยจะเป็นราคาเดียวและรับซื้อในจํานวนไม่เกิน 300,748,563 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 3.50 ของหุ้นสามัญที่จําหน่ายแล้วของบริษัทฯ ณ ปัจจุบัน (“โครงการซื้อหุ้นคืนแบบ GO”)
ทั้งนี้ เพื่อการบริหารทางการเงิน โดยการใช้เงินสดคงเหลือจากธุรกรรมการขายทรัพย์สินในเดือนพฤศจิกายน 2566และการจ่ายปันผลระหว่างกาล (พิเศษ) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2566โดยโครงการซื้อหุ้นคืนแบบ GO จะเปิดให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ แสดงเจตนาขายหุ้นคืนให้กับบริษัทฯ ในระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2567
2. อนุมัติหลักการในการออกและเสนอขายใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ JAS (JAS-W4) แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จํานวนไม่เกิน 4,146,033,754 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า (“ใบส าคัญแสดงสิทธิฯ JAS-W4”) โดยให้เป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ด้วยอัตราส่วนการจัดสรรที่หุ้นสามัญเดิม (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท) จํานวน 2 หุ้นต่อ 1 หน่วยใบสําคัญแสดงสิทธิฯ JAS-W4 (2:1) โดยบริษัทฯ จะไม่จัดสรรใบสําคัญแสดงสิทธิฯ JAS-W4 ให้หุ้นที่บริษัทฯ ได้ซื้อคืน
ทั้งนี้ ใบสําคัญแสดงสิทธิฯ JAS-W4 จํานวนไม่เกิน 4,146,033,754 หน่วยที่กล่าวข้างต้นนั้น เป็นจํานวนที่คาดว่าจะออกบนสมมติฐานที่ว่าโครงการซื้อหุ้นคืนแบบ GO สามารถซื้อคืนได้เต็มจํานวน คือ300,748,563 หุ้น ซึ่งจะทําให้จํานวนหุ้นที่ชําระแล้วของบริษัทฯ ที่ไม่นับจํานวนหุ้นที่ซื้อคืนจะคงเหลือ 8,292,067,508 หุ้น (จํานวนหุ้นที่ชําระแล้ว ณ ปัจจุบัน 8,592,816,071 –จํานวนหุ้นที่มีแผนการจะซื้อคืน300,748,563 หุ้น)
ส่องธุรกิจ JAS เหลืออะไรบ้าง?
https://thunhoon.com/article/292055
ราคาหุ้น JAS วิ่งขึ้นมาอย่างแรงเมื่อ คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน โดยการเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไปไม่เกิน 1,504 ล้านบาท ในราคาหุ้นละ 5 บาท ด้วยราคาสูงกว่ากระดานค่อนข้างมาก โดยเป็นราคาเดียวและรับซื้อในจำนวนไม่เกิน 300,748,563 หุ้น หรือ 3.50% ของหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วของบริษัท ณ ปัจจุบัน (โครงการซื้อหุ้นคืนแบบ GO)
ซึ่งจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นของบริษัท แสดงเจตนาขายหุ้นให้กับบริษัทในระหว่างวันที่ 25 มิ.ย. 2567 ถึงวันที่ 23 ก.ค. 2567
แม้โครงการซื้อหุ้นคืนนี้จะได้ราคาสูงกว่ากระดานค่อนข้างมากคือ 5 บาท แต่จำนวนการรับซื้อคืนค่อนข้างน้อย โดยเงื่อนไขการรับซื้อเมื่อมีผู้ขายสูงกว่าจำนวนรับซื้อคืนก็คือ "การนำจำนวนหุ้นที่บริษัทมีเจตนาที่จะซื้อคืนคือ 300 ล้านหุ้น มาหารกับจำนวนหุ้นเสนอขาย"
กล่าวคือ หากมีผู้เสนอขายทั้งหมด 8,592.82 ล้านหุ้น ก็เท่ากับว่า หุ้นที่สามารถขายราคา 5 บาท จะมีนิดเดียวแค่ 3.5% ว่ากันง่าย คือ 100 หุ้น ขายคืนบริษัทได้เพียง 3.5 หุ้นเท่านั้น
ท่ามกลางคำถามบริษัทเห็นอะไรทำไมจึงส่งสัญญาณราคาหุ้นที่ 5 บาท จากการควักเงินซื้อหุ้นคืน 1.5 พันล้านบาท ในเมื่อที่ผ่านมาบริษัทได้มีการขายหุ้น 3BB ซึ้งเป็นธุรกิจหลักออกไปแล้ว
@เหลือธุรกิจอะไรบ้าง
หากสำรวจธุรกิจหลังจากการขาย 3BB ปัจจุบันจะพบว่า JAS ดำเนินธุรกิจ 1.กลุ่มธุรกิจอินเทอร์เน็ต ทีวี ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท ทรี บีบี ทีวี จำกัด ซึ่งจะยังคงให้บริการแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต ทีวี แก่ทั้งลูกค้าของ 3BB จำนวนกว่า 700,000 ราย ภายใต้ชื่อบริการ 3BB GIGATV ซึ่งยังคงให้บริการอย่างต่อเนื่อง และจะเพิ่มการให้บริการครอบคลุมถึงกลุ่มลูกค้า AIS ตามแผนความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่มบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และมี บริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ซึ่งดำเนินการจัดหา และรวบรวมคอนเทนต์ ให้แก่ 3BB GIGATV
2.กลุ่มธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และเทคโนโลยีโซลูชั่น ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจที่ดำเนินการโดย บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ดำเนินธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ และยังลงทุนทำโซลาร์ฟาร์ม เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า รวมถึง บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด จะดำเนินการขยายธุรกิจด้านการเชื่อมต่อ และศูนย์ข้อมูล (Data Center)
3.กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ประกอบด้วยธุรกิจที่ดำเนินการโดย บริษัท พรีเมียม แอสเซท จำกัด (PA) ดำเนินธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นอาคารสูง 31 ชั้น ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีอย่างถนนแจ้งวัฒนะ มีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่านหน้าอาคาร ให้เช่าพื้นที่สำนักงาน ศูนย์ data center และนำเสนอบริการต่าง ๆ ทั้ง ห้องจัดประชุมสัมมนาศูนย์อาหาร และห้องฝึกอบรม โดย PA มีแผนดำเนินการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในอาคาร จัสมิน เพื่อให้อาคารฯ เป็น "Smart Hub" ของกลุ่ม JAS และเพื่อรองรับ สตาร์ทอัพ รวมถึง บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนต จำกัด ซึ่งจะขยายธุรกิจให้บริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตต่างๆ แก่ลูกค้าองค์กร และให้บริการด้านการจัดการเครือข่าย บริการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และบริการเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจรภายใต้แบรนด์ "Ji-NET"
ทั้งนี้หากตรวจสอบงบการเงินจะพบว่าธุรกิจที่เหลืออยู่ขณะนี้สร้างรายได้ในปีที่ผ่านมาให้กับ JAS ราวกว่า 2 พันล้านบาท เท่านั้น
@ เดินหน้า AI
นายโสรัชย์ อัศวะประภา ประธานกรรมการและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS ระบุในรายงานประจำปีว่า ปี 2567 กลุ่มบริษัทได้ปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี ดังนี้ 1. ธุรกิจสื่อและแพลตฟอร์มให้ความบันเทิง ให้บริการอินเทอร์เน็ตทีวีภายใต้แบรนด์ 3BB GIGATV และพัฒนาแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตทีวีร่วมกับเครือข่ายชั้นนำของประเทศให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่
2. ธุรกิจดูแลและบริหารจัดการทรัพย์สิน ให้บริการและพัฒนาสำนักงานเช่า พื้นที่ทำงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เพื่อตอบโจทย์ความเป็นออฟฟิศอัจฉริยะหรือ Smart Building และตอบสนองความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย
3. ธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้บริการและส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และธุรกิจพลังงานสะอาดนอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจการลงทุนในเทคโนโลบล็อกเชน บริษัทย่อย ตราสารทุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์AI ฯลฯ ธุรกิจโทรคมนาคม เช่น โครงข่ายและอินเทอร์เน็ตภายในประเทศและระหว่างประเทศ และพื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย และธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์
นายโสรัชย์ ระบุด้วยว่า ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ มีความพร้อมที่มากขึ้นในการลงทุนด้านบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี จึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศไทยสู่ระดับสากล โดยมุ่งน้นการพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่างๆ เช่น AI โดยเฉพาะการลงทุนใน Generative AI ที่เชี่ยวชาญการใช้ภาษาไทย ไปพร้อมกับการพัฒนาธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ด้วยเป้าหมายการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาและยกระดับการทำธุรกิจของลูกค้าองค์กรภายในประเทศ และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น