คดี criminal violence ในออสเตรเลีย มีใครทราบบ้างว่าสามารถ drop case ได้มั้ยค่ะ

วันที่ 4 มีนาคม 2024 
       มีเรื่องทะเลาะกับสามี (เรื่องไร้สาระมากค่ะ) คือเราเลิกงานมาเหนื่อยๆ แล้วอยากจะนอน แต่คุณสามีด้วยความที่นางหยุดงานแล้วได้นอนทั้งวัน แต่อยากให้เรานั่งอยู่ด้วย แต่ด้วยสภาพหลังเลิกงาน ไหนจะงานบ้าน งานครัว คือเหนื่อยอยากล้มตัวลงนอนมากๆ สุดท้ายเลยเกิดการทะเลาะ ขุดเรื่องเก่าๆมาเหวี่ยงใส่กัน แล้วเราก็เดินเข้าไปนอนทั้งๆที่ยังทะเลาะกันไม่เคลียร์ ซักพักคุณสามีนางเดินเข้ามาปลุกเราให้ลูกไปเคลียร์ก่อนแล้วค่อยนอน นางพยายามดึงผ้าห่มออก ตัวเราเลยแกล้งถีบเบาๆ ไม่คิดว่าจะโดนหน้าอกนาง เพราะนางเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อนช่วงหน้าอก ถ้ามีอะไรไปกระทบหน่อยนางจะเจ็บ วันนั้นก่อนเข้าไปนอน ก่อนจะมีเรื่องกันเรากินยาลดไข้ไปสองเม็ด ซึ้งปกติจะเป็นที่กินยาพวกนี้แล้วจะง่วงมาก มากจนไม่เอาอะไรแล้วคือจะนอน 
หลังจากนั้น นางขับรถพาตัวนางเองไปหาหมอเพราะเจ็บช่วงหน้าอกมาก ตอนนั้นเราก็ไม่คิดว่าจะถีบแรงขนาดนั้นเพราะเท้าเราอยู่ใต้ผ้าห่ม เวลาถีบเราสัมผัสไม่ได้ค่ะว่าถีบไปโดนตรงไหน ประมาณ 2 ชั่วโมงหลังจากที่นางขับรถไปหาหมอเอง เราเริ่มส่างจากยาลดไข้ เลยขับรถตามนางไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน สรุปไปถึง หมอไม่ให้เข้าไปเยี่ยมสามี หมอบอกว่าห้ามเข้า ทั้งๆที่คนไข้ที่เราแจ้งชื่อไปเป็นสามีเรา ( มาทราบภายหลังว่าสามีแจ้งหมอไปว่าทะเลาะกับภรรยา เค้าเลยให้ตำรวจมาดูแลและไม่ให้ภรรยาเข้าใกล้สามี ) ซึ้งตอนนั้นเรายังไม่รู้เลยค่ะว่าสามีแจ้งหมอ แล้วหมอแจ้งตำรวจ ยังไม่รู้ตัวเลยว่าจะเกิดเรื่องคดีกับตัวเอง เราก็นั่งรอหน้าห้องฉุกเฉินวนไปค่ะ
        จนเช้าของวันที่ 5 มีนาคม 2024
        หมอก็ปล่อยสามีกลับบ้าน แต่สามีหน้าเสีย และไม่ยอมคุยกับเรา ท่าทางจะยังคงโกรธ แต่ตอนนางอยู่ในห้องฉุกเฉิน ก็ยังส่งข้อความาเรื่อยๆนะคะว่าอยากให้เราเข้าไปหา เข้าไปอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่ทันแล้วค่ะ เรื่องถึงตำรวจเรียบร้อย 
       วันที่ 6 มีนาคม 2024 
       เรากลับไปทำงานปกติ แล้วเลิกงานมา 4.30 pm โทรคุยกันกะสามีตลอดว่ากลับบ้านมาจะมาคุยกันนะว่าจะยังไง แต่มาถึงบ้านนั่งลงได้ 10 นาที ตำรวจมาโผล่หน้าบ้าน แล้วถามหาชื่อเราทันที แล้วเรียกเราออกไปคุยนอกบ้าน แล้วถามว่า จะสารภาพมั้ยว่าถีบสามีจริงๆ แต่เราสารภาพค่ะ ว่าถีบจริง แต่เพราะด้วยความโมโห โดนด่า โดนว่า สารพัด ในคืนนั้น คือเราก็ทนไม่ไหว ด้วยความซื่อก็บอกกับตำรวจไปตรงๆ แต่ด้วยคำที่เราสารภาพยอมรับ ตำรวจเลยออกหมายจับเราทันที ตำรวจก็แสนมีมารยาทมากบอกจะใส่กุญแจมือด้วย แต่จะใส่ในรถนะไม่อยากให้เพื่อนบ้านคุณเห็น ส่วนตัวเราบอกตำรวจไปว่า ฉันเข้าใจว่าพวกคุณทำงานไม่ต้องเกรงใจฉันค่ะ ทำตามหน้าที่ได้เลย ฉันรู้ว่าฉันผิด แต่มันเกิดจากการโมโห เพราะคำหยาบจากสามีด่าฉัน แต่สามีคือตกใจมากเค้าไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ แล้วเค้ายังตะโกนบอกตำรวจไปว่า ขอไม่เอาเรื่องภรรยาได้มั้ย ตำรวจตอบกลับทันที ว่าไม่ได้ เราดำเนินเรื่องคดีไปแล้ว สรุปนางก็ตามไปหาเราถึงโรงพักแต่ตำรวจห้ามเข้า 
       หลังจากนั้นถึงสถานีตำรวจให้ปากคำ ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ณ เวลานั้น เค้าจะยึดมือถือ ต่างหู เครื่องแต่งกาย เก็บไว้ในถุงอย่างดี เราโดนสแกนนิ้วมือ ฝ่ามือ ทั้งสองข้าง โดนถ่ายรูป แล้วลงบันทึก เราได้หมายศาลมา ให้ขั้นศาลวันที่ 12 มีนาคม 2024 เจ้าหน้าที่แนะนำเราว่าต้องหาทนายช่วยเพราะภาษาเราบางคำเค้าฟังไม่รู้เรื่อง แล้วช่วงระยะเวลาที่รอขึ้นศาลเรากับสามีได้หาทนายที่คิดว่าเก่ง เพราะเราและสามีไม่รู้เลยว่า คดีแบบนี้มันร้ายแรงถึงขั้นต้องจ้างทนายดีๆเลยมั้ย เพราะสองคนเราไม่เคยมีคดีมาก่อน 
        จนหมาเจอทนายบริษัทเอกชนท่านนึง ก่อนนัดวันขึ้นศาล ทนายจะถามก่อนว่า เราจะทำคดีให้เป็นยอมรับ หรือ ไม่ยอมรับ 
        ถ้ายอมรับเราจะมีคดีถาวร แต่ถ้าไม่ยอมรับจะจ่ายแพงแต่ case จะ drop แล้ววันที่ 12 มีนาคม 2024 9.30 am ไปขึ้นศาลมา เจ้าหน้าที่ศาลบอกว่า hearing ไปเป็น 21 มกราคม 2025 แล้วช่วงเวลาที่จะขึ้นศาลรอบสอง จะต้องปฎิบัติตามกฏที่ศาลสั่งมา คือ ห้ามขู่ ห้ามตีสามี ห้ามด่า ห้ามตามติด GPS และอื่นๆ   แต่ทนายบอกว่าจะหยุดเรื่องนี้ให้ไวที่สุด เพราะสามีคือไม่เอาเรื่องตั้งแต่แรกแล้วแต่ตำรวจเค้าก็ต้องทำตามหน้าที่และผลงาน
        พูดมาซะยาวค่ะ คำถามมีอยู่ว่า 
ทนายบอกว่าจะหยุดและเคลียร์คดีนี้ให้แบบไม่มี record ทำได้ด้วยหรอค่ะในออสเตรเลีย และเวลาเราทำ police check ช่วงหางาน หรือสมัครงาน มันจะขึ้นว่าเรามีคดีมั้ยหลังจบคดี พอดีเราก็ฟังทนายไม่รู้เรื่อง และช่วงทนายคุยกะเรา สามีเข้าไปฟังด้วยไม่ได้ เพราะจริงๆเค้าต้องให้เรากับสามีแยกกันชั่วคราวเพราะในใบหมายฟ้องมีคำสั่งมา แต่ตำรวจบอกไม่ต้องแยกและปล่อยให้สามีไปรับเราที่สถานีตำรวจด้วย อันนี้ก็แอบ งง วันไปขึ้นศาล ทนายสั่งสามีด้วยว่าห้ามนางไปเพราะถ้าไปนางจะโดนจับซะเอง อันนี้ก็แอบบ งง หลายๆเรื่อง 
        ขอบคุณผู้รู้ที่เข้ามาตอบด้วยนะคะ จะได้เป็นประสบการณืความรู้ ให้คนที่อาศัยอยู่ต่างบ้านต่างเมืองด้วย 
ขอบพระคุณมากๆค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
มีทนายแล้ลองปรึกษาทนายดูหรือ Law Society แต่ล่ะรัฐก็ได้ครับ /ทนายประมุข
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่