สอบถามค่ะ ตอนนี้เราอายุ 20 ปีกำลังเรียนมหาลัยอยู่ เราไม่ค่อยสนิทกับพ่อแม่ของเรา พ่อกับแม่เราไม่มีงานประจำค่ะรายได้ที่บ้านพอมีพอใช้แต่ก็จะมีช่วงที่เงินขาดมือบ้าง แต่เขาส่งเงินให้เราตลอด พักหลังมานี้แม่ของเราทำงานเป็นนายหน้าที่ดิน(ไม่มีบริษัท) แล้วเขาก็มีรายได้เพิ่มขึ้น เขาสามารถจ่ายค่ารถ ค่าบ้าน จนหมดได้แล้วเขาก็พยายามโอนทั้งหมดนั้นมาเป็นชื่อเรา ทั้งบ้านที่เขาอยู่ รถที่เขาใช้
เราถามว่าทำไมเขาถึงโอนให้ เขาก็จะตอบประมาณว่าถ้าเขาเป็นอะไรไปของพวกนี้ก็เป็นของเราไปเลย แต่เราก็ยังไม่เข้าใจ พอเกิดเหตุการณ์นี้หลายๆครั้งเราก็เริ่มปฏิเสธ เขาก็เริ่มแสดงออกในเชิงตัดพ้อบวกกับเหตุผลที่แปลกขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากทรัพย์สินของตัวเองก็มีที่ดินของย่าเรา(ยังมีชีวิตอยู่) เนื่องจากเราตอนนี้เรียนอยู่ต่างจังหวัด เขาให้เราส่งเอกสารมอบอำนาจให้เขา เป็นผู้จัดการการขอกรรมสิทธิ์รวมที่ดิน ก็คือที่ดินย่า แต่เพิ่มชื่อเรา ด้วยเหตุผลเดิมว่าถ้าเกิดอะไรไปที่ดินย่าก็เป็นของเรา ในตอนแรกเราปฏิเสธไป แต่ก็กลายเป็นการทะเลาะกัน และเนื่องจากเรายังต้องพึ่งพิงเงินจากเขาอยู่ เราเลยส่งเอกสารไป แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นประมาณครึ่งปีเขาก็จะขอเอกสารเกี่ยวกับเรื่องนี้เรื่อยๆ โดนให้เหตุผลว่าเขาทำเอกสารหายเพราะว่าตอนส่งเอกสารไปยังไม่มีเงินค่าโอนที่ดิน เราเลยบอกเขาไปว่าเราจะไม่ส่งเอกสารให้เขาอีกแล้ว แล้วจะกลับไปดำเนินการเอง แล้วเขาก็ตกลง
ตอนนี้เรากลับมาบ้านแล้วแต่ตอนนี้เราอยู่หอพักเพื่อนในตัวเมือง(บ้านเราอยู่นอกเมือง) แล้วติดต่อเขาไปว่าจะไปจัดการเรื่องนี้ให้จบ แต่เขากลับบอกว่าตอนนี้เขาไม่มีเงินค่าโอนที่ดิน ถ้าเราจะมาเราทำได้แค่เซ็นเอกสารชุดเดิม(ใบมอบอำนาจ) แล้วเขาจะจัดการเองตอนเขามีเงินดำเนินการ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเรื่องนี้ไม่จบสักที
รายละเอียดเพิ่มเติม ย่าของเราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เราค่ะ ท่านอยู่ตัวคนเดียว บ้านหลังที่ท่านอยู่คือที่ดินที่กล่าวไปข้างบน
เราติดต่อท่านไปท่านก็มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ เนื่องจากเมื่อก่อนท่านมีที่ดินอีกผืนนึงแต่พ่อกับแม่เราก็เอาที่ดินนั้นไปขายตอนเรายังเด็ก โดยให้เหตุผลว่า จะเอาไปจ่ายค่าเรียนให้เรากับพี่สาวเรา แล้วจะเอาเงินมาคืนให้ ย่าเราเลยไม่ได้เอาเรื่องอะไร
สรุป เราสงสัยเรื่องพฤติกรรมของแม่ที่พยายามโอนทรัพย์สินให้เราและขอเอกสารสำเนาบัตรประชาชนเราบ่อยครั้ง และเมื่อเราถามรายละเอียดเช่นราคาประเมินที่ดิน(ของย่า)เท่าไหร่ เนื่องจากเราจะเอาไปคำนวณค่าดำเนินการเพราะถ้าเราจ่ายได้เราก็จะจ่าย เราอยากให้เรื่องนี้จบได้แล้ว และคำถามอื่นๆ เลยอยากทราบว่าตอนนี้แม่พยายามทำอะไรอยู่จริงๆกันแน่ จากการคาดเดาของเรา อาจจะเป็นเรื่องภาษี(แม่เราไม่เคยเสียภาษี เพราะรายได้ไม่มาก และไม่มีงานประจำ) หรือไม่เขาก็พยายามขายที่ดินของย่าเรา หรือไม่ก็จริงๆไม่มีอะไรเรากังวลไปเอง
แม่โอนทรัพย์สิน(ที่ดิน)ให้ลูกมากเกินไป
เราถามว่าทำไมเขาถึงโอนให้ เขาก็จะตอบประมาณว่าถ้าเขาเป็นอะไรไปของพวกนี้ก็เป็นของเราไปเลย แต่เราก็ยังไม่เข้าใจ พอเกิดเหตุการณ์นี้หลายๆครั้งเราก็เริ่มปฏิเสธ เขาก็เริ่มแสดงออกในเชิงตัดพ้อบวกกับเหตุผลที่แปลกขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากทรัพย์สินของตัวเองก็มีที่ดินของย่าเรา(ยังมีชีวิตอยู่) เนื่องจากเราตอนนี้เรียนอยู่ต่างจังหวัด เขาให้เราส่งเอกสารมอบอำนาจให้เขา เป็นผู้จัดการการขอกรรมสิทธิ์รวมที่ดิน ก็คือที่ดินย่า แต่เพิ่มชื่อเรา ด้วยเหตุผลเดิมว่าถ้าเกิดอะไรไปที่ดินย่าก็เป็นของเรา ในตอนแรกเราปฏิเสธไป แต่ก็กลายเป็นการทะเลาะกัน และเนื่องจากเรายังต้องพึ่งพิงเงินจากเขาอยู่ เราเลยส่งเอกสารไป แต่เหตุการณ์หลังจากนั้นประมาณครึ่งปีเขาก็จะขอเอกสารเกี่ยวกับเรื่องนี้เรื่อยๆ โดนให้เหตุผลว่าเขาทำเอกสารหายเพราะว่าตอนส่งเอกสารไปยังไม่มีเงินค่าโอนที่ดิน เราเลยบอกเขาไปว่าเราจะไม่ส่งเอกสารให้เขาอีกแล้ว แล้วจะกลับไปดำเนินการเอง แล้วเขาก็ตกลง
ตอนนี้เรากลับมาบ้านแล้วแต่ตอนนี้เราอยู่หอพักเพื่อนในตัวเมือง(บ้านเราอยู่นอกเมือง) แล้วติดต่อเขาไปว่าจะไปจัดการเรื่องนี้ให้จบ แต่เขากลับบอกว่าตอนนี้เขาไม่มีเงินค่าโอนที่ดิน ถ้าเราจะมาเราทำได้แค่เซ็นเอกสารชุดเดิม(ใบมอบอำนาจ) แล้วเขาจะจัดการเองตอนเขามีเงินดำเนินการ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเรื่องนี้ไม่จบสักที
รายละเอียดเพิ่มเติม ย่าของเราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เราค่ะ ท่านอยู่ตัวคนเดียว บ้านหลังที่ท่านอยู่คือที่ดินที่กล่าวไปข้างบน
เราติดต่อท่านไปท่านก็มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ เนื่องจากเมื่อก่อนท่านมีที่ดินอีกผืนนึงแต่พ่อกับแม่เราก็เอาที่ดินนั้นไปขายตอนเรายังเด็ก โดยให้เหตุผลว่า จะเอาไปจ่ายค่าเรียนให้เรากับพี่สาวเรา แล้วจะเอาเงินมาคืนให้ ย่าเราเลยไม่ได้เอาเรื่องอะไร
สรุป เราสงสัยเรื่องพฤติกรรมของแม่ที่พยายามโอนทรัพย์สินให้เราและขอเอกสารสำเนาบัตรประชาชนเราบ่อยครั้ง และเมื่อเราถามรายละเอียดเช่นราคาประเมินที่ดิน(ของย่า)เท่าไหร่ เนื่องจากเราจะเอาไปคำนวณค่าดำเนินการเพราะถ้าเราจ่ายได้เราก็จะจ่าย เราอยากให้เรื่องนี้จบได้แล้ว และคำถามอื่นๆ เลยอยากทราบว่าตอนนี้แม่พยายามทำอะไรอยู่จริงๆกันแน่ จากการคาดเดาของเรา อาจจะเป็นเรื่องภาษี(แม่เราไม่เคยเสียภาษี เพราะรายได้ไม่มาก และไม่มีงานประจำ) หรือไม่เขาก็พยายามขายที่ดินของย่าเรา หรือไม่ก็จริงๆไม่มีอะไรเรากังวลไปเอง