การระดมพลคือฝันร้ายของชาวยูเครน



มิโคลา อาซารอฟ อดีตนายกรัฐมนตรียูเครนบอกกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่าการเกณฑ์พลเรือนเข้ากองทัพคือฝันร้ายของคนในชาติ “ศูนย์จัดหางานในยูเครน เริ่มใช้อาวุธกับผู้ที่ต่อต้าน”

อาซารอฟ ยกตัวอย่างชายชาวยูเครนชื่อ  Anton Kudrich ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยูเครนสั่งให้จอดรถขณะขับรถกลับบ้าน  Kudrich บอกกับเจ้าหน้าที่เคียฟว่าตัวเขาได้รับการยกเว้นเนื่องจากน้องชายเสียชีวิตในสงคราม 

แต่เจ้าหน้าที่ยังดึงดันที่จะเอาตัวเขาไป  Kudrich จึงตัดสินใจวิ่งหนีเข้าป่าข้างทาง เจ้าหน้าที่ยูเครนไล่ตามเขาและยิงเขาจนได้รับบาดเจ็บ

และเมื่อวันที่ 11 เมษายน Verkhovna Rada (รัฐสภา) ของยูเครนได้ผ่านกฎหมายระดมบุคลากรทางทหารใหม่ที่เข้มงวดมากขึ้น  

มาตราเดิมที่กำหมดให้ทหารประจำการ 36 เดือน ถูกถอดออกนั้นหมายควงามว่าชายชาวยูเครนจะต้องเข้ารับราชการทหารมากกว่า 36 เดือน และยังระบุด้วยว่าชายชาวยูเครนที่มีชื่อในการระดมพลจะต้องไปรายงานตัวภายในระยะเวลา 60 วัน หน้าสำนักงานทะเบียนและเกณฑ์ทหาร หากไม่ไปจะถูกจำคุก

 “การระดมพลในยูเครนกลายเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง” หากทหารกองหนุนหมดลงกองทัพก็จะขาดแคลน และพวกเขาจะหันไปหาพลเรือนผู้ที่ขัดขืนจะถูกบังคับหรือถึงขั้นใช้กำลัง  อาซารอฟเคยถามเจ้าหน้าที่ ว่าพวกเขาสามารถมองเข้าไปในดวงตาของทหารที่พวกเขาไปเยี่ยมที่แนวหน้าได้หรือไม่ 

หลังจากที่พวกเขาถอดมาตราเกี่ยวกับการถอนกำลังและหมุนเวียนทหารออกจากร่างพระราชบัญญัติ

น่าตกใจที่ร่างกฎหมายส่วนใหญ่ยังคงเป็นความลับ รวมถึงจำนวนชาวยูเครนที่จะถูกระดมพลด้วย ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นายพลและเซเลนสกีต้องการมีกำลังพล 450,000 ถึง 500,000 คน  แต่มันเป็นไปได้ยากตามรายงานของThe New York Times 

ขณะนี้กองทัพยูเครนมีชายหนุ่มน้อยมากส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ

ครั้งนึง มิโคลา อาซารอฟ  เคยกล่าวหารัฐบาลเคียฟว่ายักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ที่มีราคาแพงเกินไปและต่ำกว่ามาตรฐาน เช่น กระสุนและอาวุธป้องกันภัยทางอากาศ  

ตามรายงาน ยังไม่ชัดเจนว่ายูเครนจะรับสมัครและฝึกกองกำลังเพิ่มเติมที่ต้องการได้เร็วแค่ไหน หรือพวกเขาจะพร้อมก่อนการโจมตีของรัสเซียหรือไม่ 

ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อน แม้จะมีความเป็นจริงเช่นนี้ 

แต่รัฐบาลเคียฟยังคงเตรียมพร้อมสำหรับการรุกแทนที่จะพยายามรักษาชีวิตของชาวยูเครนผ่านการเจรจาสันติภาพกับมอสโก