จริง ๆ หลายคนมักคิดว่า “เอ... หรือว่า กระทู้หาคนรู้ใจในพันทิปจะเสื่อมมนตร์ขลังไปซะแล้ว ?”
ในฐานะที่อยู่พันทิปตั้งแต่สมัยก่อนรู้จักกับสามี จนตอนนี้ ลูกคนโตอยู่ปี 4 แล้วนะคะ เห็นวิวัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างในพันทิปมาพอสมควร รับรู้เรื่องราวของคนรู้จักกันจนถึงขั้นแต่งงานกันในนี้มาตั้งแต่สมัยที่คู่ที่รู้จักกันในพันทิปได้ลงสัมภาษณ์ในนิตยสารพลอยแกมเพชรโน่นลยค่ะ
สมัยก่อนตอนอายุยี่สิบกว่า ๆ อยู่แต่ห้องสมุด กับห้องศาสนา สยามสแควร์เอย อะไรเอย ไม่เข้าค่า พอแก่ ๆ แล้วถึงค่อยแวะมาบางรัก
ต้องบอกว่า สมัยก่อนสังคมพันทิปมันเล็กกว่านี้เยอะแต่แนบแน่นกันมาก เพราะ platform มันน้อยกว่าปัจจุบันมาก ตอนนี้ พันทิปอาจจะมีคนตอบแบบจริงจัง หรือกระทู้แบบเนื้อ ๆจริง ๆ จัง ๆ น้อยลงกว่าสมัยก่อน เพราะหลายท่านก็ไปเปิดเพจของตัวเองเยอะแยะ
แต่เอาละ ในฐานะที่เคยเห็นคนที่ตั้งกระทู้รับสมัครคนรู้ใจ แล้วได้คนรู้ใจคุณภาพดี ก็เลยขออนุญาตถอดบทเรียนของน้องคนที่รู้จักคนนั้นมาเป็นตัวอย่างนะคะ ว่าตั้งกระทู้ยังไงดี ถึงจะได้คนคุณภาพดี (คุณภาพดี ในแง่ของความเข้ากันได้ และมีคุณสมบัติที่ต่างฝ่ายต่างชื่นชมกันนะคะ) มาลองคุยดู
1. วิธีการเขียนต้องชัดเจนค่ะ อันนี้ รู้กันอยู่แล้วเนอะ แต่สิ่งที่มากกว่านั้น คือ การระบุรายละเอียดซึ่งเขียนให้ละเอียดลงไปอีก ก็คงต้องบอกว่า รายละเอียดที่ว่าละเอียดมันควรเป็นแนวไหน การลงรายละเอียดที่น่าจะลงให้มากเท่าที่จะมากได้บนพื้นฐานของความปลอดภัย เช่น ยังไม่ต้องชื่อจริง นามสกุลจริง ที่ทำงาน ฐานะหรือที่อยู่แบบละเอียด แต่สามารถบอกเล่าเกี่ยวกับตัวคุณอย่างละเอียดได้จะทำให้คุณจำกัดวงของคนที่น่าจะใช่ได้มาก
- บอกวัตถุประสงค์ สเป็คให้ละเอียด อย่ามุบมิบเม้มขยักไว้เด็ดขาด ถ้ามันสำคัญกับคุณจริง ๆ เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก การศึกษา ลักษณะงานที่ทำ การจัดการการเงิน อันนี้สำคัญนะคะ คุยกันให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นจะได้มีความคาดหวังที่ถูกต้องค่ะ เช่น มีบ้านนะคะ แต่ผ่อนอยู่ ไม่ประสงค์ให้ผ่อนร่วมค่ะ และในเบื้องต้นไม่ประสงค์จะอยู่ร่วมนะคะ มาหาแฟน ไม่ได้มาเปิด AirBNB ให้พักฟรีนะคะ
- บอกนิสัยสิ่งที่คุณชอบ ไม่ชอบ สิ่งที่คุณรับได้ และรับไม่ได้ให้ละเอียด จะให้ดีเลยก็ยกตัวอย่างสถานการณ์บางอย่างด้วยให้เห็นชัด ๆ เลยก็ได้ คนที่อ่านจะได้ชั่งใจหรือวัดได้ถูกว่าควรยื่นใบสมัครให้คุณดีหรือไม่
- ปกติ รายละเอียดที่น่าสนใจมักมีความ juicy นิด ๆ บางที ฟังราวกับคุณกำลังนินทาตัวเอง มันจะทำให้รายละเอียดดูสนุกขึ้น แล้วคนอ่านจะพอเก็ทลักษณะบุคลิกภาพและนิสัยใจคอเบื้องต้นของคุณไว้สำหรับประเมินได้
2. อย่าคาดหวังว่าจะได้เจอคนที่คิดว่าจะเป็นแฟนได้จริง ๆ ในขั้นแรก ๆ ขอให้คิดว่า เป็นการทำความรู้จักกับเพื่อนต่างเพศ หรือจะเพศเดียวกันที่มีความประสงค์ชัดเจนว่า ต้องการศึกษาดูใจกัน หรือท้ายที่สุด ก็ขอให้เผื่อใจไว้ว่า ถึงคุณจะไม่ได้แฟนจริง ๆ แต่คุณอาจจะได้เพื่อนที่ดี ที่คุยเรื่องเดียวกัน มีความสนใจแนวเดียวกันมาเป็นเพื่อนได้
3. จำนวนที่คิดว่าเหมาะสม น่าจะประมาณ 3-5 นะคะ เพื่อคุณภาพในการพูดคุยที่ละเอียดพอที่จะคัดกรองและศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่แนววัยรุ่นที่จะสะสมรายชื่อคนรู้จักไว้ทักทายแบบ chit chat หมาหยอกไก่
4. ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ข้อตกลงทางธุรกิจ ไม่ขนาดต้องเซ็น NDA หรือสัญญารักษาความลับ แต่มันควรเป็น สามัญสำนึกและมารยาทที่ไม่ต้องตอกย้ำว่า จะไม่เล่ารายละเอียดส่วนตัวของคนที่คุยด้วยมาลงเป็นกระทู้ในพันทิปหรือเอาไปเล่าในวง social ที่กว้างออกไปจนทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไป ควรรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลของผู้ที่คุยด้วย ยกเว้น คนที่คุยด้วยนี่จะมีลักษณะเป็นภัยสังคมและคุกคามจนต้องเตือนภัยจริง ๆ
ลองแชร์กันในคอมเมนต์ก็ได้ค่ะ ว่าแต่ละท่านน่าจะเขียนมาได้รูปแบบไหนได้บ้าง
ขออนุญาตอวดดีเขียนเป็นตัวอย่างนะคะ แต่บอกก่อนว่าไม่ได้มาหาคู่ หรือมีวัตถุประสงค์จะมาหาคู่
พอใจกับชีวิตคู่ปัจจุบันของตัวเองอยู่แล้วค่ะ
เพียงแต่จะลองยกตัวอย่างว่า กระทู้ที่มีเคยเห็นมีคนลงรายละเอียดมากขนาดนี้แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวถึงขั้นอาจจะก่ออันตรายให้กับตัวเอง มันจะประมาณไหน แล้วถ้าถือเอาตัวเองเป็นคนตัดสิน อยากได้รายละเอียดขนาดไหน ถึงจะสนใจส่งใบสมัคร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนนี้อายุ 50 นะคะ สนใจทำความรู้จักพูดคุยกับเพื่อนเพศชายค่ะ อายุ 45 ปีขึ้นไป น้อยกว่านี้ สมัครมาก็มาเป็นน้อง เป็นลูกเป็นหลานป้าเถอะ ... โดยส่วนตัว ชอบคนที่อายุมากกว่าเท่านั้น ชะรอยจะมี daddy issue ตอนเด็ก ๆ ว่าพ่อไม่ค่อยรัก เลยมักจะชอบคนที่อายุมากกว่าหรือเป็นผู้ใหญ่กว่าตัวเองเสมอ
เป็น straight นะคะ แต่ไม่รังเกียจ LGBTQ ทุกประเภท สนิทสนมและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพศทางเลือกพอสมควร เพียงแต่ไม่ได้ชอบในเชิงเสน่หา เพราะงั้น ไม่รับพิจารณา LGBTQ ในเชิงเสน่หานะคะ
จบปริญญาโทจากในประเทศนะคะ จากมหาวิทยาลัยในตัวเมือง ตอนนี้ ใบปริญญาน่าจะอยู่ในเซฟ ไม่ค่อยได้ทำงานตรงสายที่เรียนมาเท่าไร
ทำงานพอพึ่งตัวเองได้ ไม่พร้อมแชร์เรื่องเงินและภาระทางการเงินกับใคร เพราะส่วนตัวก็มีภาระอยู่
ไม่คาดหวังว่า กินข้าวด้วยกันจะต้องหารสองเป๊ะเหมือนรูมเมท ขอผลัดกันเลี้ยง ไม่ยืมตังค์กันและกันนะคะ ไม่ถามถึงตังค์ของกันและกัน
แต่ถ้าอยากเล่าให้ฟัง ฟังได้ค่ะ รับรองด้วยเกียรติของเนตรนารีว่า จะไม่อิจฉา ไม่เรียกค่าไถ่ ไม่เอาไปบอกใคร ไม่ถามว่าใช้ตังค์ทันมั้ย ถ้าคุณจะบอกว่าคุณมี 9 หลักนอนเย็น ๆ ในบัญชี
แล้วอย่าชวนเล่นคริบโต เทรดหุ้น forex ขายตรงหรืออะไรทำนองนี้เด็ดขาดนะคะ ถือเป็น red flag ตัดฉับกันไปได้เลย
เป็นคนหน้าตาธรรมดา ตาหยี ๆ เวลายิ้ม แทบมองไม่เห็นตา มีแต่คนบอกว่า “นึกว่าไม่ใช่คนไทย” นี่ได้แต่พยักหน้าว่า “ค่ะ ดิฉันคงดูเหมือนคนฝรั่งเศส” ถ้าว่ากันที่รูปลักษณ์ ชอบคนใส่แว่นนะคะ แทบจะเป็น fetish เลยก็ว่าได้
ถ้าใส่แว่นอยู่แล้ว กรุณาอย่าใส่คอนแทคเลนส์มาเวลาเจอกันนะคะ ทรง nerd ๆ นี่สเป็คมาก กลัวคนมีหนวดเครานะคะ เพราะงั้น ขอบายจริง ๆ
ส่วนตัวเป็นคนตลก มักพยายามมองหาและโฟกัสในแง่ดีของผู้คนและสถานการณ์ ค่อนข้างใจกว้างในหลาย ๆ เรื่องและชอบทำความเข้าใจคนอื่น ชอบคนเรียบง่ายที่ไม่มักง่าย นี่เป็นคนซื่อ และสมมติฐานแรกที่มองผู้คนคือมองว่าดีไว้ก่อน ถ้ามันจะดูโง่ ๆ ไปบ้างสำหรับคนคิดซับซ้อน ผ่านดิฉันไปเลยค่ะ แต่เป็นคนเจ็บแล้วจำนะคะ forgive แต่ไม่ forget ค่ะ ไม่ค่อยคิดแก้แค้นหรือเอาคืนใครอีกแล้ว เพราะพยายาม pasteurize จิตใจมาบางส่วนแล้วค่ะ ไม่อยากติดกรรมกันไปถึงชาติหน้า แต่ชอบเลือกที่จะไม่พูด ไม่เผชิญหน้าหรือแสดงออก รู้ไว้แล้วจะเฉย ๆ แล้วดูใจของอีกฝ่ายว่าจะใจแข็งทอแลไปได้อีกสักกี่น้ำ ถึงจะสารภาพ
ชอบอ่านหนังสือและอ่านทุกประเภทจริง ๆ ค่ะ ตั้งแต่เรื่องสูงส่งดีงาม จนถึงเรื่องที่คนอื่นไม่คิดว่าตัวเองจะอ่าน ... เติมคำในช่องว่าง เติมอะไรก็ถูกทั้งนั้น
เพลงก็ฟังได้เกือบทุกอย่าง ทั้งเก่าใหม่ ลูกทุ่ง สตริง ลูกกรุง ป๊อป ร็อค คลาสสิค จนถึง เพลงสวดมนต์ทั้งเถรวาทและวัชรยาน แต่บทที่โปรดที่สุดคือ ปรัชญาปารมิตา หรือหฤทัยสูตรฉบับธิเบต
กินของข้างถนนได้ (ถ้ามันดูสะอาดพอควร) อร่อยพอ ๆ กับอาหารตามโรงแรม
ปกติไม่แต่งหน้า เรียบ ๆ จืด ๆ แต่ไม่แอนตี้เครื่องสำอาง หมดเงินไปกับสิ่งที่ชอบจริง ๆ แต่จะไม่ควักแม้แต่บาทเดียวซื้อของที่ไม่ได้ต้องการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนที่ไม่ได้ชอบ ใช้ครีมกันแดดสถาบันโรคผิวหนังหลอดหลักร้อย สีผึ้งคำน่อย แต่ก็มี Creed Aventus อยู่ในตู้
เสื้อผ้าก็ธรรมดา ชอบผ้าใยกัญชง หรือผ้าฝ้ายที่ใส่สบาย ถือกระเป๋าผ้า หรือกระเป๋า handmade กระเป๋าลูกปัด กระเป๋าหนังไม่มียี่ห้อ แต่อย่าเข้าใจผิด นี่ไม่แอนตี้ของแบรนด์เนมเลย ชอบดูด้วยซ้ำถ้ามันสวยจริง ส่วนตัวแทบไม่ใช้มีนิดหน่อย 3-4 รายการประมูลจากแพรวแชริตี้สำหรับสมทบการกุศล แต่เคยซื้อ LV ชิ้นเล็ก ๆ ให้ลูกน้องบ้างเป็น reward
ใช้เงินตาม budget แต่ถือคติ ถ้ามี 2 บาท จะเก็บบาทนึงไว้กินข้าว อีกบาทเอาไว้ซื้อดอกไม้ บาทแรกไว้เลี้ยงกาย บาทที่สองไว้เลี้ยงใจ
ยินดีที่จะได้รู้จักนะคะ
ปล. นี่แค่เป็นตัวอย่างเฉย ๆ เพื่อให้เห็น point ที่เขียนนะคะ
ลักษณะกระทู้รับสมัครคนรู้ใจที่เคยเห็นได้ผลในพันทิป
ในฐานะที่อยู่พันทิปตั้งแต่สมัยก่อนรู้จักกับสามี จนตอนนี้ ลูกคนโตอยู่ปี 4 แล้วนะคะ เห็นวิวัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างในพันทิปมาพอสมควร รับรู้เรื่องราวของคนรู้จักกันจนถึงขั้นแต่งงานกันในนี้มาตั้งแต่สมัยที่คู่ที่รู้จักกันในพันทิปได้ลงสัมภาษณ์ในนิตยสารพลอยแกมเพชรโน่นลยค่ะ
สมัยก่อนตอนอายุยี่สิบกว่า ๆ อยู่แต่ห้องสมุด กับห้องศาสนา สยามสแควร์เอย อะไรเอย ไม่เข้าค่า พอแก่ ๆ แล้วถึงค่อยแวะมาบางรัก
ต้องบอกว่า สมัยก่อนสังคมพันทิปมันเล็กกว่านี้เยอะแต่แนบแน่นกันมาก เพราะ platform มันน้อยกว่าปัจจุบันมาก ตอนนี้ พันทิปอาจจะมีคนตอบแบบจริงจัง หรือกระทู้แบบเนื้อ ๆจริง ๆ จัง ๆ น้อยลงกว่าสมัยก่อน เพราะหลายท่านก็ไปเปิดเพจของตัวเองเยอะแยะ
แต่เอาละ ในฐานะที่เคยเห็นคนที่ตั้งกระทู้รับสมัครคนรู้ใจ แล้วได้คนรู้ใจคุณภาพดี ก็เลยขออนุญาตถอดบทเรียนของน้องคนที่รู้จักคนนั้นมาเป็นตัวอย่างนะคะ ว่าตั้งกระทู้ยังไงดี ถึงจะได้คนคุณภาพดี (คุณภาพดี ในแง่ของความเข้ากันได้ และมีคุณสมบัติที่ต่างฝ่ายต่างชื่นชมกันนะคะ) มาลองคุยดู
1. วิธีการเขียนต้องชัดเจนค่ะ อันนี้ รู้กันอยู่แล้วเนอะ แต่สิ่งที่มากกว่านั้น คือ การระบุรายละเอียดซึ่งเขียนให้ละเอียดลงไปอีก ก็คงต้องบอกว่า รายละเอียดที่ว่าละเอียดมันควรเป็นแนวไหน การลงรายละเอียดที่น่าจะลงให้มากเท่าที่จะมากได้บนพื้นฐานของความปลอดภัย เช่น ยังไม่ต้องชื่อจริง นามสกุลจริง ที่ทำงาน ฐานะหรือที่อยู่แบบละเอียด แต่สามารถบอกเล่าเกี่ยวกับตัวคุณอย่างละเอียดได้จะทำให้คุณจำกัดวงของคนที่น่าจะใช่ได้มาก
- บอกวัตถุประสงค์ สเป็คให้ละเอียด อย่ามุบมิบเม้มขยักไว้เด็ดขาด ถ้ามันสำคัญกับคุณจริง ๆ เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก การศึกษา ลักษณะงานที่ทำ การจัดการการเงิน อันนี้สำคัญนะคะ คุยกันให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นจะได้มีความคาดหวังที่ถูกต้องค่ะ เช่น มีบ้านนะคะ แต่ผ่อนอยู่ ไม่ประสงค์ให้ผ่อนร่วมค่ะ และในเบื้องต้นไม่ประสงค์จะอยู่ร่วมนะคะ มาหาแฟน ไม่ได้มาเปิด AirBNB ให้พักฟรีนะคะ
- บอกนิสัยสิ่งที่คุณชอบ ไม่ชอบ สิ่งที่คุณรับได้ และรับไม่ได้ให้ละเอียด จะให้ดีเลยก็ยกตัวอย่างสถานการณ์บางอย่างด้วยให้เห็นชัด ๆ เลยก็ได้ คนที่อ่านจะได้ชั่งใจหรือวัดได้ถูกว่าควรยื่นใบสมัครให้คุณดีหรือไม่
- ปกติ รายละเอียดที่น่าสนใจมักมีความ juicy นิด ๆ บางที ฟังราวกับคุณกำลังนินทาตัวเอง มันจะทำให้รายละเอียดดูสนุกขึ้น แล้วคนอ่านจะพอเก็ทลักษณะบุคลิกภาพและนิสัยใจคอเบื้องต้นของคุณไว้สำหรับประเมินได้
2. อย่าคาดหวังว่าจะได้เจอคนที่คิดว่าจะเป็นแฟนได้จริง ๆ ในขั้นแรก ๆ ขอให้คิดว่า เป็นการทำความรู้จักกับเพื่อนต่างเพศ หรือจะเพศเดียวกันที่มีความประสงค์ชัดเจนว่า ต้องการศึกษาดูใจกัน หรือท้ายที่สุด ก็ขอให้เผื่อใจไว้ว่า ถึงคุณจะไม่ได้แฟนจริง ๆ แต่คุณอาจจะได้เพื่อนที่ดี ที่คุยเรื่องเดียวกัน มีความสนใจแนวเดียวกันมาเป็นเพื่อนได้
3. จำนวนที่คิดว่าเหมาะสม น่าจะประมาณ 3-5 นะคะ เพื่อคุณภาพในการพูดคุยที่ละเอียดพอที่จะคัดกรองและศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่แนววัยรุ่นที่จะสะสมรายชื่อคนรู้จักไว้ทักทายแบบ chit chat หมาหยอกไก่
4. ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่ข้อตกลงทางธุรกิจ ไม่ขนาดต้องเซ็น NDA หรือสัญญารักษาความลับ แต่มันควรเป็น สามัญสำนึกและมารยาทที่ไม่ต้องตอกย้ำว่า จะไม่เล่ารายละเอียดส่วนตัวของคนที่คุยด้วยมาลงเป็นกระทู้ในพันทิปหรือเอาไปเล่าในวง social ที่กว้างออกไปจนทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไป ควรรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลของผู้ที่คุยด้วย ยกเว้น คนที่คุยด้วยนี่จะมีลักษณะเป็นภัยสังคมและคุกคามจนต้องเตือนภัยจริง ๆ
ลองแชร์กันในคอมเมนต์ก็ได้ค่ะ ว่าแต่ละท่านน่าจะเขียนมาได้รูปแบบไหนได้บ้าง
ขออนุญาตอวดดีเขียนเป็นตัวอย่างนะคะ แต่บอกก่อนว่าไม่ได้มาหาคู่ หรือมีวัตถุประสงค์จะมาหาคู่
พอใจกับชีวิตคู่ปัจจุบันของตัวเองอยู่แล้วค่ะ
เพียงแต่จะลองยกตัวอย่างว่า กระทู้ที่มีเคยเห็นมีคนลงรายละเอียดมากขนาดนี้แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวถึงขั้นอาจจะก่ออันตรายให้กับตัวเอง มันจะประมาณไหน แล้วถ้าถือเอาตัวเองเป็นคนตัดสิน อยากได้รายละเอียดขนาดไหน ถึงจะสนใจส่งใบสมัคร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้