กลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านกับกองกำลังฝ่ายรัฐบาลทหารเมียนมา ปะทะกันรอบใหม่ใกล้ชายแดนติดกับอำเภอแม่สอดของไทย และมีชาวบ้านนับพันคนอพยพเข้าหนีข้ามพรมแดนเข้ามา
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า การต่อสู้ในพื้นที่แนวหน้าฝั่งตะวันออกของประเทศเมียนมา บริเวณชายแดนซึ่งเชื่อมต่อกับประเทศไทย ปะทุขึ้นอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 20 เม.ย. 2567 ตามการเปิดเผยของผู้เห็นเหตุการณ์และรัฐบาลของไทย โดยมีชาวบ้านเกือบ 1,700 คน อพยพเข้าสู่ประเทศไทย ในขณะที่ฝ่ายกบฏพยายามขับไล่กองทัพรัฐบาลออกจากพื้นที่
นักรบฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารกับกลุ่มติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ยึดเมืองการค้าสำคัญอย่างเมียวดีได้สำเร็จเมื่อ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่รัฐบาลทหาร ซึงสูญเสียการควบคุมพื้นที่ในประเทศไปเรื่อยๆ นับตั้งแต่ก่อรัฐประหารเมื่อปี 2564
ผู้เห็นเหตุการณ์ใน 2 ฝากชายแดนเมียนมา-ไทย บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดและเสียงคล้ายปืนกลดังอย่างต่อเนื่อง ใกล้กับสะพานยุทธศาสตร์สำคัญ ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันศุกร์ จนถึงช่วงเช้าวันเสาร์
ขณะที่สื่อของไทยอย่าง NBT เปิดเผยผ่าน X ว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านใช่ปืนกลขนาด 40 มม.ในการโจมตี และทิ้งระเบิดจากโดรนกว่า 20 ลูก โดยมีเป้าหมายที่ทหารฝ่ายรัฐบาลราว 200 นาย ที่ยังไม่ยอมจำนน แต่ล่าถอยเพราะการโจมตีประสานของฝ่ายกบฏที่เมืองเมียวดี และค่ายทหารอีกหลายแห่งตั้งแต่ 5 เม.ย.
รอยเตอร์สระบุว่า พวกเขาไม่สามารถติดต่อรัฐบาลทหารเมียนมาเพื่อสอบถามความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย บอกกับสื่อว่า เขากำลังจับตาดูสถานการณ์ความไม่สงบนี้อย่างใกล้ชิด และประเทศของเขาพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหากจำเป็น
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของไทยเผยว่า มีประชาชนทั้งสิ้น 1,686 คน ข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อขอลี้ภัยชั่วคราวในพื้นที่อำเภอแม่สอด โดยหนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด และกว่าครึ่งของผู้อพยพเป็นเด็กกับคนชรา
นายกฯ เศรษฐาบอกด้วยว่า เขาได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์แล้ว และจะเดินทางเยือนพื้นที่ชายแดนในวันอังคารนี้ (23 เม.ย.) โดยเขาย้ำผ่าน X ว่า ไม่ต้องการเห็นการปะทะส่งผลกระทบต่อบุรณาภาพแห่งดินแดนของไทย และพวกเขาพร้อมปกป้องชายแดนกับความปลอดภัยของประชาชน
ส่วนนายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงต่างประเทศหวังว่า สถานการร์จะกลับเป็นปกติโดยเร็ว และได้แจ้งต่อสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทยแล้วว่า ให้กระทำการใดๆ ย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดอธิปไตยแห่งดินแดนและน่านฟ้าของไทย หรือกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน
Cr.
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2779773
สื่อนอกตีข่าว กบฏรุกหนักไล่บี้ทัพเมียนมา ชาวบ้านนับพันแห่หนีเข้าไทย
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า การต่อสู้ในพื้นที่แนวหน้าฝั่งตะวันออกของประเทศเมียนมา บริเวณชายแดนซึ่งเชื่อมต่อกับประเทศไทย ปะทุขึ้นอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 20 เม.ย. 2567 ตามการเปิดเผยของผู้เห็นเหตุการณ์และรัฐบาลของไทย โดยมีชาวบ้านเกือบ 1,700 คน อพยพเข้าสู่ประเทศไทย ในขณะที่ฝ่ายกบฏพยายามขับไล่กองทัพรัฐบาลออกจากพื้นที่
นักรบฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารกับกลุ่มติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ยึดเมืองการค้าสำคัญอย่างเมียวดีได้สำเร็จเมื่อ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่รัฐบาลทหาร ซึงสูญเสียการควบคุมพื้นที่ในประเทศไปเรื่อยๆ นับตั้งแต่ก่อรัฐประหารเมื่อปี 2564
ผู้เห็นเหตุการณ์ใน 2 ฝากชายแดนเมียนมา-ไทย บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดและเสียงคล้ายปืนกลดังอย่างต่อเนื่อง ใกล้กับสะพานยุทธศาสตร์สำคัญ ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันศุกร์ จนถึงช่วงเช้าวันเสาร์
ขณะที่สื่อของไทยอย่าง NBT เปิดเผยผ่าน X ว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านใช่ปืนกลขนาด 40 มม.ในการโจมตี และทิ้งระเบิดจากโดรนกว่า 20 ลูก โดยมีเป้าหมายที่ทหารฝ่ายรัฐบาลราว 200 นาย ที่ยังไม่ยอมจำนน แต่ล่าถอยเพราะการโจมตีประสานของฝ่ายกบฏที่เมืองเมียวดี และค่ายทหารอีกหลายแห่งตั้งแต่ 5 เม.ย.
รอยเตอร์สระบุว่า พวกเขาไม่สามารถติดต่อรัฐบาลทหารเมียนมาเพื่อสอบถามความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ แต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย บอกกับสื่อว่า เขากำลังจับตาดูสถานการณ์ความไม่สงบนี้อย่างใกล้ชิด และประเทศของเขาพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหากจำเป็น
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของไทยเผยว่า มีประชาชนทั้งสิ้น 1,686 คน ข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อขอลี้ภัยชั่วคราวในพื้นที่อำเภอแม่สอด โดยหนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด และกว่าครึ่งของผู้อพยพเป็นเด็กกับคนชรา
นายกฯ เศรษฐาบอกด้วยว่า เขาได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์แล้ว และจะเดินทางเยือนพื้นที่ชายแดนในวันอังคารนี้ (23 เม.ย.) โดยเขาย้ำผ่าน X ว่า ไม่ต้องการเห็นการปะทะส่งผลกระทบต่อบุรณาภาพแห่งดินแดนของไทย และพวกเขาพร้อมปกป้องชายแดนกับความปลอดภัยของประชาชน
ส่วนนายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงต่างประเทศหวังว่า สถานการร์จะกลับเป็นปกติโดยเร็ว และได้แจ้งต่อสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทยแล้วว่า ให้กระทำการใดๆ ย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดอธิปไตยแห่งดินแดนและน่านฟ้าของไทย หรือกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน
Cr. https://www.thairath.co.th/news/foreign/2779773