สวัสดีค่ะ ขอเริ่มเลยนะคะ
ตอนนี้ส่วนตัวทำงานอยู่ต่างประเทศ และสามีก็ทำงานอยู่ต่างประเทศเช่นกัน ซึ่งอยู่คนละประเทศ ไทม์โซนต่างกัน 1 ชม. แต่ปัญหาคือเราทำงานชิฟต์แบบสลับ คือ ทำ สี่ หยุดสี่ แต่สี่ที่ทำคือ เช้าสองวัน ดึกสองวัน วันละ 12 ชม. งานเครียดและยุ่งมาก กว่าจะได้คุยกับสามีแต่ละวันก็ตอนเลิกงานเลย แล้วก็ต้องรีบนอนเพื่อจะได้ตื่นทันและหลับให้เพียงพอสำหรับชิฟต์ถัดไป
ซึ่งเขาก็ทำงาน ทำสี่หยุดสี่เช่นกัน แต่จะเป็นเช้าติดกันเกือบทั้งเดือน แต่มีสัปดาห์เดียวที่ทำไนท์ ทำให้เขามีเวลาว่างเยอะกว่า เพราะเวลาเราเลิกไนท์วันสุดท้ายก็จะกินเวลาไปถึงเลิกงานหกโมงเช้าด้วย
ทีนี้เราคิดว่าเขาว่างมีเวลาว่างเยอะ บวกกับเครียดเรื่องงาน อยู่ตัวคนเดียว และน่าจะมีโฮมซิคด้วย เพราะเขาเพิ่งไปทำงานได้ไม่ถึงปี
ปกติเขาเป็นคนระแวง และติดแฟนมาก ทีนี้เวลาว่างเยอะกว่าก็ยิ่งเครียด เวลาวิดิโอคอลกับเขาทีไรก็รู้สึกว่าสีหน้าเขาเครียด ไม่ดีเลย เวลาเราไม่ว่างคุยด้วยก็ฉุนเฉียว ทะเลาะ มีปัญหากัน แต่พออธิบายเค้าก็บอกว่าเขาเครียด กดดัน ไม่มีความสุข อยากฆตต. เราก็บอกว่าไปหาหมอเถอะ เราห่วง ส่วนเรื่องค่ารักษาเราออกให้ เราห่วงจริงๆ
เขาก็บอกว่าไม่ สิ่งที่อยากได้คือมีเราดูแล มีเราอยู่ข้างๆ อยากได้เวลาจากเรา
ซึ่งตามความจริงมันไม่ได้ และถ้าจะบินไปหาเขาเราบินได้ แต่พอเขาอยู่ยุโรปมันก็เรื่องเยอะอีก วีซ่า เราอุธรณ์มาห้าเดือนแล้ว ยังไม่ตอบอะไรกลับมาเลย
ก็เลยอาศัยว่าเขาบินมาเรื่อยๆ แต่เขาก็บินมายากเพราะประเทศเขาเป็นเกาะ ต้องบินต่อกับประเทศอื่นแล้วบินมาที่ประเทศเราอยู่
อยากดูแลเขาได้มากกว่านี้ ก็เลยลองหาลองอ่านดูว่าดูแลกันได้ยังไง ส่วนมากก็มีแต่ อยู่ข้างๆ ให้กลจ. ทำนู่นนี่ด้วยกัน มันก็คงทำได้ผลดีถ้าอยู่ด้วยกัน แต่พอไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่รู้ทำยังไงเลย ไปไม่เป็น เขาไม่ยอมไปหาหมอด้วย
อยากได้ความคิดเห็นว่าจะดูแลกันยังไงถ้า ไม่ได้อยู่ด้วยกัน อยู่คนละประเทศ มีวีซ่าเป็นตัวกั้น และงานเราก็หนักมากเหมือนกันเวลาไม่ค่อยมีเลย
ดูแลคนรักที่ซึมเศร้าอย่างไร ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ตอนนี้ส่วนตัวทำงานอยู่ต่างประเทศ และสามีก็ทำงานอยู่ต่างประเทศเช่นกัน ซึ่งอยู่คนละประเทศ ไทม์โซนต่างกัน 1 ชม. แต่ปัญหาคือเราทำงานชิฟต์แบบสลับ คือ ทำ สี่ หยุดสี่ แต่สี่ที่ทำคือ เช้าสองวัน ดึกสองวัน วันละ 12 ชม. งานเครียดและยุ่งมาก กว่าจะได้คุยกับสามีแต่ละวันก็ตอนเลิกงานเลย แล้วก็ต้องรีบนอนเพื่อจะได้ตื่นทันและหลับให้เพียงพอสำหรับชิฟต์ถัดไป
ซึ่งเขาก็ทำงาน ทำสี่หยุดสี่เช่นกัน แต่จะเป็นเช้าติดกันเกือบทั้งเดือน แต่มีสัปดาห์เดียวที่ทำไนท์ ทำให้เขามีเวลาว่างเยอะกว่า เพราะเวลาเราเลิกไนท์วันสุดท้ายก็จะกินเวลาไปถึงเลิกงานหกโมงเช้าด้วย
ทีนี้เราคิดว่าเขาว่างมีเวลาว่างเยอะ บวกกับเครียดเรื่องงาน อยู่ตัวคนเดียว และน่าจะมีโฮมซิคด้วย เพราะเขาเพิ่งไปทำงานได้ไม่ถึงปี
ปกติเขาเป็นคนระแวง และติดแฟนมาก ทีนี้เวลาว่างเยอะกว่าก็ยิ่งเครียด เวลาวิดิโอคอลกับเขาทีไรก็รู้สึกว่าสีหน้าเขาเครียด ไม่ดีเลย เวลาเราไม่ว่างคุยด้วยก็ฉุนเฉียว ทะเลาะ มีปัญหากัน แต่พออธิบายเค้าก็บอกว่าเขาเครียด กดดัน ไม่มีความสุข อยากฆตต. เราก็บอกว่าไปหาหมอเถอะ เราห่วง ส่วนเรื่องค่ารักษาเราออกให้ เราห่วงจริงๆ
เขาก็บอกว่าไม่ สิ่งที่อยากได้คือมีเราดูแล มีเราอยู่ข้างๆ อยากได้เวลาจากเรา
ซึ่งตามความจริงมันไม่ได้ และถ้าจะบินไปหาเขาเราบินได้ แต่พอเขาอยู่ยุโรปมันก็เรื่องเยอะอีก วีซ่า เราอุธรณ์มาห้าเดือนแล้ว ยังไม่ตอบอะไรกลับมาเลย
ก็เลยอาศัยว่าเขาบินมาเรื่อยๆ แต่เขาก็บินมายากเพราะประเทศเขาเป็นเกาะ ต้องบินต่อกับประเทศอื่นแล้วบินมาที่ประเทศเราอยู่
อยากดูแลเขาได้มากกว่านี้ ก็เลยลองหาลองอ่านดูว่าดูแลกันได้ยังไง ส่วนมากก็มีแต่ อยู่ข้างๆ ให้กลจ. ทำนู่นนี่ด้วยกัน มันก็คงทำได้ผลดีถ้าอยู่ด้วยกัน แต่พอไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่รู้ทำยังไงเลย ไปไม่เป็น เขาไม่ยอมไปหาหมอด้วย
อยากได้ความคิดเห็นว่าจะดูแลกันยังไงถ้า ไม่ได้อยู่ด้วยกัน อยู่คนละประเทศ มีวีซ่าเป็นตัวกั้น และงานเราก็หนักมากเหมือนกันเวลาไม่ค่อยมีเลย