สวัสดีชาว พันทิปุเรี่ยน
วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การทำธุรกิจให้ปัง
โดยใช้เงินทุนเริ่มต้นที่ 2 หมื่นบาท
สู่การเป็นร้านติ่มซำ และอาหารเช้ายอดนิยมใน จ.สุพรรณบุรี #ติ่มซำสุพรรณ
เริ่มแรกเราเป็นอดีตพนักงานบริษัทเอกชนค่ะ ทำงานสายข่าวมา 5 ปี
เมื่อปี 2565 เราตั้งท้องและจะเกษียรตัวเองมาเลี้ยงลูก full time และสามีจะเป็นคนออกไปทำธุรกิจร้านอาหารเพื่อหารายได้เข้าบ้านแค่คนเดียว
ต่อมาธุรกิจของสามีเริ่มซบเซา เลยขอให้เราออกมาช่วยทำร้านอาหาร เพราะเราพอจะทำอาหารได้
เงินทุนที่เราใช้ก่อตั้งร้านคือ 22,000 บาท เป็นเงินที่เราไปทวงหนี้มาจากพี่สาวได้
- [ ] เริ่มแรกที่ร้านเราเริ่มจากมีโต๊ะแค่ 7 ตัว เตาไฟฟ้าเล็กๆ ใช้นึ่งติ่มซำ ตู้แช่ติ่มซำก็ใช้ตู้เค้กจากร้านคาเฟ่ที่เลิกไป แล้วค่อยๆ เอาเงินที่ขายได้มาซื้ออุปกรณ์เพิ่ม
ด้วยความที่ร้านรูปแบบที่เราทำจะยังไม่มีในสุพรรณ ซึ่งเป็นเมืองรองเล็ก ๆ เศรษฐกิจไม่ได้เฟื่องฟู ไม่มีร้านอาหารเช้าที่ติ่มซำนึ่งสด รูปแบบเหมือนทางใต้แบบที่เราทำ ตอนนั้นลูกค้าค่อนข้างตื่นตาตื่นใจกับอาหารร้านเรา
บวกกับเรามีน้ำจิ้ม Sinature ที่ปรับเปลี่ยนจากสูตรส้มเจื้องเมืองตรัง ให้เข้ากับลิ้นคนสุพรรณ และพื้นที่ภาคกลาง ไม่หวานโดด เปรี้ยวโดด เค็มโดด คือปรับให้ออกมากลมกล่อม จิ้มได้กับทุกเมนูแม้แต่ใส่ในซุปบักกุ๊ดเต๋ของที่ร้านก็เข้ากัน
พอร้านเราเป็นที่รู้จัก จากเพจดัง ๆ ที่นำร้านเราไปรีวิว และลูกค้าทั่วไปที่บอกต่อ ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ลูกค้ามาเพิ่มเรื่อย ๆ เราก็นำกำไรที่ขายได้ค่อย ๆ เพิ่มอุปกรณ์ขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับคนได้มากขึ้น
ปัจจุบันมีโต๊ะให้ลูกค้านั่งได้ 30 โต๊ะ เตาติ่มซำ 3 เตา จนมีคนบอกว่าร้านเราเป็นร้านดัง เพราะมีคนทั้งจากในสุพรรณเอง และจากจังหวัดรอบข้างมากมาย ขับรถทางไกลมาเพื่อกินติ่มซำที่ร้านเราโดยเฉพาะ
ร้านเราเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ค่อย ๆ เติบโตมาจากการลงทุนด้วยเงินเล็กๆ น้อย ๆ ก้อนสุดท้าย กับคำที่แปะบนหน้าผากคือ 'เจ๊งไม่ได้อีกแม้แต่ครั้งเดียว'(ก่อนหน้านี้ธุรกิจของเราและแฟน เจ๊งมารวมกัน 6 ครั้ง)
มันเลยทำให้เราสองคนต้องทุ่มเท ลงมือทำ และผ่านความยาก ลำบาก เหนื่อยแสนสาหัสก่อนจะสำเร็จได้
ที่สำคัญคือไม่หยุดพัฒนาตัวเองแม้แต่ 1 วันค่ะ
สรุป เคล็ดลับในการทำธุรกิจร้านอาหารให้ปัง (สำหรับเรา)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1.เริ่มจากความชอบ ก่อนผลกำไร - เริ่มต้นให้ตั้งคำถามเริ่มจากเราถนัดอะไร ตัวอย่างของเรา ถนัดเรื่องทำอาหาร แม้ว่าธุรกิจอาหารจะมีคนบอกว่าอาภัพ ทำให้รวยได้ยาก แต่เราก็ทำให้เกิดได้ เพราะเริ่มจากความชอบ ชอบเห็นคนกินอาหารของเราแล้วอร่อย แฮปปี้ มีรอยยิ้มกลับไป กำไรนั้นเป็นของแถม
2.หาตัวตน ความเป็นเอกลักษณ์ ในท้องที่ - ให้สำรวจพื้นที่ก่อนว่า ในจังหวัดที่เราอยู่ ยังขาดร้านอาหารแบบไหน ถ้ายังไม่มี แล้วเราเป็นร้านแรกที่มาเปิด ดีกว่าเปิดร้านอาหารในรูปแบบที่มีอยู่แล้ว ง่าย ๆ คือเป็นผู้นำ ดีกว่าเป็นผู้ตาม แต่ก็ต้องทำใจว่า ธุรกิจแบบไหนที่ทำได้ดี ย่อมตามมาด้วย 'Follower' หรือ 'imitator' อยู่แล้ว
3.เริ่มจากเล็ก ค่อย ๆ ขยายให้ใหญ่ อันนี้กูรู หลาย ๆ ท่าน มักจะแนะนำอยู่แล้ว แต่แน่นอนว่าธุรกิจไม่ว่าจะเล็กใหญ่ เจ้าของต้องผ่านความเหนื่อยแสนสาหัสมาก่อน
ถ้าเริ่มลงทุนน้อยๆ ช่วงแรกเครื่องทุ่นแรงทั้งเครื่องจักร และแรงงาน แทบไม่มี ก็ต้องอาศัยแรงกายนี่แหละ ที่จะทำทุกๆ อย่างเอง ให้ธุรกิจดำเนินไปได้ สิ่งที่คุณต้องมีคือความอดทน อดทนทั้งกับลูกน้อง และการขาดทุนบางวัน บางวันเหนื่อยมาก แต่ไม่ได้กำไรเลยก็มี ซึ่งตอนนี้ในบางวันร้านขายดีมาก แต่ไม่ได้กำไรเลยก็ยังมี
เราหวังว่า เรื่องราวของเราจะเป็นแนวทางเล็กๆ น้อย ๆ สำหรับใครที่ยังค้นหาตัวเอง ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม
แชร์ ปสก.ใช้ทุน 2 หมื่น ปั้นธุรกิจร้านติ่มซำ ให้เป็นร้านยอดฮิตในสุพรรณบุรี
วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การทำธุรกิจให้ปัง
โดยใช้เงินทุนเริ่มต้นที่ 2 หมื่นบาท
สู่การเป็นร้านติ่มซำ และอาหารเช้ายอดนิยมใน จ.สุพรรณบุรี #ติ่มซำสุพรรณ
เริ่มแรกเราเป็นอดีตพนักงานบริษัทเอกชนค่ะ ทำงานสายข่าวมา 5 ปี
เมื่อปี 2565 เราตั้งท้องและจะเกษียรตัวเองมาเลี้ยงลูก full time และสามีจะเป็นคนออกไปทำธุรกิจร้านอาหารเพื่อหารายได้เข้าบ้านแค่คนเดียว
ต่อมาธุรกิจของสามีเริ่มซบเซา เลยขอให้เราออกมาช่วยทำร้านอาหาร เพราะเราพอจะทำอาหารได้
เงินทุนที่เราใช้ก่อตั้งร้านคือ 22,000 บาท เป็นเงินที่เราไปทวงหนี้มาจากพี่สาวได้
- [ ] เริ่มแรกที่ร้านเราเริ่มจากมีโต๊ะแค่ 7 ตัว เตาไฟฟ้าเล็กๆ ใช้นึ่งติ่มซำ ตู้แช่ติ่มซำก็ใช้ตู้เค้กจากร้านคาเฟ่ที่เลิกไป แล้วค่อยๆ เอาเงินที่ขายได้มาซื้ออุปกรณ์เพิ่ม
ด้วยความที่ร้านรูปแบบที่เราทำจะยังไม่มีในสุพรรณ ซึ่งเป็นเมืองรองเล็ก ๆ เศรษฐกิจไม่ได้เฟื่องฟู ไม่มีร้านอาหารเช้าที่ติ่มซำนึ่งสด รูปแบบเหมือนทางใต้แบบที่เราทำ ตอนนั้นลูกค้าค่อนข้างตื่นตาตื่นใจกับอาหารร้านเรา
บวกกับเรามีน้ำจิ้ม Sinature ที่ปรับเปลี่ยนจากสูตรส้มเจื้องเมืองตรัง ให้เข้ากับลิ้นคนสุพรรณ และพื้นที่ภาคกลาง ไม่หวานโดด เปรี้ยวโดด เค็มโดด คือปรับให้ออกมากลมกล่อม จิ้มได้กับทุกเมนูแม้แต่ใส่ในซุปบักกุ๊ดเต๋ของที่ร้านก็เข้ากัน
พอร้านเราเป็นที่รู้จัก จากเพจดัง ๆ ที่นำร้านเราไปรีวิว และลูกค้าทั่วไปที่บอกต่อ ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ลูกค้ามาเพิ่มเรื่อย ๆ เราก็นำกำไรที่ขายได้ค่อย ๆ เพิ่มอุปกรณ์ขยายร้านให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับคนได้มากขึ้น
ปัจจุบันมีโต๊ะให้ลูกค้านั่งได้ 30 โต๊ะ เตาติ่มซำ 3 เตา จนมีคนบอกว่าร้านเราเป็นร้านดัง เพราะมีคนทั้งจากในสุพรรณเอง และจากจังหวัดรอบข้างมากมาย ขับรถทางไกลมาเพื่อกินติ่มซำที่ร้านเราโดยเฉพาะ
ร้านเราเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ค่อย ๆ เติบโตมาจากการลงทุนด้วยเงินเล็กๆ น้อย ๆ ก้อนสุดท้าย กับคำที่แปะบนหน้าผากคือ 'เจ๊งไม่ได้อีกแม้แต่ครั้งเดียว'(ก่อนหน้านี้ธุรกิจของเราและแฟน เจ๊งมารวมกัน 6 ครั้ง)
มันเลยทำให้เราสองคนต้องทุ่มเท ลงมือทำ และผ่านความยาก ลำบาก เหนื่อยแสนสาหัสก่อนจะสำเร็จได้
ที่สำคัญคือไม่หยุดพัฒนาตัวเองแม้แต่ 1 วันค่ะ
สรุป เคล็ดลับในการทำธุรกิจร้านอาหารให้ปัง (สำหรับเรา)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราหวังว่า เรื่องราวของเราจะเป็นแนวทางเล็กๆ น้อย ๆ สำหรับใครที่ยังค้นหาตัวเอง ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม