คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เอาจริงก็เคยมีสภาพที่เกือบๆจะเสียไปแล้วครับ จากที่อังกฤษบังคับทำปฏิญญาลับ 2440 กับไทย หลักๆของปฏิญญาลับ 2440 นี้คือรัฐบาลไทยตกลงว่าจะไม่ยินยอมให้ประเทศใดก็ตาม ซื้อ เช่า หรือถือกรรมสิทธิ์ดินแดนไทยตั้งแต่บริเวณใต้ตำบลบางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ลงไปโดยที่ไม่ให้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอังกฤษก่อน เพื่อเป็นการตอบแทนรัฐบาลอังกฤษจะให้ความช่วยเหลือแก่ไทยถ้าถูกชาติอื่นรุกราน ซึ่งถ้าพิจารณาดูแล้วในเชิงปฏิบัติถือว่าไทยได้สูญเสียดินแดนเหล่านั้นทั้งหมดไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2440 ดังนั้นทางราชำสนักจึงต้องการจะยกเลิกปฏิญญาลับนี้ให้ได้ โดยตัดสินใจใช้ 4 รัฐมลายูเป็นสิ่งเจรจา
ในการเจรจาดินแดนครั้งนั้นทางไทยเสนอดินแดนเพียงไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู แต่นายแพซยิต (ราชทูตอังกฤษ) ก็พยายามเจรจาต่อรองจะเอาดินแดนให้ได้มากขึ้นจะเอาปัตตานี ยะลา สตูล ปะลิสเพิ่ม จนนายสโตรเบล (ฝ่ายไทย) ไม่พอใจจนเกือบต้องยุติการเจรจา แต่ต่อมานายสโตรเบลก็มีท่าที่ผ่อนคลายต่ออังกฤษเพิ่มขึ้นเช่นยอมยกปะลิศให้เพิ่ม (ยังหาหลักฐานไม่ได้ว่าเพราะเหตุใด)
แม้ว่าทางไทยจะปฏิเสธเรื่องปัตตานีกับยะลาไปอย่างเด็ดขาดแล้วแต่นายแพซยิตก็ยังไม่ละความพยายาม ไปเรียกร้องขอดินแดนอื่นเพิ่มคือเมืองรามันห์ตอนใต้และเกาะลังกาวี แต่ยอมให้ไทยได้เกาะตะรุเตาและเกาะเล็กเกาะน้อยทางตะวันตกของลังกาวี
ต่อมานายสโตรเบลเสียชิวิตทางไทยเปลี่ยนให้นายเวสเตนการ์ดเป็นผู้เจรจาแทน นายเวสเตนการ์ดเห็นชอบกับข้อเสนอล่าสุดแต่มีเงื่อนไขว่า อังกฤษจะต้องลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะกู้สร้างทางรถไฟ จาก 4% เหลือ 3.75%
เมื่อเจอเงื่อนไขนี้ทางฝ่ายอังกฤษก็แตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือเซอร์จอห์น แอนเดอร์สันข้าหลวงใหญ่สิงคโปร์เป็นหัวหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อเสนอของไทยว่าดอกเบี้ยที่ลดคุ้มค่ากับดินแดนที่จะได้เพิ่ม แต่จะให้ดีแอนเดอร์สันขอระแงะเพิ่ม
อีกฝ่ายคือนายแพซยิตคัดค้านข้อเสนอของไทยอย่างรุนแรง บอกว่าข้อเสนอดินแดนไม่เกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้เป็นคนละประเด็น และอังกฤษเสียสละให้ไทยหลายเรื่องแล้วเช่นการยอมให้คนในบังคับอังกฤษมาขึ้นศาลไทยแทนศาลกงสุลกับการที่อังกฤษยอมให้ไทยมีอำนาจสิทธิ์ขาดเหนือเส้นทางรถไฟ ฉะนั้นอังกฤษควรจะได้ราห์มันกับเกาะลังกาวีมาเปล่าๆไม่ต้องเสียอะไรตอบแทน ดอกเบี้ยเงินกู้ต้องคงที่ 4% แต่ระงับการขอระแงะเพิ่มเดี๋ยวไทยไม่พอใจและยุติการเจรจา
ผลปรากฎว่าทางไทยยอมรับข้อเสนอของแพซยิตยกลังกาวีและราห์มันตอนใต้ให้อังกฤษ เพราะทางไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อยินยอมต่างๆของอังกฤษคุ้มค่าต่อการตกลงโดยสันติ และที่สำคัญที่สุดคือการปฏิญญาลับระหว่างไทย - อังกฤษ พ.ศ.2440
ในการเจรจาดินแดนครั้งนั้นทางไทยเสนอดินแดนเพียงไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู แต่นายแพซยิต (ราชทูตอังกฤษ) ก็พยายามเจรจาต่อรองจะเอาดินแดนให้ได้มากขึ้นจะเอาปัตตานี ยะลา สตูล ปะลิสเพิ่ม จนนายสโตรเบล (ฝ่ายไทย) ไม่พอใจจนเกือบต้องยุติการเจรจา แต่ต่อมานายสโตรเบลก็มีท่าที่ผ่อนคลายต่ออังกฤษเพิ่มขึ้นเช่นยอมยกปะลิศให้เพิ่ม (ยังหาหลักฐานไม่ได้ว่าเพราะเหตุใด)
แม้ว่าทางไทยจะปฏิเสธเรื่องปัตตานีกับยะลาไปอย่างเด็ดขาดแล้วแต่นายแพซยิตก็ยังไม่ละความพยายาม ไปเรียกร้องขอดินแดนอื่นเพิ่มคือเมืองรามันห์ตอนใต้และเกาะลังกาวี แต่ยอมให้ไทยได้เกาะตะรุเตาและเกาะเล็กเกาะน้อยทางตะวันตกของลังกาวี
ต่อมานายสโตรเบลเสียชิวิตทางไทยเปลี่ยนให้นายเวสเตนการ์ดเป็นผู้เจรจาแทน นายเวสเตนการ์ดเห็นชอบกับข้อเสนอล่าสุดแต่มีเงื่อนไขว่า อังกฤษจะต้องลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะกู้สร้างทางรถไฟ จาก 4% เหลือ 3.75%
เมื่อเจอเงื่อนไขนี้ทางฝ่ายอังกฤษก็แตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือเซอร์จอห์น แอนเดอร์สันข้าหลวงใหญ่สิงคโปร์เป็นหัวหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อเสนอของไทยว่าดอกเบี้ยที่ลดคุ้มค่ากับดินแดนที่จะได้เพิ่ม แต่จะให้ดีแอนเดอร์สันขอระแงะเพิ่ม
อีกฝ่ายคือนายแพซยิตคัดค้านข้อเสนอของไทยอย่างรุนแรง บอกว่าข้อเสนอดินแดนไม่เกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้เป็นคนละประเด็น และอังกฤษเสียสละให้ไทยหลายเรื่องแล้วเช่นการยอมให้คนในบังคับอังกฤษมาขึ้นศาลไทยแทนศาลกงสุลกับการที่อังกฤษยอมให้ไทยมีอำนาจสิทธิ์ขาดเหนือเส้นทางรถไฟ ฉะนั้นอังกฤษควรจะได้ราห์มันกับเกาะลังกาวีมาเปล่าๆไม่ต้องเสียอะไรตอบแทน ดอกเบี้ยเงินกู้ต้องคงที่ 4% แต่ระงับการขอระแงะเพิ่มเดี๋ยวไทยไม่พอใจและยุติการเจรจา
ผลปรากฎว่าทางไทยยอมรับข้อเสนอของแพซยิตยกลังกาวีและราห์มันตอนใต้ให้อังกฤษ เพราะทางไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อยินยอมต่างๆของอังกฤษคุ้มค่าต่อการตกลงโดยสันติ และที่สำคัญที่สุดคือการปฏิญญาลับระหว่างไทย - อังกฤษ พ.ศ.2440
แสดงความคิดเห็น
พื้นที่ด้ามขวานไทย (ภาคใต้) รอดจากการล่าอาณานิคมของอังกฤษมาได้ยังไงคะ