เคล็ดลับพา Gen Z ไปหาหมอ

วันนี้ตอนเที่ยงเพิ่งเป็นเพื่อนลูกชาย GEN Z กำลังเรียนมหาลัยปี 4 ไปหาหมอภูมิแพ้มาครับ
เสียเงินไปหลายพันเหมือนกันแต่น่าจะคุ้มถ้าลูกดีขึ้นจากอาการภูมิแพ้ไรฝุ่น
กำลังคิดอยู่ว่าจะเล่าให้ฟังในมุมไหนดี น่าจะมีประโยชน์กับพ่อแม่ยุคนี้

3-4 ปี ที่ผ่านมาตั้งแต่ก่อนโควิดหาหมอทั้ง รพ.โรงเรียนแพทย์ รพ.เอกชนหลายแห่ง
เสียเงินไปหลายหมื่นเอาไม่อยู่สักทีได้มาแต่ยาทาสเตียรอยด์ ยาแก้แพ้
เหมือนงมเข็มในมหาสมุทรฯ เพราะเจ้าตัวดีไม่ค่อยให้ความร่วมมือเลย
วันๆ คุณแม่จ๋าจอมจุ้นได้แต่โวยวายว่า เกาจนแผลเป็นเต็มตัวเลย

ตอนแรกก็คิดว่าจะทำไงดี ถ้าเจอหมอสั่งแต่ยาแก้แพ้กับยาทาผสมสเตียรอยด์ให้อีก
จนมาเจอหมอวันนี้มันเหมือนเกาถูกที่คัน คือ หมอภูมิแพ้ที่คุยกับเด็กรู้เรื่อง คนนี้มีวิธีคุยกับเด็ก Gen Z อ่ะ
อธิบายละเอียดแล้วบอกว่าต้องไปหาหมอผิวหนังอีกคน เอาคนที่คุยภาษาวัยรุ่นรู้เรื่องหน่อย

"หมอสั่งยาเป็นหมอผิวหนังที่คุยภาษาวัยรุ่น" 

โป๊ะเช๊ะ ... ใช่เลย เจอคุณหมอผิวหนังผู้หญิง หมอบอกเลยยังต้องทาสเตียรอยด์อีกนิดนึงนะ
แต่มีวิธีการพูดที่ฟังทันสมัยสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ถ้าหมอทำไฮไลท์ผมจะไม่แปลกใจเลย 555
แล้วบอกให้ลงไปที่ช็อปขายครีมบำรุงผิวยี่ห้อดังข้างล่าง ให้ไปซื้อครีมบำรุงผิวสั่งให้ทาวันละ 3 เวลา
หมอบอกว่า 7-10 วันก็น่าจะดีขึ้น แค่อาบน้ำแล้วทาโลชั่นไม่ให้ผิวแห้งก็หาย

ออกมาจากห้องหมอ ไอ้ตัวดียกนิ้วเลยบอกที่ผ่านมาพ่อแม่พาไปหาหมอ เจอแต่หมอแก่ๆ คุยไม่รู้เรื่อง 555

ปล...เจอค่าสบู่เหลว+โลชั่นแบบไม่ผสมน้ำหอม ตรงสเป็คเจ้าตัวแสบไปอีก 2 ขวด ไปอีก 1500
เบ็ดเสร็จวันนี้ฟาดเคราะห์ไปกว่าสี่พัน แต่ผมว่ารอบนี้น่าจะรักษาตรงจุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่