เดือนเมษายนเต็มไปด้วยเกมแข่งขัน โปรแกรมอัดแน่นที่พร้อมให้ตำแหน่งผู้นำหัวตารางเปลี่ยนแปลงทุกสามสี่วัน ความท้าทายจากโมเมนตัมในเกมและแผนการในโค้งสุดท้าย

สามเกมหลังเบรกทีมชาติเลสเตอร์เก็บได้ 6 จาก 9 คะแนน การพ่ายแพ้บริสตัลพร้อมกับหลุดจากอันดับหนึ่งเลสเตอร์แสดงให้เห็นว่าสภาพจิตใจเขาแข็งแกร่งแค่ไหนในเกมกับนอริช นอริชเป็นทีมสุดท้ายในอันดับเพลย์ออฟ พวกเขาจริงจังกับเกมเพื่อหนีห่างโคเวนทรีในอันดับเจ็ดไปจนถึงอันดับสิบอย่างเพรสตัน

บางทีมมีเกมในมือ 5 เกม 6 เกม หรือ 7 เกม ดังนั้นคือ 15 แต้ม 18 แต้ม 21 แต้ม ให้ช่วงชิง 1 เกมที่ผ่านไปสามารถนำพาการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของแชมเปียนชิปได้ ในเวลาที่ทีมมีลุ้นพวกเขาจะสู้เต็มที่งัดเอาทุกอย่างออกมา ขณะเดียวกันทีมที่สถานการณ์หมิ่นเหม่เขาอาจจะหมอบรอเวลาเพื่อเก็บเรี่ยวแรงไว้ใช้ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดอย่างเพลย์ออฟ

หากดูการแข่งขัน 5 นัดหลังสุดของนอริชจนถึงเกมกับอิปสวิชเมื่อวาน พวกเขาชนะ 4 ครั้ง นอกจากเลสเตอร์แล้วชนะหมด นั่นทำให้ตำแหน่งของเขาค่อนข้างดี หนีห่างจากอันดับเจ็ดอย่างโคเวนทรีได้ 4 แต้ม ทว่าโคเวนทรีแข่งน้อยกว่า 1 นัด ใครเจอกับโคเวนทรีช่วงนี้เหนื่อยหมดเพราะนัดล่าสุดก็เพิ่งจัดการลีดส์ได้ ช่วงเวลาของเดือนเมษาจึงดุเดือดมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชัยชนะของเลสเตอร์ที่มีต่อนอริชในช่วงเวลาสำคัญของทั้งสองทีมจึงสวยงาม

นอริชออกนำไปก่อน แฟนบอลใจหายวาบ หลายคนคงนึกในใจว่าเอาแล้วไง เลสเตอร์ที่เคยนำอันดับสองเป็นสิบแต้มเคยสะดุดรัวมาหลายครั้ง การเกิดความคิดเลวร้ายขึ้นมามันไม่แปลก ทว่าเลสเตอร์ยังคงใจเย็น เล่นในเกมของตัวเอง จากนั้นทำประตูได้ จบครึ่งแรกเสมอกันที่ 1-1

ในครึ่งหลังในที่สุดเลสเตอร์ก็สามารถออกนำสำเร็จ นาทีที่ 61 จากมาวิดีดี้ เสียงเฮลั่นและกลายเป็นเกมที่ยาวนานอีกกว่าสามสิบนาที ช่วงเวลาออกนำนอกจากความยินดีแล้วก็เป็นความกังวล นำหนึ่งลูกได้สามคะแนน แต่ถ้าถูกยิงก็จะเหลือหนึ่งคะแนน สถานการณ์อาจไม่ได้เร่งเร้ามากแต่กองเชียร์เลสเตอร์คงมีความกังวลอยู่ในใจและคิดว่านักเตะเองก็เช่นกัน 

แม้จะใจเย็น เล่นตามเกมของตัวเอง แต่ช่วงเวลาที่ผ่านไปก็ยิ่งกดดันมากขึ้น หากถูกตีเสมอเวลาที่จะเอาคืนก็จะยิ่งเหลือน้อย เลสเตอร์เจอลูกผีจับยัดมาหลายรอบทำให้เสียคะแนนที่ควรได้ไปหลายครั้ง ความรู้สึกแบบนั้นเหมือนมันจ่อคอหอยอยู่ นอริชเองก็พยายามเร่งเกม ทำแต้มเพื่อให้ตัวเองได้เล่นในเพลย์ออฟพวกเขาจึงเอาจริงเอาจังตลอดเวลา

นาทีที่ 90+3 วาร์ดี้ปลดล็อกความรู้สึกพวกนั้นด้วยการยิงประตูที่สามให้เลสเตอร์ นักเตะและแฟนบอลต่างรู้สึกว่าตัวเองได้รับการปลดปล่อยจากความทรมาน มันไม่ใช่แค่การยิงอีกหนึ่งลูก ถ้าดูจากสถานการณ์ที่เลสเตอร์เผชิญหน้าลูกยิงลูกนั้นปลดปล่อยเลสเตอร์จากแรงกดดันและสร้างโมเมนตัมใหญ่ของทีม

นัดถัดมาเลสเตอร์เก็บสามแต้มได้อีกครั้ง สภาพจิตใจนักเตะแข็งแกร่ง แต่เกมอึดอัดอย่างมาก เบอมิงแฮมอยู่ท้ายตาราง แต่คนดูบอลทราบดีว่าการเจอทีมท้ายตารางที่กำลังจะตกชั้นในช่วงท้ายฤดูกาลมันน่ากลัวแค่ไหน สภาพหลังชนฝาทำให้พวกเขาพร้อมโค่นทุกทีมได้ตลอดเวลา

และการปลดล็อกสำเร็จอีกครั้ง มาวิดิดี้ในนาทีที่ 87 หลังเสมอกันที่ 1-1 มานานในที่สุดเลสเตอร์ก็ขึ้นนำสำเร็จ เกมนี้ไม่อึดอัดเท่าเกมนอริช เวลาเหลือไม่มาก แม้แต่กองเชียร์ยังรู้สึกได้ว่าสภาพจิตใจตัวเองยังดี ความดันไม่ขึ้น นำหนึ่งประตูของเกมนี้เลสเตอร์ปิดเกมได้สำเร็จ ขึ้นมาอยู่อันดับหนึ่งในตารางอีกครั้งโดยที่มีเกมน้อยกว่าอิปสวิชและลีดส์ 1 เกม

ปัจจัยพิเศษของโค้งสุดท้ายอย่างเซาแฮมป์ตันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา พวกเขาเหลือ 7 เกม อยู่ห่างจากอันดับสองมากถึง 12 แต้ม ดูเกมที่เหลือก็ไม่น่าจะหลุดจากเพลย์ออฟ ตำแหน่งอิหลักอิเหลื่อนี้ทำให้เซาแฮมป์ตันอาจจะเลือกเก็บแรงในการเลื่อนชั้น อย่างไรก็ตามความผิดพลาดของอิปสวิชกับลีดส์ก็ดูยั่วยวนอยู่บ้าง หากเขาชนะได้สองเกมแล้วทีมอื่นยังพลาดอีกสักสองนัด โมเมนตัมของการแข่งขันโค้งสุดท้ายจะเปลี่ยนไป ลีดส์กับเลสเตอร์จะเผชิญหน้ากับเซาต์อีกทีมละนัด ดังนั้นความผิดพลาดของลีดส์กับอิปสวิชหากเกิดขึ้นอีกจะส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจการเข้าร่วมเกมช่วงชิงโค้งสุดท้ายของเซาต์เช่นกัน อย่างไรก็ตามแชมเปียนชิปนั้นโมเมนตัมของเกมมันบ้ามาก อาจสามารถช่วยให้ทีมทีมหนึ่งชนะต่อกันจนจบฤดูกาลเลยก็ได้ถ้าพวกเขามีความมั่นใจ

เลสเตอร์อาจจะเจอเกมหนักหรืออาจจะไม่หนักก็ได้ เพรสตันในเวลานี้ยังมีลุ้นเพลย์ออฟแม้อยู่อันดับสิบ โชคดีที่เจอกับอีกฝ่ายในนัดเกือบสุดท้ายหากสถานการณ์กำหนดแน่นอนแล้วว่าตามไม่ทันพื้นที่เพลย์ออฟเพรสตันจะกลายเป็นเกมที่ไม่หนักมาก แต่ถ้าพวกเขามีลุ้นมันจะเป็นเกมที่ลำบากแน่นอน เช่นเดียวกับการเจอเซาต์แฮมป์ตัน โปรแกรมที่จะเจอกับพลีมัธในสองนัดถัดไปก็ประมาทไม่ได้ พลีมัธอยู่อันดับที่ 19 แต่ห่างจากโซนตกชั้นแค่ 2 คะแนน ถ้านัดหน้าพลีมัธชนะร็อตเธอแฮมที่คงลุ้นรอดยากแล้วได้สำเร็จและผลการแข่งขันทีมที่หนีตกชั้นด้วยกันไม่ดี เกมกับเลสเตอร์ไม่อยู่ในสถานการณ์หลังชนฝาแบบนั้นคงดีกับเลสเตอร์มากกว่า

ในขณะนี้เลสเตอร์ต้องการ 103 คะแนนการันตีการเลื่อนชั้น ต้องการชัยชนะ 5 จาก 6 นัด แม้จะพลาดได้ 1 นัดแต่คิดว่าเวลานี้เลสเตอร์น่าจะมองถึงการทำงานให้สำเร็จก่อนนัดสุดท้ายของฤดูกาลมากกว่า การคิดว่าตัวเองพลาดได้นั้นทำให้พวกเขาพลาดจริงๆ มาเยอะแล้ว อันดับสองและสามอย่างอิปสวิชกับลีดส์เองก็ต้องการชัยชนะเช่นกันเนื่องจากสถานการณ์ของพวกเขาหลังพิงฝาทั้งคู่ การขับเคี่ยวสามทีม มีเพียงสองทีมที่จะเลื่อนชั้นอัตโนมัติและเพลย์ออฟเป็นงานหนักแน่ๆ ที่น่ากลัวตอนนี้เป็นทีมอย่างเซาต์แฮมป์ตันที่อาจจะเลือกพักรอใส่เต็มก็ได้ การหล่นไปเพลย์ออฟไม่ว่าทีมใดก็ตามในช่วงเวลานี้แม้พวกเขาจะทำได้ดีมาทั้งฤดูกาลก็ไม่ได้การันตีว่าเขาจะได้เลื่อนชั้นตามทีมอับดับหนึ่งและสองได้สำเร็จ