แกงไตปลา: อันดับหนึ่ง "อาหารยอดแย่" ของโลก?

แกงไตปลา อาหารพื้นบ้านของคนภาคใต้ถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 จาก 100 เมนูยอดแย่ ประเภทส่วนผสมและร้านอาหาร จากเว็บไซต์ TasteAtlas ที่รวบรวมข้อมูลอาหารจากทั่วโลก  

อันดับอื่นๆ

อันดับ 2. Hákarl จากไอซ์แลนด์
อันดับ 3. Fesikh จากอียิปต์
อันดับ 4. Yerushalmi Kugel จากอิสราเอล
อันดับ 5. Luther Burger จากสหรัฐอเมริกา
อันดับ 6. Pani ca meusa จากอิตาลี
อันดับ 7. Jellied Eels จากอังกฤษ
อันดับ 8. Calskrove จากสวีเดน
อันดับ 9. Peladillas จากสเปน
อันดับ 10. Smalahove จากนอร์เวย์

TasteAtlas ระบุว่า แกงไตปลา ผสมด้วยปลาหมักไตปลา กะปิ มะเขือ หน่อไม้ ตะไคร้ ขมิ้น และหอมแดง มีต้นกำเนิดจากภาคใต้ของไทย ถึงแม้จะมีกลิ่นหอมฉุน แต่คนใต้ยืนยันว่ารสชาติถูกปากถูกลิ้น เมื่อรับประทานคู่กับข้าวสวย
หลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์การจัดอันดับดังกล่าว ระบุว่า ไม่ควรตัดสินอาหารพื้นบ้านจากมุมมองสากล เนื่องจากแต่ละวัฒนธรรมมีรสนิยมแตกต่างกัน ชาวใต้ที่คุ้นเคยยืนยันแกงไตปลาเป็นเมนูอร่อยในบรรดาก้นครัว ที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ท้องถิ่น

ทีมข่าว TNN ร่วมค้นหาคำตอบจากมุมมองและประสบการณ์ตรงของชาวใต้ ถึงความจริงแท้เบื้องหลังแรงกระเพื่อมวิพากษ์วิจารณ์ ที่ตามมาจากการจัดอันดับแกงไตปลาให้เป็น "1 ใน 100 เมนูยอดแย่ของโลก"

จากการจัดอันดับแกงไตปลาให้เป็น "1 ใน 100 เมนูยอดแย่ของโลก" ของเว็บไซต์ TasteAtlas นั้นได้ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะจากชาวใต้ผู้ซึ่งรักและภูมิใจในเอกลักษณ์อาหารพื้นบ้านรสเด็ดของตน การจัดอันดับนี้ไม่เพียงแค่กระทบต่อรสนิยม แต่ยังสะเทือนไปถึงความผูกพันทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวใต้ ที่มีแกงไตปลาเป็นสัญลักษณ์ประจำถิ่น

แกงไตปลา มิใช่แค่อาหารธรรมดา แต่เป็นมรดกล้ำค่าที่บันทึกเรื่องราวการดำรงชีพแบบพึ่งพาธรรมชาติ และใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างชาญฉลาด อีกทั้งยังเป็นตัวเชื่อมโยงความผูกพันของชาวใต้กับรากเหง้า ความทรงจำ และจิตวิญญาณดั้งเดิม การจัดอันดับดังกล่าวจึงเป็นการ ขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในคุณค่าแท้จริงของ แกงไตปลา ต่อวิถีชีวิตชาวใต้

แกงไตปลา: กลิ่นหอมแห่งรากเหง้า สายสัมพันธ์ ความเป็นใต้

แกงไตปลา มีความหมาย มากกว่าแค่เมนูอาหาร มันคือสายสัมพันธ์ที่ผูกพันชาวใต้เข้ากับรากเหง้าและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม กลิ่นหอมเฉพาะตัวของไตปลาหมักเป็นเสมือนกลิ่นแห่งบ้านเกิด ที่ปลุกความรู้สึกคุ้นเคยและอบอุ่นในใจชาวใต้ทุกคน แกงไตปลา จึงไม่ใช่แค่จานอาหารธรรมดา แต่เป็นพาหนะสำคัญในการเชื่อมโยงชาวใต้กับความทรงจำวัยเด็ก ขนบธรรมเนียมประเพณี และรากฐานทางวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกในดวงจิต 

ในทุกคำนิยามของคำว่า "บ้าน" สำหรับชาวใต้ ย่อมมีกลิ่นหอมจากครัวแกงไตปลาแวดล้อมอยู่เสมอ มันคือตัวแทนของความอบอุ่น ความเป็นกันเอง และสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในครอบครัว กลิ่นหอมนี้ดึงดูดให้ลูกหลานกลับมารวมญาติ หลังจากไปทำงานไกล มันช่วยหล่อหลอมความเป็นปึกแผ่นของสังคมใต้ ผ่านการแบ่งปันของชาวบ้าน เวลาที่นั่งล้อมวงกันทานข้าวอร่อยจาก แกงไตปลา จึงมีความหมายมากกว่าแค่เติมพลังงานให้ร่างกาย แต่เป็นการเติมเต็มพลังของจิตใจและสานสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและรากเหง้า

➤ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม: อาหารแต่ละภูมิภาคมีเอกลักษณ์และรสชาติที่แตกต่างกัน การจัดอันดับจากมุมมองสากล อาจไม่เข้าใจบริบททางวัฒนธรรม
➤ ภูมิปัญญาท้องถิ่น: แกงไตปลา เป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมายาวนาน สะท้อนให้เห็นถึงความฉลาดในการถนอมอาหาร และการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบท้องถิ่น
➤ ความผูกพัน: แกงไตปลา เป็นอาหารที่ชาวใต้คุ้นเคย ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เป็นเสมือน comfort food ที่สร้างความอบอุ่นใจ ช่วยปลอบประโลมจิตใจได้เป็นอย่างดี 

ส่วนผสมหลักของแกงไตปลา อย่างไตปลาหมัก หน่อไม้ กะปิ และเครื่องเทศต่างๆ นั้น ล้วนสะท้อนให้เห็นภูมิปัญญาในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรท้องถิ่น เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีรสชาติเข้มข้น แต่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการ แกงไตปลาจึงเป็นการบันทึกวิธีการดำรงชีวิตแบบพอเพียงที่ชาวใต้สั่งสมมาเป็นเวลานาน
รสนิยมทางอาหาร: โลกที่หลากหลายไร้สูตรสำเร็จ

รสนิยมทางอาหารเป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล มีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อความชอบและรสนิยมในอาหารของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานทางวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมในการเติบโต ประสบการณ์และความคุ้นเคย ตลอดจนปัจจัยด้านพันธุกรรมและจิตวิทยา ความหลากหลายนี้เองที่ทำให้บางคนรังเกียจสิ่งที่คนอื่นถือว่าเป็นอาหารอร่อย และในทางกลับกัน บางคนอาจถูกดึงดูดด้วยอาหารที่ผู้อื่นมองว่าน่าเกลียด

ไม่มีสูตรสำเร็จเดียวกันสำหรับการประเมินรสชาติ เพราะรสชาติดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมที่หลากหลายของแต่ละคน ความชื่นชอบในอาหารคือเรื่องส่วนบุคคล มาจากการรับรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน สิ่งที่ดูแปลกประหลาดสำหรับบางคน อาจเป็นความคลาสสิกและน่าปรารถนาสำหรับคนอื่น รสชาติที่หนึ่งถือว่าดี อีกคนอาจมองว่าเลวร้ายที่สุด ความหลากหลายนี้เองที่ทำให้โลกของอาหารมีสีสัน

ดังนั้น ไม่ควรตัดสินอาหารหรือท้าทายความชื่นชอบของใคร ความแตกต่างทางรสนิยมสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของมนุษย์ สิ่งสำคัญคือการเคารพความแตกต่าง รับฟังและเปิดใจที่จะเรียนรู้จากกันและกัน ด้วยความเข้าใจและการยอมรับความหลากหลายนี้ โลกของอาหารจะยิ่งสดใสและน่าสนใจยิ่งขึ้น

ร่วมอนุรักษ์แกงไตปลา: มรดกล้ำค่า คู่วิถีชาวใต้

ในปัจจุบัน วิถีชีวิตสมัยใหม่ได้ทำให้ประเพณีปรุงและบริโภคอาหารแบบดั้งเดิมเริ่มเลือนหายไปจากภาคใต้ ด้วยเหตุนี้ การอนุรักษ์แกงไต ปลาจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญ เพื่อไม่ให้ภูมิปัญญา จิตวิญญาณ และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่านี้สูญหายไปจากแผ่นดินใต้ การส่งต่อแกงไตปลาสู่คนรุ่นหลังนอกจากจะเป็นการธำรงรักษามรดกทางวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างกัน อันจะนำไปสู่การเคารพในความหลากหลายของรสนิยม

ด้วยเหตุผลดังกล่าว แกงไตปลาจึงไม่ใช่แค่อาหารธรรมดา แต่เป็นหนึ่งในมรดกล้ำค่าของแผ่นดินใต้ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่คู่วิถีชาวใต้สืบไป

แม้รสชาติเฉพาะตัวของ แกงไตปลา จะดูแปลกประหลาดสำหรับบางคน แต่สำหรับชาวใต้แล้ว มันคือรสชาติแห่งบ้าน ความทรงจำ และสายสัมพันธ์ที่ผูกพันพวกเขาเข้ากับรากเหง้า ซึ่งหากมองในมุมกว้าง แกงไตปลาก็เป็นเพียงหนึ่งในอาหารรสเด็ดที่สะท้อนอัตลักษณ์ของคนใต้ได้อย่างชัดเจน 

อาหารไทยภาคใต้ มีเสน่ห์ดึงดูดใจผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยรสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้านจากพริกสด เปรี้ยวจากน้ำส้มคั้นสด และกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากเครื่องเทศท้องถิ่น เมนูอาหารเหล่านี้ไม่เพียงนำเสนอประสบการณ์ทางรสชาติที่น่าประทับใจ แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตริมทะเลและวัฒนธรรมผสมผสานอันหลากหลายของคนใต้ 

ดังนั้น การอนุรักษ์และส่งต่ออาหารไทยภาคใต้สู่คนรุ่นหลัง จึงไม่ใช่แค่การรักษาเอกลักษณ์ทางอาหาร แต่เป็นการธำรงไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า พร้อมกับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน เพื่อสร้างความเข้าใจและเห็นคุณค่าของความหลากหลายบนแผ่นดินเดียวกัน

ภาพ :  Getty Images
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tnnthailand.com/news/tnnexclusive/164050/
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ สวนกระแส! ‘แกงไตปลา’ ขายดี แม้ติดอันดับ 1 เมนูยอดแย่โลก