จากประสบการณ์การจองตั๋วด้วยตัวเอง หลายๆครั้งที่ผ่านมา  ไม่ว่าจะจองผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือ App ในมือถือ ล้วนแล้ว แต่เจอปัญหาการลักลั่นเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น  ( "ลักลั่น" เป็นภาษาใต้ ใช้กับอาการที่เกิดการแบบผิดพลาดแบบคาดไม่ถึง  สันนิษฐานว่า แรกเริ่มเดิมทีน่าจะเกิดจากเรื่องราวของทหาร   โดยเกิดจากเหตุการณ์ ที่ทหารปลดลูกกระสุนปืนออกจากรังเพลิงในแม็กกาซีน และในกระบอกปืนออกหมดแล้ว  แต่ภายหลังเมื่อมีการกดไกปืน ปืนยังลั่นได้อยู่  เนื่องจากอาจมีลูกกระสุนค้างอยู่ในระบบ ที่ตรวจสอบไม่พบ หรือมองไม่เห็น  จึงเป็นที่มาของคำว่า "ลักลั่น"  ซึ่งก็หมายถึง การเกิดความผิดพลาดแบบคาดไม่ถึง หรือเป็นความผิดพลาด เหนือความคาดหมายนั่นเอง)  ซึ่งในปัจจุบันมักพบได้ในระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีการ ERROR ของระบบที่อาจเกิดขึ้นได้ และพบเห็นอยู่เป็นประจำ ขนาดเครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ที่มีมูลค่า หลายล้านบาท ซึ่งเขารับรองว่า มีโอกาสผิดพลาดน้อยมาก  ความผิดพลาดแทบเป็น 0%  แต่เราก็พบเห็นความผิดพลาดอยู่บ่อยๆ เหมือนที่เราเคยเจอกันมาในชีวิตประจำวัน ในหลายๆเหตุการณืที่ผ่านมา 
            ดังนั้น จึงอยากฝากเตือนทุกท่าน ไม่ว่าท่าน จะจองผ่าน Agency รายใดก็ตาม หรือบางท่านจองตั๋วด้วยตนเองด้วยความมั่นใจอย่างยิ่งว่าไม่ผิดพลาดแน่ แต่ก็สามารถผิดพลาดได้ เนื่องจากเกิดการลักลั่น หรือ Error จากระบบนั่นเอง   จึงขอให้ตรวจสอบตั๋วโดยสารอีกครั้ง หลังจากการจองเสร็จสมบูรณ์  เพราะไม่งั้น หากท่านมาดูภายหลัง เมื่อถึงวันเดินทาง หรือใกล้ถึงวันเดินทาง อาจแก้ไขไม่ทัน   เหมือนผมที่จองด้วยตนเอง ผ่าน  App Agoda ซึ่งเป็น App ชื่อดังในการจองตั๋วทั่วโลก ก็ยังผิดพลาดแบบเหนือความคาดหมายได้ หรือที่เรียกว่าลักลั่นได้    โดยผมจองตั๋วสายการบินต่างชาติแห่งหนึ่ง ผ่านทาง App Agoda เมื่อช่วงต้นเดือน กพ. 2567 ที่ผ่านมา  โดยเลือกการเดินทาง ในวันที่ 30 เมย. 2567    ช่วงนั้นในระบบขึ้นโชว์ รอบเวลา การเดินทางในตั๋วบางเที่ยว แบบขึ้นบ้างไม่ขึ้นบ้าง ขึ้นๆ หายๆ  (เหมือนเวลาเรากดรับคูปองส่งฟรี หรือคูปองส่วนลดใน App Shopee นั่นแหละ  มันจะมาๆหายๆ เวลาคูปองใกล้หมด พอนึกออกใช่มั๊ยครับ  เพราะเนื่องจากวันที่เราจองตั๋ว ก็เช่นกัน เป็นวันที่มีโปรโมชั่น ลดราคาของสายการบินต่างชาติค่ายหนึ่งพอดี จึงทำให้มีคนเข้าใช้งานกันมาก จึงอาจทำให้เป็นไปได้ว่า เมื่อมีคนเข้าใช้งานมากๆ ทำให้ระบบเกิดการ Error ได้  แต่ยังไม่ถึงกับระบบล่ม )   
            จึงทำให้การจองตั๋วของผมผิดพลาดคาดเคลื่อน  เพราะตอนแรกผมดูเป็นอย่างดีแล้วว่า ผมจองการเดินทางให็กับลูกชาย ให้เดินทางถึง กทม. เป็นช่วงใกล้เที่ยง  แต่พอจองตั๋วเสร็จ กลายเป็นเดินทางถึง กทม. ใกล้เที่ยงคืน (ถึงเวลา 23.45น.)  ซึ่งตรงนี้เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง  และมีผลกระทบต่อผู้เดินทางเป็นอย่างมาก  เนื่องจาก ลูกชายผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม  การเดินทางเพียงคนเดียว ในช่วงเวลากลางคืน เป็นอันตรายอย่างยิ่ง อีกทั้งในเวลาดังกล่าว  รถไฟฟ้าก็กำลังจะยุติการให้บริการ  มีเพียงรถแท๊กซี่เท่านั้น   ก็รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร   
             ผมได้ติดต่อทาง  call center ของ agoda ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ให้บริการเป็นอย่างดีมาก แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยมีคำถามที่เจ้าหน้าที่เขาถามมาก และผมถึงกับอึ้งเลย ว่ามีการบันทึกวีดีโอหน้าจอขณะจองตั๋วไว้หรือไม่  ซึ่งปกติ ผมทำงานเป็นฝ่ายตรวจสอบที่รอบคอบแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยบันทึกอะไรเช่นนี้เลย ทำให้ผมได้เป็นบทเรียนว่าวันหลัง นอกจากจะตรวจสอบอย่างดีแล้ว อย่าลืมบันทึกวีดีโอไว้ด้วย   แต่เท่าที่ถามเพื่อนๆ หลายๆ คน  เขาบอกว่า มันเป็นการ Replay เพื่อเรียกย้อนดูเหตุการณ์อีกครั้ง  แสดงว่า เขาก็ยอมรับว่าระบบก็มีการผิดพลาดเกิดขึ้นได้อยู่เป็นประจำบ่อยครั้ง จึงต้องมีการบันทึกเพื่อเรียกย้อนดูเหตุการณ์ เหมือนการบันทึกด้วยกล้องวงปิด เพื่อย้อนดูนั่นแหละ  
             จากเหตุการณ์การจองผิดพลาดของผม ที่ได้ถามทางผู้รู้หลายท่าน ให้ความเห็นต่างๆนานา  บางท่านให้ข้อมูลว่า เกิดจากการ Error  เมื่อมีผู้เข้าใช้จำนวนมาก หรือ เกิดจากเวลาในระบบ ที่เป็นเวลา แบบ A.M / P.M.  ก็เป็นได้ ทำให้เวลาคลาดเคลื่อน เช่น จองเวลาเดินทาง 09.00 น.  แต่ ระบบ Error เป็นเวลา 21.00น.  เหล่านี้เป็นต้น 
             สรุปทั้งนี้ทั้งนั้น  จากประสบการณ์ที่เพื่อนๆ หลายท่าน ซึ่งก็ประสบปัญหากับผมเป็นจำนวนมาก แนะนำมา  เพื่อความไม่ประมาท และป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากระบบ  แนะนำให้ทุกท่าน จองตั๋วให้เสร็จ แล้วอย่าเพิ่งหักจ่ายด้วยบัตรเครดิต ให้เลือกจ่ายเป็นช่องทางการโอนผ่านธนาคาร หรือช่องทางใดก็ได้เพื่อชำระในภายหลัง   แล้วกลับมาตรวจสอบตั๋วที่ทางระบบสรุป(หยุดนิ่งแล้ว) เพื่อให้เรา-รอการชำระเงินไว้ให้ถูกต้องอีกครั้ง  จนมั่นใจแล้ว ค่อยชำระ จะปลอดภัยที่สุด   เพราะเท่าที่จองมาไม่ว่า จะเป็นสายการบินไหน / agency เจ้าไหน ที่ว่าระบบเขาดี ก็ Error บ่อยมาก  แต่หากจองกับ agency ที่เป็นคนทำงานใน office ที่เปิดรับจองตั๋ว  เมื่อเขาจองผิด หากเราตรวจสอบพบเขาจะแก้ไขให้เราฟรี โดยเราไม่ต้องเสียเงิน  ไม่เหมือน Agency ที่เป็น App ในมือถือ ที่จองผิดแล้วเราต้องโทรกลับไปแจ้งผ่าน Call center ซึ่งติดต่อยากมาก  เมื่อติดต่อได้ก็ไม่สามารถแก้ไขได้  โทษว่าเป็นความผิดของลูกค้าฝ่ายเดียว  ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมและค่าส่วนต่างตั๋วใหม่ จึงจะแก้ไขให้ได้ และใช้เวลาตรวจสอบนานมาก-หลายวัน