คบกับแฟนมา 6 ปีค่ะตั้งแต่มหาลัยจนทำงาน ปกติเรากับแฟนหารครึ่งกันทุกอย่าง เช่นเวลาไปทานข้าวหรือไปเที่ยว ซึ่งเราโอเคเพราะมองว่าตอนนั้นยังเด็กเราต่างขอเงินพ่อแม่อยู่ควรหารกัน พอมาถึงวัยทำงานก็ยังหารกันต่อซึ่งก็เหมือนความเคยชินไปแล้ว
แต่ตอนนี้วัยที่เริ่มคิดเรื่องแต่งงานเราก็ถามเขาเกี่ยวกับค่างานแต่งว่าจะทำอย่างไร เขาตอบกลับมาว่าออกกันคนละครึ่ง หลังแต่งงานเอาเงินเดือนแบ่งเงินมาใส่กองกลางไว้ใช้จ่ายและเผื่อมีลูกเป็นค่าเทอมและทุกอย่าง
จู่ๆเราก็เกิดคำถามกับตัวเองว่า เราควรไปต่อหรือไม่ดีการที่หารกันทุกอย่างแม้แต่ตอนที่เป็นสามีภรรยาทำให้เรารู้สึกเหมือนเพื่อนกันมากกว่าความรู้สึกว่าเป็นครอบครัว เราอยากได้สามีที่มีความเป็นผู้นำมากกว่านี้แต่มันก็ผูกพันธ์กันแล้วจากการที่อยู่ด้วยกันมาแทบไม่ทะเลาะกันเลย
ปล. ปกติแฟนจะเลี้ยงข้าวในวันเกิดและทั้งบ้านเราและบ้านแฟนฐานะปานกลางค่อนดี ญาติๆเราปกติฝ่ายชายออกค่าแต่งกันกันนะคะ
อยากถามว่า
เราเห็นแก่ตัวมั้ยที่เพิ่งมาคิดถึงอนาคตตอนนี้ที่อยากได้สามีที่ให้ความรู้สึกดูแลเราได้ เรากลัวว่าแต่งแล้วจะหย่าเพราะเหมือนคนเป็นเพื่อนกันมาแชร์บ้านกันอยู่มากกว่า แล้วถ้าเป็นคนอื่นจะตัดสินใจยังไงกันหรือมีประสบการณ์ยังไงกันบ้างคะ
ตอนเป็นแฟนหารครึ่ง ตอนแต่งงานยังหารครึ่งกันต่อมั้ย
แต่ตอนนี้วัยที่เริ่มคิดเรื่องแต่งงานเราก็ถามเขาเกี่ยวกับค่างานแต่งว่าจะทำอย่างไร เขาตอบกลับมาว่าออกกันคนละครึ่ง หลังแต่งงานเอาเงินเดือนแบ่งเงินมาใส่กองกลางไว้ใช้จ่ายและเผื่อมีลูกเป็นค่าเทอมและทุกอย่าง
จู่ๆเราก็เกิดคำถามกับตัวเองว่า เราควรไปต่อหรือไม่ดีการที่หารกันทุกอย่างแม้แต่ตอนที่เป็นสามีภรรยาทำให้เรารู้สึกเหมือนเพื่อนกันมากกว่าความรู้สึกว่าเป็นครอบครัว เราอยากได้สามีที่มีความเป็นผู้นำมากกว่านี้แต่มันก็ผูกพันธ์กันแล้วจากการที่อยู่ด้วยกันมาแทบไม่ทะเลาะกันเลย
ปล. ปกติแฟนจะเลี้ยงข้าวในวันเกิดและทั้งบ้านเราและบ้านแฟนฐานะปานกลางค่อนดี ญาติๆเราปกติฝ่ายชายออกค่าแต่งกันกันนะคะ
อยากถามว่า
เราเห็นแก่ตัวมั้ยที่เพิ่งมาคิดถึงอนาคตตอนนี้ที่อยากได้สามีที่ให้ความรู้สึกดูแลเราได้ เรากลัวว่าแต่งแล้วจะหย่าเพราะเหมือนคนเป็นเพื่อนกันมาแชร์บ้านกันอยู่มากกว่า แล้วถ้าเป็นคนอื่นจะตัดสินใจยังไงกันหรือมีประสบการณ์ยังไงกันบ้างคะ