เห็นมีหลายคนมากๆ แล้วผุดขึ้นมาทุกวันไม่มีวันจบสิ้น
พอจะเริ่มลดน้ำหนัก ก็คิดจะทำ IF แล้วคิดว่าสิ่งนี้ มันคือวิธีการลดน้ำหนัก
จริงๆแล้ว สาเหตุที่เป็นแบบนี้ เพราะคนส่วนใหญ่ ขี้เกียจที่จะออกกำลัง เลยคิดว่า ทำ IF แค่อดอาหารเอง ทำแล้วลดความอ้วนได้ด้วย ทำ IF ดีกว่า
ซึ่งถ้าคุณคิดแบบนี้ตั้งแต่เริ่มลดน้ำหนัก คุณก็มีโอกาสไม่สำเร็จไปแล้วพอสมควร เพราะการทำ IF แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคน ที่ทำให้ลดน้ำหนักและสุขภาพดีได้ทุกคน
เพราะปัจจัยหลัก มันไม่ใช่แค่กินอาหารเป็นเวลา(หรือกินน้อยลง) คือมันต้องดูที่สารอาหารด้วย จริงๆต้องบอกว่า มันต้องดูสารอาหารเป็นหลัก ดูว่าสิ่งที่กิน มีประโยชน์มากแค่ไหน
ของบางอย่างแคลเยอะ แต่สารอาหารมันสูง มันก็คุ้มค่าแก่การกิน (แม้ว่าจะกินได้ไม่เยอะ แต่มันก็กินได้ครับ)
สาเหตุที่คุณอ้วนคืออะไร ไม่ใช่เพราะชอบกินของหวานหรอกหรือ ต่อให้พยายามทำ IF แต่ยังเป็นคนติดหวานอยู่ สุดท้ายก็อ้วนอยู่ดีเพราะติดหวาน หรือไม่ก็สุขภาพแย่ เพราะกินแต่แป้งจนอิ่ม ไม่ได้กินสารอาหารอื่น
สุดท้าย มันก็ต้องเริ่ม จากการกินคลีนก่อนอยู่ดี มันไม่มีทางอื่น จริงๆแล้วมนุษย์เราเกิดมาเพื่อกินคลีนเลยก็ว่าได้
และถ้าคุณกินคลีน กินดีมากพอ การออกกำลังกายของคุณก็ง่ายขึ้นมาก เพราะสารอาหารมันเพียงพอ
หรืออย่างน้อย ถ้าไม่ออกกำลัง การใช้ชีวิตปรกติของคุณ มันจะทำให้คุณเป็นคนแอคทีฟมากขึ้น ซึ่งนั่นแปลว่า มีแนวโน้วจะใช้พลังงานมากขึ้น หรือคุณจะผอมลงง่ายขึ้นนั่นเอง
เคยสังเกตุไหม ทำไมบางคนมันแอคทีฟกับชีวิตจัง คนพวกนั้น กินอาหารดี หรือไม่ก็ เป็นคนที่มีแนวคิด เชิงบวกนั่นแหละ
สิ่งที่ผมอยากจะบอก แบบสรุปคือ
1. ไม่ต้องทำifก็ได้ เน้นกินอาหารคลีนเป็นหลัก (ไม่ใช่ว่าห้ามกินขนม กินได้แน่นอน แล้วยิ่งสมัยนี้ ขนมดีๆมันมีเยอะ ถ้าเลือกเป็น)
2. อย่าเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย เพราะนั่นมันคือจุดเริ่มต้น ของการผอมยาก ให้คิดว่าอยากจะออก แต่ออกเบาๆ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
3. ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งใดมากขนาดนั้น มันทำให้เครียด นอนยาก ถ้าเราไม่เครียด เราก็จะมีแนวโน้ม ทีไม่สะสมไขมันมากขึ้น (ยกตัวอย่าง วัยรุ่นสมัยนี้ ยึดติดความรัก และเพื่อนมากไป ส่วนใหญ่ เสพยา กินน้ำท่อม แว้นรถ ไม่รู้ว่า ทำไปเพื่ออะไร)
4. if สามารถทำได้ มนุษย์เรา ไม่ได้เกิดมา เพื่อกิน3มื้อด้วยซ้ำครับ
*** ถึงผมจะบอกว่า if ไม่ใช่การลดความอ้วน แต่ผมก็ทำนะ แต่ผมทำเพราะ บางครั้ง ตื่นเช้าแล้วไม่หิว แล้วแรงผมยังมี ผมไม่อยากกินข้าว ผมก็ไม่กิน (อันนี้ นานๆที)
แต่ถ้าตื่นมา แล้วอยากออกกำลัง ผมก็กินกล้วยสักหน่อย
เห็นไหม ร่างกายคนเรา ของแต่ละคน มันต่างกันมากๆ อย่าไปยึดติด กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ว่าต้องทำแบบนี้นะ ถึงจะลด ห้ามทำแบบนั้นนะ มันไม่ดี
เหมือนกับการทำif เพราะมันไม่ใช่การลดความอ้วนแน่นอน
การลดความอ้วนคือ กินน้อยกว่าที่ใช้ และเราต้องมั่นใจ ว่าสิ่งที่กิน สารอาหารมันพอไหม ร่างกายเราอยู่ด้วยสารอาหารเหล่านั้น
ทำไมคนบางคนสวย ผิวดี เพราะกินผักผลไม้เยอะ นั่นแหละครับ
เมื่อไหร่ คนจะเลิกคิดกันสักที ว่า IF มันไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วลดน้ำหนัก
พอจะเริ่มลดน้ำหนัก ก็คิดจะทำ IF แล้วคิดว่าสิ่งนี้ มันคือวิธีการลดน้ำหนัก
จริงๆแล้ว สาเหตุที่เป็นแบบนี้ เพราะคนส่วนใหญ่ ขี้เกียจที่จะออกกำลัง เลยคิดว่า ทำ IF แค่อดอาหารเอง ทำแล้วลดความอ้วนได้ด้วย ทำ IF ดีกว่า
ซึ่งถ้าคุณคิดแบบนี้ตั้งแต่เริ่มลดน้ำหนัก คุณก็มีโอกาสไม่สำเร็จไปแล้วพอสมควร เพราะการทำ IF แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคน ที่ทำให้ลดน้ำหนักและสุขภาพดีได้ทุกคน
เพราะปัจจัยหลัก มันไม่ใช่แค่กินอาหารเป็นเวลา(หรือกินน้อยลง) คือมันต้องดูที่สารอาหารด้วย จริงๆต้องบอกว่า มันต้องดูสารอาหารเป็นหลัก ดูว่าสิ่งที่กิน มีประโยชน์มากแค่ไหน
ของบางอย่างแคลเยอะ แต่สารอาหารมันสูง มันก็คุ้มค่าแก่การกิน (แม้ว่าจะกินได้ไม่เยอะ แต่มันก็กินได้ครับ)
สาเหตุที่คุณอ้วนคืออะไร ไม่ใช่เพราะชอบกินของหวานหรอกหรือ ต่อให้พยายามทำ IF แต่ยังเป็นคนติดหวานอยู่ สุดท้ายก็อ้วนอยู่ดีเพราะติดหวาน หรือไม่ก็สุขภาพแย่ เพราะกินแต่แป้งจนอิ่ม ไม่ได้กินสารอาหารอื่น
สุดท้าย มันก็ต้องเริ่ม จากการกินคลีนก่อนอยู่ดี มันไม่มีทางอื่น จริงๆแล้วมนุษย์เราเกิดมาเพื่อกินคลีนเลยก็ว่าได้
และถ้าคุณกินคลีน กินดีมากพอ การออกกำลังกายของคุณก็ง่ายขึ้นมาก เพราะสารอาหารมันเพียงพอ
หรืออย่างน้อย ถ้าไม่ออกกำลัง การใช้ชีวิตปรกติของคุณ มันจะทำให้คุณเป็นคนแอคทีฟมากขึ้น ซึ่งนั่นแปลว่า มีแนวโน้วจะใช้พลังงานมากขึ้น หรือคุณจะผอมลงง่ายขึ้นนั่นเอง
เคยสังเกตุไหม ทำไมบางคนมันแอคทีฟกับชีวิตจัง คนพวกนั้น กินอาหารดี หรือไม่ก็ เป็นคนที่มีแนวคิด เชิงบวกนั่นแหละ
สิ่งที่ผมอยากจะบอก แบบสรุปคือ
1. ไม่ต้องทำifก็ได้ เน้นกินอาหารคลีนเป็นหลัก (ไม่ใช่ว่าห้ามกินขนม กินได้แน่นอน แล้วยิ่งสมัยนี้ ขนมดีๆมันมีเยอะ ถ้าเลือกเป็น)
2. อย่าเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย เพราะนั่นมันคือจุดเริ่มต้น ของการผอมยาก ให้คิดว่าอยากจะออก แต่ออกเบาๆ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
3. ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งใดมากขนาดนั้น มันทำให้เครียด นอนยาก ถ้าเราไม่เครียด เราก็จะมีแนวโน้ม ทีไม่สะสมไขมันมากขึ้น (ยกตัวอย่าง วัยรุ่นสมัยนี้ ยึดติดความรัก และเพื่อนมากไป ส่วนใหญ่ เสพยา กินน้ำท่อม แว้นรถ ไม่รู้ว่า ทำไปเพื่ออะไร)
4. if สามารถทำได้ มนุษย์เรา ไม่ได้เกิดมา เพื่อกิน3มื้อด้วยซ้ำครับ
*** ถึงผมจะบอกว่า if ไม่ใช่การลดความอ้วน แต่ผมก็ทำนะ แต่ผมทำเพราะ บางครั้ง ตื่นเช้าแล้วไม่หิว แล้วแรงผมยังมี ผมไม่อยากกินข้าว ผมก็ไม่กิน (อันนี้ นานๆที)
แต่ถ้าตื่นมา แล้วอยากออกกำลัง ผมก็กินกล้วยสักหน่อย
เห็นไหม ร่างกายคนเรา ของแต่ละคน มันต่างกันมากๆ อย่าไปยึดติด กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ว่าต้องทำแบบนี้นะ ถึงจะลด ห้ามทำแบบนั้นนะ มันไม่ดี
เหมือนกับการทำif เพราะมันไม่ใช่การลดความอ้วนแน่นอน
การลดความอ้วนคือ กินน้อยกว่าที่ใช้ และเราต้องมั่นใจ ว่าสิ่งที่กิน สารอาหารมันพอไหม ร่างกายเราอยู่ด้วยสารอาหารเหล่านั้น
ทำไมคนบางคนสวย ผิวดี เพราะกินผักผลไม้เยอะ นั่นแหละครับ