ครั้งนี้คือครั้งแรกของผมที่จะมาเล่าเรื่องสยองขนหัวลุก ที่ผมพบเจอด้วยตัวเองเรื่องนึง และคือหลอนที่สุดก็ว่าได้
ขอเริ่มเรื่องด้วยเป็น.....
EP.1/1 เข้าเมือง 2558
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดอยู่บ้านนอกชนบทมากๆครับเรียนจบมัธยม แล้วเลือกเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านลพ. ผมได้เดินทางมาลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และที่ทำให้ผมตื่นเต้นกับเรื่องนี้ขึ้น..คือผมพักที่หอในของมหาวิทยาลัยครับ ซึ่งหอในของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จะไม่ได้อยู่ภายในบริเวณของมหาวิทยาลัย คืออยู่ไกลออกไปจากมหาวิทยาลัยพอสมควร ถ้าจะเดินทางกลับหรือเดินทางมา ต้องนั้งรถเมย์หรือแท็กซี่ ผมมาเรียนอยู่เดียวที่นี่ไม่มีเพื่อนสนิทมาเรียนด้วยกัน และต้องหารูมเมทใหม่เพื่ออยู่ด้วยกัน 4 คน ซึ่งหอพักนี้เป็นหอพักที่ทางมหาวิทยาลัยเช่าหรือน่าจะติดสัญญาหอพักอะไรสักอย่างไม่ได้สอบถามมากครับ แต่คือหอพักจะต้องเดินเเข้าซอยประมาณ 300 เมตรถึงจะถึงตึกหอพัก สภาพหอพักนั้นเป็นตึกเก่า 2 ตึก มี9ชั้น มีลิฟ2 ตัว สามารถใช้ได้แค่1ตัวเท่านั้น เนื่องจากสภาพเก่าและโทรมมากๆครับ ตึกของนักศึกษาจะเป็นตึกที่ 2 ถัดจากตึกหน้าไป ระหว่างทางที่เดินเข้าไปในหอพักจะมีศาลเก่าๆ อยู่ซ้ายมือหน้าตึกแรกมีหุ่นชุดไทยของเซ่นไหว้แขวนและวางเต็มไปหมด มองไปคือหลอน ขนลุกมากๆ บรรยายกาศคือเงียบ วังเวงขนลุกทุกครั้งที่เดินผ่าน....วันไหนที่เลิกจากมหาลัยค่ำๆคือก้มหน้าเดินอย่างเดียวเลยเพราะมันจะรู้สึกมีคนเดินตามหลังอยู่ตลอดเวลาครับ....ส่วนในหอพักนั้นจะให้นักศึกษา พักแค่ 6 ชั้นเท่านั่น อีก3 ชั้นที่เหลือด้านบนคือชั้น 7 8 9 ไม่มีนักศึกษาอยู่ ส่วนตัวผมอยู่ชั้นที่6 ห้อง613 เพราะเป็นนักศึกษาปี1 เลยต้องอยู่ห้องด้านบน และแล้วความกลัวผีนั้นก็ได้หายไปเลยครับ เพราะหอในที่นี่กลุ่มรักเพศเดียวกันเยอะมาก กลับกลายเป็นว่ากลัวคนมากกว่าผีอีกเพราะเค้าจะเปิดห้องผู้ชายเข้ามาทักทายแทบทุกห้องฮ่าๆ (ผมไม่เหยียดนะครับมองว่าพวกเค้าสร้างความสนุกดีครับ) แต่ผมก็กลัวเรื่องของใช้ส่วนตัวของมีค่า ผมจึงตัดสินใจกับเพื่อนใหม่รูมเมท ด้วยความที่ต้องเสียค่าเดินทางมาเรียน และความไม่ปลอดภัย เลยตัดสินใจชวนเพื่อนรูมเมทที่อยู่ด้วยกันวางแผนออกไปอยู่หอนอกด้วยกัน เพื่อนก็ชวนผมทำงานกลางคืนหลังเลิกเรียน ไปทำงานเป็นเด็กเสริฟร้านเหล้าปั่น เพื่อเก็บเงินหาค่ามัดจำห้องกัน ......
หลังจากทำงานได้2 อาทิตย์ผมก็เก็บเงินกับเพื่อนได้พอค่ามัดจำ (จะบอกว่าผมได้ค่าจ้างเป็นรายวันนะครับพร้อมทริปลูกค้า) ผมกับเพื่อนรวมเงินกันได้ไม่มากเลยตัดสินใจหาห้องเช่าราคาถูก ห้องพัดลมก็พอแล้ว เลยหาหอพักที่อยู่ติดมหาลัย ซึ่งติดรั่วมหาลัยเลย แต่เป็นหอพักเก่า และราคาถูกมาก ภายในห้องก็คือมีเตียง เหล็กเก่าๆที่นอน คือถ้านอนแล้วจะมีเสียอี๊ดอ๊าดตลอดเวลา ตู้เสื้อผ้า พัดลมเพดาน 3 ใบพัด ถ้าเปิดคือมีเสียงดังแกร๊ดๆเช่นกัน แต่ผมและเพื่อนก็ตัดสินใจอยู่เพราะห้องถูกมาก ค่ามัดจำ 2500 ก็คือเข้าอยู่ได้เลย
#เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ
เข้า..จ้อง
ขอเริ่มเรื่องด้วยเป็น.....
EP.1/1 เข้าเมือง 2558
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดอยู่บ้านนอกชนบทมากๆครับเรียนจบมัธยม แล้วเลือกเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านลพ. ผมได้เดินทางมาลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และที่ทำให้ผมตื่นเต้นกับเรื่องนี้ขึ้น..คือผมพักที่หอในของมหาวิทยาลัยครับ ซึ่งหอในของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จะไม่ได้อยู่ภายในบริเวณของมหาวิทยาลัย คืออยู่ไกลออกไปจากมหาวิทยาลัยพอสมควร ถ้าจะเดินทางกลับหรือเดินทางมา ต้องนั้งรถเมย์หรือแท็กซี่ ผมมาเรียนอยู่เดียวที่นี่ไม่มีเพื่อนสนิทมาเรียนด้วยกัน และต้องหารูมเมทใหม่เพื่ออยู่ด้วยกัน 4 คน ซึ่งหอพักนี้เป็นหอพักที่ทางมหาวิทยาลัยเช่าหรือน่าจะติดสัญญาหอพักอะไรสักอย่างไม่ได้สอบถามมากครับ แต่คือหอพักจะต้องเดินเเข้าซอยประมาณ 300 เมตรถึงจะถึงตึกหอพัก สภาพหอพักนั้นเป็นตึกเก่า 2 ตึก มี9ชั้น มีลิฟ2 ตัว สามารถใช้ได้แค่1ตัวเท่านั้น เนื่องจากสภาพเก่าและโทรมมากๆครับ ตึกของนักศึกษาจะเป็นตึกที่ 2 ถัดจากตึกหน้าไป ระหว่างทางที่เดินเข้าไปในหอพักจะมีศาลเก่าๆ อยู่ซ้ายมือหน้าตึกแรกมีหุ่นชุดไทยของเซ่นไหว้แขวนและวางเต็มไปหมด มองไปคือหลอน ขนลุกมากๆ บรรยายกาศคือเงียบ วังเวงขนลุกทุกครั้งที่เดินผ่าน....วันไหนที่เลิกจากมหาลัยค่ำๆคือก้มหน้าเดินอย่างเดียวเลยเพราะมันจะรู้สึกมีคนเดินตามหลังอยู่ตลอดเวลาครับ....ส่วนในหอพักนั้นจะให้นักศึกษา พักแค่ 6 ชั้นเท่านั่น อีก3 ชั้นที่เหลือด้านบนคือชั้น 7 8 9 ไม่มีนักศึกษาอยู่ ส่วนตัวผมอยู่ชั้นที่6 ห้อง613 เพราะเป็นนักศึกษาปี1 เลยต้องอยู่ห้องด้านบน และแล้วความกลัวผีนั้นก็ได้หายไปเลยครับ เพราะหอในที่นี่กลุ่มรักเพศเดียวกันเยอะมาก กลับกลายเป็นว่ากลัวคนมากกว่าผีอีกเพราะเค้าจะเปิดห้องผู้ชายเข้ามาทักทายแทบทุกห้องฮ่าๆ (ผมไม่เหยียดนะครับมองว่าพวกเค้าสร้างความสนุกดีครับ) แต่ผมก็กลัวเรื่องของใช้ส่วนตัวของมีค่า ผมจึงตัดสินใจกับเพื่อนใหม่รูมเมท ด้วยความที่ต้องเสียค่าเดินทางมาเรียน และความไม่ปลอดภัย เลยตัดสินใจชวนเพื่อนรูมเมทที่อยู่ด้วยกันวางแผนออกไปอยู่หอนอกด้วยกัน เพื่อนก็ชวนผมทำงานกลางคืนหลังเลิกเรียน ไปทำงานเป็นเด็กเสริฟร้านเหล้าปั่น เพื่อเก็บเงินหาค่ามัดจำห้องกัน ......
หลังจากทำงานได้2 อาทิตย์ผมก็เก็บเงินกับเพื่อนได้พอค่ามัดจำ (จะบอกว่าผมได้ค่าจ้างเป็นรายวันนะครับพร้อมทริปลูกค้า) ผมกับเพื่อนรวมเงินกันได้ไม่มากเลยตัดสินใจหาห้องเช่าราคาถูก ห้องพัดลมก็พอแล้ว เลยหาหอพักที่อยู่ติดมหาลัย ซึ่งติดรั่วมหาลัยเลย แต่เป็นหอพักเก่า และราคาถูกมาก ภายในห้องก็คือมีเตียง เหล็กเก่าๆที่นอน คือถ้านอนแล้วจะมีเสียอี๊ดอ๊าดตลอดเวลา ตู้เสื้อผ้า พัดลมเพดาน 3 ใบพัด ถ้าเปิดคือมีเสียงดังแกร๊ดๆเช่นกัน แต่ผมและเพื่อนก็ตัดสินใจอยู่เพราะห้องถูกมาก ค่ามัดจำ 2500 ก็คือเข้าอยู่ได้เลย
#เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ