สวัสดีครับ ผมอยากสอบถามและหาวิธีที่จะทำยังไงก็ได้ให้เรื่องนี้มันไม่เกิดขึ้นหรือเบาลงกับเพื่อนบ้านหรือคู่กรณี
...เรื่องมีอยู่ว่า...
ปีที่แล้ว ช่วงเวลาผมไม่แน่ใจคือมันเกิดเรื่องขึ้นโดยที่บ้านผมคือคุณแม่แกโดนทำร้านร่างกายด้วยการชกเข้าที่ใบหน้า ซึ่งคู่กรณีคือเพื่อนบ้าน(คนในหมู่บ้าน) เรื่องเกิดจากช่วงเย็นวันนั้นพ่อกับแม่ผมได้ไปดื่มที่ร้านชำในหมู่บ้านเป็นการดื่มกับเพื่อนๆ เหมือนที่เคยเป็นหลังจากดื่มเสร็จก็จะกลับจากร้านมาบ้านระยะทางไม่ไกลมากครับก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาจนถึงแยกสี่แยกที่จะเข้าบ้าน พ่อเลยชรอรถเพื่อดูทางแล้วมีรถเก๋งคันนึงขี่เข้ามาพอดีรถคันนั้นได้เปิดกระจกไว้ แล้วเหมือนเห็นพ่อซึ่งจอดรถดูทางอยู่แล้วคนในรถก็ได้ตะโกนออกมาว่า #เอ้ย พอพ่อได้ยินพ่อก็เห็นว่าเป็นใครเลยขี่รถตาม ปรากฎว่าเป็นหลานของเจ้าของร้านชำที่ไปดื่มมา #ผมขออธิบายลักษณะร้านกับบ้านของคู่กรณีก่อนนะครับ คือมันจะอยู่ข้างๆ กันเลยระหว่างร้านชำกับเพื่อนคู่กรณี โอเค พอพ่อขี่ตามไปมันก็เลี้ยวรถเข้าบ้านพ่อเลยจอดมอเตอร์ไซค์ไว้หน้าร้านชำแล้วเดินไป แล้วถามมันว่า ให้ใคร เมื่อกี้ให้ใคร แล้วมันก็ลงรถมา แล้วมันก็พูดว่า ถ้าแน่จริงก็มาต่อยกับกูนี้ ซึ่งคนที่พูดอายุรุ่นลูกของพ่อผมเลย พอสักพักทางฝ่ายพ่อ แม่ น้องสาวของคนที่พูดก็เดินมา ช่วงนั้นค่อนข้างชุลมุนมาก ด่ากันไปด่ากันมา จนทำให้เกิดการชกต่อยกันขึ้น โดยตอนแรก คนฝ่ายพ่อของทางนั้นจะเข้ามาต่อยพ่อผม แล้วแม่ก็เป็นคนไปห้ามคือผลักออกจังหงะนั้นคือทางคู่กรณีก็รุมเข้ามาทั้งบ้าน พ่อแม่ลูกสี่คน แต่แม่ผมกันพ่อไว้เลยโดนเข้าที่ปาก ตา ตามใบหน้า เป็นจุดเขียวซ้ำ จนตกเย็นมา ตอนแรกว่าจะไม่อะไรคิดว่ามันคงจบแต่คิดไปคิดมา เราจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้เลยพาที่บ้านไปแจ้งความ ก็ได้บันทึกเอาความแต่ตอนฟ้องเราฟ้องแค่พ่อฝ่ายนั้นคนเดียวนะ
..........จนมาถึงวันขึ้นศาลคือคู่กรณีทำตัวหน้าสงสารมาก ทำเหมือนตัวเองไม่ใช่คนผิด ตอนอยู่หน้าบัลลังก์ก็ได้พูดคุยกัน แต่ศาลแยกให้ปากคำนะครับเพราะทางนั้นพูดไม่รู้เรื่อง เดียวก็วนไปเรื่องปล่อยน้ำลงนา เดียวก็วนเรื่องกินเขตกู (ซึ่งบ้านที่ผมปลูกสร้างมันอยู่ติดกับที่นาเขานะครับ) ก็พูดไปจนศาลสรุปแต่กว่าจะสรุปได้ก็เหนื่อยเพราะพูดไม่รู้เรื่องเลย ศาลเลยให้จ่ายค่าสินไหมทดแทน 1000 บาท ทางผมไม่ได้เรียกไปนะครับ ตามเห็นสมควร มันก็เหมือนจะไม่ยอมพูดไปเรื่องเดิมเรื่องนาเรื่องเขตอีก แล้วก็ไม่พอใจเหมือนเสียหน้ามากกับเงิน1000พอออกมาทางเมียเดินมาบอกว่า ไม่อยากให้ไปพูดที่ไหน อยากให้มันจบแค่ตรงนี้ ผมละปวดหัว ส่วนตัวลูกชายกับลูกสาวนั่งนิ่งคือทำหน้าสงสารมาก จนมาถึงวันที่ตำรวจเรียกไปพบเหมือนจะปิดสำนวนหรืออะไรนี้แหละผมก็ไม่เข้าใจ ก็ไปกัน พอไปถึงก็มีเถียงกันบ้างแต่ที่ขำมากและปวดหัวมากคือมันไปทวงเงินคืนต่อหน้าตำรวจ ทวงจนแม่ผมสงสารเลยคืนให้มันไป แล้วมันก็จะเอาไปให้ตำรวจบอกบริจาค ตำรวจเลยบอกก็คุณอยากได้คุณก็เอาไปสิ มาให้ผมทำไม ผมไม่เอาหรอกเงินพวกนี้ คืออึ่งมาก กล้าทวงด้วย จริงๆ ตอนอยู่ต่อหน้าบัลลังก์มันก็พูดอยู่ว่ากูจะเอาเงินกูคืนอะไรประมาณนี้ แล้วพอหลังจากนั้น ลูกสาวมันก็ถือเงินเดินออกไป แล้วพูดว่า สะใจจังโว้ยย เงินพัน เงินพันเดียว ทุกคนคิดดูว่าบ้านนี้เขาเป็นอะไรมากไหม ดูไม่ค่อยปลอดภัย ดูเป็นมิจมาก พอหลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ
......โอเค หลังจากที่เล่าไปแล้ว ปัจจุบันหลังจากที่เกิดเรื่องนะครับ บ้านผมเลยได้ติดกล้องวงจร เผื่อเวลาไม่อยู่บ้านเนาะ แล้วทีนี้ คู่กรณีมันไม่จบ เอออออ มันไม่จบ ในทุกๆ เช้าคู่กรณีบ้านผมมันจะเอาวัวมาผูกไว้นา ซึ่งมันต้องผ่านบ้านผมอยู่อยู่แล้ว แล้วคือ มันกวนประสาทมาก มันรู้ว่าบ้านผมมีกล้อง มันก็จะมาเต้นยัวยุ เต้นให้เราสนใจ ยกก้นใส่แม่กับพ่อบ้าง ยืนเกาตูดบ้าง ทำท่าทำทางให้เราเห็นทุกวัน ต้องบอกว่าทุกวันนะครับ ตอนแรกผมไม่สนใจหรอก ไม่สนใจเลย แต่เรามีดูคนของเราเลย เรากลัวถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้น ผมเลยให้ที่บ้านอยากไปสนใจมัน อยากไปดูมัน อยากไปมองมัน ผมก็คิดว่ามันจะดีขึ้นครับ แต่หลังๆ ผมเริ่มกลัว กลัวจริงๆ ผมเลยกลับมาดูกล้อง เอออ มันทั้งเต้น คือมันจะมีบางออริยาบทที่กล้องมันจับภาพไม่ได้ครับ ที่จับภาพได้คือยืนเต้น ทำท่าทำทางกวนๆ ใส่ แล้วก็เวลามันขี่มอเตอร์ไซค์เอาวัวออกไป มันจะยืนบนมอเตอร์ไซค์แล้วก็เต้นหันก้นมาทางบ้านผม คือมันจะดูก่อนว่ามีคนอื่นไหม ถ้ามีจะไม่ทำ ถ้าไม่มีมันถึงทำ เอออออ น่ากลัวยุนะ ที่ผมเห็นกับตาแต่กล้องมันหันไปทางอื่นคือ มันยืนเยี่ยวแล้วหันมา บางทีก็ถอดกางเกงออกแล้วหันตูดใส่เรา เหมือนเย้ยเราครับ ผมเลยรู้สึกกลัวถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้นมากๆ เราพอจะมีวิธีไหมครับ ที่เป็นทางออกที่ดีได้
.....ขออภัยหากพิมพ์ผิดๆ ถูกๆ นะครับ.....
.....ผมมีน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ซึ่งเป็นห่วงตรงนี้มากๆ ผมควรทำยังไงดีครับ แจ้งความได้ไหม
เพื่อนบ้านหรือเวรกรรม
...เรื่องมีอยู่ว่า...
ปีที่แล้ว ช่วงเวลาผมไม่แน่ใจคือมันเกิดเรื่องขึ้นโดยที่บ้านผมคือคุณแม่แกโดนทำร้านร่างกายด้วยการชกเข้าที่ใบหน้า ซึ่งคู่กรณีคือเพื่อนบ้าน(คนในหมู่บ้าน) เรื่องเกิดจากช่วงเย็นวันนั้นพ่อกับแม่ผมได้ไปดื่มที่ร้านชำในหมู่บ้านเป็นการดื่มกับเพื่อนๆ เหมือนที่เคยเป็นหลังจากดื่มเสร็จก็จะกลับจากร้านมาบ้านระยะทางไม่ไกลมากครับก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาจนถึงแยกสี่แยกที่จะเข้าบ้าน พ่อเลยชรอรถเพื่อดูทางแล้วมีรถเก๋งคันนึงขี่เข้ามาพอดีรถคันนั้นได้เปิดกระจกไว้ แล้วเหมือนเห็นพ่อซึ่งจอดรถดูทางอยู่แล้วคนในรถก็ได้ตะโกนออกมาว่า #เอ้ย พอพ่อได้ยินพ่อก็เห็นว่าเป็นใครเลยขี่รถตาม ปรากฎว่าเป็นหลานของเจ้าของร้านชำที่ไปดื่มมา #ผมขออธิบายลักษณะร้านกับบ้านของคู่กรณีก่อนนะครับ คือมันจะอยู่ข้างๆ กันเลยระหว่างร้านชำกับเพื่อนคู่กรณี โอเค พอพ่อขี่ตามไปมันก็เลี้ยวรถเข้าบ้านพ่อเลยจอดมอเตอร์ไซค์ไว้หน้าร้านชำแล้วเดินไป แล้วถามมันว่า ให้ใคร เมื่อกี้ให้ใคร แล้วมันก็ลงรถมา แล้วมันก็พูดว่า ถ้าแน่จริงก็มาต่อยกับกูนี้ ซึ่งคนที่พูดอายุรุ่นลูกของพ่อผมเลย พอสักพักทางฝ่ายพ่อ แม่ น้องสาวของคนที่พูดก็เดินมา ช่วงนั้นค่อนข้างชุลมุนมาก ด่ากันไปด่ากันมา จนทำให้เกิดการชกต่อยกันขึ้น โดยตอนแรก คนฝ่ายพ่อของทางนั้นจะเข้ามาต่อยพ่อผม แล้วแม่ก็เป็นคนไปห้ามคือผลักออกจังหงะนั้นคือทางคู่กรณีก็รุมเข้ามาทั้งบ้าน พ่อแม่ลูกสี่คน แต่แม่ผมกันพ่อไว้เลยโดนเข้าที่ปาก ตา ตามใบหน้า เป็นจุดเขียวซ้ำ จนตกเย็นมา ตอนแรกว่าจะไม่อะไรคิดว่ามันคงจบแต่คิดไปคิดมา เราจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้เลยพาที่บ้านไปแจ้งความ ก็ได้บันทึกเอาความแต่ตอนฟ้องเราฟ้องแค่พ่อฝ่ายนั้นคนเดียวนะ
..........จนมาถึงวันขึ้นศาลคือคู่กรณีทำตัวหน้าสงสารมาก ทำเหมือนตัวเองไม่ใช่คนผิด ตอนอยู่หน้าบัลลังก์ก็ได้พูดคุยกัน แต่ศาลแยกให้ปากคำนะครับเพราะทางนั้นพูดไม่รู้เรื่อง เดียวก็วนไปเรื่องปล่อยน้ำลงนา เดียวก็วนเรื่องกินเขตกู (ซึ่งบ้านที่ผมปลูกสร้างมันอยู่ติดกับที่นาเขานะครับ) ก็พูดไปจนศาลสรุปแต่กว่าจะสรุปได้ก็เหนื่อยเพราะพูดไม่รู้เรื่องเลย ศาลเลยให้จ่ายค่าสินไหมทดแทน 1000 บาท ทางผมไม่ได้เรียกไปนะครับ ตามเห็นสมควร มันก็เหมือนจะไม่ยอมพูดไปเรื่องเดิมเรื่องนาเรื่องเขตอีก แล้วก็ไม่พอใจเหมือนเสียหน้ามากกับเงิน1000พอออกมาทางเมียเดินมาบอกว่า ไม่อยากให้ไปพูดที่ไหน อยากให้มันจบแค่ตรงนี้ ผมละปวดหัว ส่วนตัวลูกชายกับลูกสาวนั่งนิ่งคือทำหน้าสงสารมาก จนมาถึงวันที่ตำรวจเรียกไปพบเหมือนจะปิดสำนวนหรืออะไรนี้แหละผมก็ไม่เข้าใจ ก็ไปกัน พอไปถึงก็มีเถียงกันบ้างแต่ที่ขำมากและปวดหัวมากคือมันไปทวงเงินคืนต่อหน้าตำรวจ ทวงจนแม่ผมสงสารเลยคืนให้มันไป แล้วมันก็จะเอาไปให้ตำรวจบอกบริจาค ตำรวจเลยบอกก็คุณอยากได้คุณก็เอาไปสิ มาให้ผมทำไม ผมไม่เอาหรอกเงินพวกนี้ คืออึ่งมาก กล้าทวงด้วย จริงๆ ตอนอยู่ต่อหน้าบัลลังก์มันก็พูดอยู่ว่ากูจะเอาเงินกูคืนอะไรประมาณนี้ แล้วพอหลังจากนั้น ลูกสาวมันก็ถือเงินเดินออกไป แล้วพูดว่า สะใจจังโว้ยย เงินพัน เงินพันเดียว ทุกคนคิดดูว่าบ้านนี้เขาเป็นอะไรมากไหม ดูไม่ค่อยปลอดภัย ดูเป็นมิจมาก พอหลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ
......โอเค หลังจากที่เล่าไปแล้ว ปัจจุบันหลังจากที่เกิดเรื่องนะครับ บ้านผมเลยได้ติดกล้องวงจร เผื่อเวลาไม่อยู่บ้านเนาะ แล้วทีนี้ คู่กรณีมันไม่จบ เอออออ มันไม่จบ ในทุกๆ เช้าคู่กรณีบ้านผมมันจะเอาวัวมาผูกไว้นา ซึ่งมันต้องผ่านบ้านผมอยู่อยู่แล้ว แล้วคือ มันกวนประสาทมาก มันรู้ว่าบ้านผมมีกล้อง มันก็จะมาเต้นยัวยุ เต้นให้เราสนใจ ยกก้นใส่แม่กับพ่อบ้าง ยืนเกาตูดบ้าง ทำท่าทำทางให้เราเห็นทุกวัน ต้องบอกว่าทุกวันนะครับ ตอนแรกผมไม่สนใจหรอก ไม่สนใจเลย แต่เรามีดูคนของเราเลย เรากลัวถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้น ผมเลยให้ที่บ้านอยากไปสนใจมัน อยากไปดูมัน อยากไปมองมัน ผมก็คิดว่ามันจะดีขึ้นครับ แต่หลังๆ ผมเริ่มกลัว กลัวจริงๆ ผมเลยกลับมาดูกล้อง เอออ มันทั้งเต้น คือมันจะมีบางออริยาบทที่กล้องมันจับภาพไม่ได้ครับ ที่จับภาพได้คือยืนเต้น ทำท่าทำทางกวนๆ ใส่ แล้วก็เวลามันขี่มอเตอร์ไซค์เอาวัวออกไป มันจะยืนบนมอเตอร์ไซค์แล้วก็เต้นหันก้นมาทางบ้านผม คือมันจะดูก่อนว่ามีคนอื่นไหม ถ้ามีจะไม่ทำ ถ้าไม่มีมันถึงทำ เอออออ น่ากลัวยุนะ ที่ผมเห็นกับตาแต่กล้องมันหันไปทางอื่นคือ มันยืนเยี่ยวแล้วหันมา บางทีก็ถอดกางเกงออกแล้วหันตูดใส่เรา เหมือนเย้ยเราครับ ผมเลยรู้สึกกลัวถึงความอันตรายที่จะเกิดขึ้นมากๆ เราพอจะมีวิธีไหมครับ ที่เป็นทางออกที่ดีได้
.....ขออภัยหากพิมพ์ผิดๆ ถูกๆ นะครับ.....
.....ผมมีน้องสาวที่กำลังเรียนอยู่ซึ่งเป็นห่วงตรงนี้มากๆ ผมควรทำยังไงดีครับ แจ้งความได้ไหม