เครื่อง N20,N26 คือ BMW มือสองที่คุณไม่ควรซื้อ ในปี 2024

กระทู้สนทนา
เครื่อง N20,N26 คือ BMW มือสองที่คุณไม่ควรซื้อ ในปี 2024
 
................................................................ข้ามได้สำหรับคนที่ต้องการเนื้อหาสาระ เลื่อนไปจนสุดเส้น.............................................
ผมเชื่อว่า ณ ปีนี้ หลายคนกำลังเล็ง BMW มือสองปีไม่เก่ามาก ราคาถูก ๆ ในตลาด และเชื่อว่า ตัวเลือกที่นิยมซื้อกันก็คงหนีไม่พ้น3 -5 series เพราะเป็นรถตลาด แต่ก่อนที่คุณจะตกลงทำสัญญาเป็นหนี้กับไฟแนนซ์ หรือถอนเงินสดก้อนนึงไปซื้อ อยากให้คุณได้รับรู้สักนิดว่า คนอื่น เขานอนอู่ทำอะไรไปบ้างครับ 
 
และแน่นอนผมเชื่อว่า เจ้าของรถที่ยังมี ยังครอบครอบ เคยครอบครองรุ่นเหล่านี้ ต้องมีคำค้านอยู่บ้าง เช่น ไม่เคยมีปัญหา ใช้ดี ซ่อมนิดหน่อย ซี่งแน่นอนผมก็ยินดีด้วย แต่นั่นไม่ใช่มุมมองที่ผมอยากจะแชร์ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรกับใครเลยนอกจากปลอบใจเจ้าของรถปัจจุบัน หรือ เตนท์รถที่กำลังถือมันไว้ในมือแล้วต้องดันเชียร์มันออกจากมือไปครับ ถ้ามันทำให้ขายไม่ได้ด้วยกระทุ้นี้ ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้  การเขียนกระทู้แบบนี้ ที่เป็นข้อมูล มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบกับความขัดแย้งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เชื่อเถิด ว่ามันจะขายได้ มีคนซื้อต่อไปเรื่อย ๆ ผมไม่ได้มาห้ามและไม่มีอำนาจจะห้ามคนทั้งประเทศให้เชื่อตามผมครับ
 
ข้อมูลเหล่านี้ได้จากลูกค้า ที่เป็นทั้งเจ้าของรถ และ อู่ซ่อม และ เพื่อนสนิทมิตรสหายที่รถมีปํญหาแล้วกันทั้งนั้น จากประเทศ ไทย อเมริกา เยอรมัน มาเลเซีย ประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ ไม่ได้คุยกันไม่รู้จัฃกกันอาจจะมีแปลกไปก็ได้ ยินดีรับฟังครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 
เครื่อง N20 N26เป็นเครื่องที่มีพบได้มากใน BMW F30 F10   สี่สูบแถวเรียง ขนาดเครื่องยนต์ 1997cc เทอร์โบชาร์จ ฉีดน้ำมันตรงเข้าห้องเผาไหม้ เครื่องยนต์ทั้งสองหากมองเผิน ๆ เหมือนกันทุกประการครับ มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยที่กล่องท่อไอดีของ N26 จะมีข้อต่อท่อลมเล็ก ๆ เพิ่มมาเป็นท่อสุญญากาศ และ ข้อต่อท่อไอเสียชอง N26 จะเป็นแบบบอล บานหัวเข้าท่อท้าย
N26 จะผ่านมาตรฐานไอเสีย SULEV ในขณะที่ N20 ULEV และด้วยมาตรฐานไอเสียนี้ทำให้แรงม้า/แรงบิด N26 ด้อยกว่าหลัง 5500รอบไปแล้ว
ข้อมูลทางเทคนิกอื่น ๆ กรุณาgoogle เอานะครับ 
 
ปัญหารุนแรงอันดับ 1 ที่ทำให้เจ้าของต้องยกเครื่องลงซ่อม ก็คงหนีไม่พ้น โซ่และรางโซ่ ใครที่หนีมาจาก N42 N47  ก็คงจะบอกได้คำเดียวกว่า เหมือนเดิมครับ เพราะกลุ่มพัฒนาเครื่องรุ่นนี้ ยังเป็นคนกลุ่มเดิม ๆสืบทอดในแผนกกันต่อ ๆ มา โซ่ยืด รางแตก ตัวนำร่องแตก แตกได้ขนาดไหน ? 

จากของที่เดิมมีอยู่เท่านี้

กลายเป็นแบบนี้


ถ้าแตกขนาดหนัก โซ๋ข้ามร่องเวลา (ไทม์มิ่ง) 555 คุณจะได้พารถขึ้นยานแม่ไปอู่ พร้อมกำเงินเบา ๆ สุดก็ 4-5 หมื่น เตรียมซ่อมสูบ วาวล์ ก้าน หรืออะไรก็ตามที่กระทบกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ เผื่อเวลาให้ปรับแก้ประกอบ ลองวิ่ง 7-30 วันแล้วแต่ความชอบครับ ของแบบนี้ถอดแล้ว เสียแล้ว กลับคืนเดิมยากมาก

ปัญหาอื่น ๆ ที่พบได้อีก เช่น ปั๊มน้ำไฟฟ้าเสียแบบไม่บอกใครมาก่อน ไม่มีอาการ จู่ ๆเครื่องร้อนจัด ความร้อนพุ่งทันที นี่แหละครับ ปั๊มน้ำเสีย


ตัวนี้เปลี่ยนไม่นาน วันเดียวก็เสร็จได้ แต่ถ้าปล่อยน้ำหายหมด เครื่องโก่ง ก็ต้องว่าไปตามน้ำครับ

ต่อจากปั๊มน้ำก็ปั๊มลม รถรุ่นใหม่ๆ เปิดลิ้นปีผี้เสื้อค้างเพราะปรับอากาศเข้าออกที่วาวล์ไอดี ก็เลยทำให้ต้องใส่ชุดปั๊มสุญญากาศช่วยหม้อลมเบรค ถึงตัวปั๊มไม่เสีย แต่มท่อหัก ข้อต่อหักมีเปลี่ยน ซีลมีขาย แต่คนที่ใช้ไม่สังเกต ข้อต่ออันน้อยนิดที่หักเพราะไปโดนมัน ไม่ว่าจะเช็ดล้าง ช่างทำหัก ก็เกิดขึ้นได้  



อ่างเครื่องพลาสติก  อ่างน้ำมันเครื่องที่ตั้งใจจะให้ลดน้ำหนักเครื่องสกรูถ่ายน้ำมันเป็นพลาสติก ตัวสกรูไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ที่พังง่ายก็คือเกลียว ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนยกอ่าง

หัวฉีด ปั๊มแรงดันสูง ท่ออินเตอร์ เทอร์โบ และปัญหาอีกมากมายเล็กๆน้อย มีโอกาสวนเวียนมาเกิดขึ้นซ้ำได้เสมอ

หลายท่านอาจจะรู้สึกว่าที่เขียนมานี่ ปรกติ รถมันก็มีเสื่อมกันได้ แต่ถ้าผมจะบอกว่า มันเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ยังไม่แสนโลล่ะ? ตอนไหนก็ไม่รู้ การใช้งานที่ต่างไป การดูแลที่ต่างไป ทำให้อายุการใช้งานไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่มีสักเคสที่จะวิ่งได้ยาวไปไร้ปัญหาครับ 

...

ใครคิดว่าดี ใช้ ก็ไม่มีอะไรครับ เชิญครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่