สวัสดีค่ะ เราอายุ 30 ปีนะคะ ปัจจุบัน รับราชการอยู่ในรพ.เราเป็นคนเงียบๆ น่าตาขี้เหร่ ดำ เพื่อนน้อยไม่ค่อยพูด ขี้น้อยใจ ตั้งแต่เด็กมีอะไรจะบอกแม่ตลอด 1-28ไม่เคยมีแฟนเลย เพราะไม่สวย เป็นคนหัวไม่ดีแต่ขยัน จึงเรียนจบมาได้ อีกอย่างคือ ป่วยเป็น sle หรือโรคพุ่มพวงตั้งแต่เด็ก อายุ 14 ปี แม่จะค่อยข้างเป็นห่วงมาก ขอไปทำงานบ้านเพื่อนก็ไม่เคยได้ไป เล่นไกลบ้านเเม่ก็จะไม่ให้ไป ตอนเด็กก็เฉยๆนะ ไม่ให้ไปก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่พอโต ทำไมเรารู้สึกอึดอัดรู้สึกว่ามันก็เกินไป คือเรามีเเฟนคนแรกตอนอายุ 29 แม่ก็สั่งห้ามให้เลิก แต่เรายังไม่เลิกนะ เราคิดว่าเหตุผลแม่ไม่เพียงพอ นั่นเป็นครั้งแรกที่เราดิ้อกับแม่..แต่เราก็แอบๆคบไม่ได้เที่ยวด้วยกัน ไปไหนด้วยกันไม่ได้..จนสุดท้ายฝ่ายชายเค้าอึดอัดเลยเลิกลากันไป อีกอย่างทางญาติแม่ก็ไม่โอเครเพราะเค้ามีลูกติด จน การงานไม่มั่นคง พอเรามีแฟนคนที่สองเราเลยเลือกคนการการมั่นคง ไม่มีลูกติด แม่ก็บอกว่ายังไม่โอเคร เพราะเค้ากินเหล้า แต่ตอนคบกันเค้าก็บอกจะลดให้ เค้าก็ไม่ได้กินทุกวันนะ กินแค่เข้าสังคม คนที่สองเค้าดูจริงจังอยากสร้างครอบครัว เค้าจะพาเราไปหาแม่เค้า แต่แม่เราไม่ให้ไป เค้าจะขอมาเจอพ่อกับแม่ แม่เราบอกไม่ต้องมา จะมาทำไม กลัวชาวบ้านนินทาว่าเอาผู้ชายเข้าบ้าน จนหลังๆเหมือนเเฟนเราจะน้อยใจ เค้าบอกเราว่า เป็นเด็กดีของพ่อแม่ดีแล้ว พ่อแม่มีคนเดียวนะ..เรื่องของหัวใจให้เวลาเป็นตัวบอกเอง เรากลัวว่าประวัติจะเหมือนคนแรกอีก สรุปเราควรทำไงดี..แม่บอกไม่มีผู้ชายคนไหนมารักเราจริงหลอก ทั้งขี้โรค ขี้เหร่ แกเลยไม่อยากให้เรามีแฟน..แกบอกหาดีไม่ได้ก็ไม่ต้องมี แต่เราคิดว่าพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเราตลอด เราแก่ตัวไปใครจะดูแลเราคิดแบบนี้..แต่อีกใจก็คล้อยตามแม่ กลัวมีไม่ดีจะมาเสียใจทีหลัง..ไม่รู้ควรทำไง อีกอย่างแฟนเราเค้าเป็นโรคหมอนรองกระดูกอักเสบ ทำให้เวลาเดินไม่เหมือนคนทั่วไป แต่ใช้ชีวิต ทำงานได้ปกติ แม่เรากลับมองว่าเป็นเหมือนคนพิการ อับอายชาวบ้าน เราก็บอกว่าเราเองก็ไม่ได้ดี สวย มาจากไหน ป่วยกินยาหน้าบวม แม่ก็ว่า รานอยากมีผัวเหรอ เห้อ เราควรอยู่ในกรอบต่อไป หรือออกจากกรอบดี...
อยู่ในกรอบของพ่อแม่มันดีจริงหรือ