ปกติฝากเงินตู้กรุงเทพค่ะ แต่ในมือถือมีอีก 3 แอฟธนาคาร เลยคิดว่าเจอตู้ไหนก็ฝากไปก่อน แล้วค่อยโอนกลับมาธนาคารที่ใช้งานบ่อยๆ
เรื่องราวมันเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 22 มี.ค. 67 เรานับเงินเตรียมไปฝากผ่านตู้เอทีเอ็ม จำนวน 2 หมื่นบาท
และเย็นวันนั้นนัดกับลูกไว้จะไปซื้อแทปเล็ตให้ เครื่องละ 8,000 บาท
โดยให้เค้าจ่ายเอง 3,000 บาท เราออกให้ 5,000 บาท
โดยลูกให้ลูกไปถอนเงินจากบช.ออมสินเค้ามาให้เรา 3,000 บาท
ส่วนเราก็ไปกดเอทีเอ็มจากตู้ธ.ออมสินอีก 5,000 บาท
เมื่อเดินผ่านธ.กสิกร จึงคิดได้ว่า ฝากเงินทั้งหมดใส่ตู้ดีกว่า
เวลาจะจ่ายเงินกับร้าน ก็แสกนจ่ายผ่านแอฟก็ได้
เราจึงเดินย้อนกลับมาเอาเงินทั้งหมด รวมทั้งในกระเป๋าอีก 2,000 บาท
เพื่อจะได้มียอดฝากเป็นเลขกลมๆ 30,000 บาท
ซึ่งเราไม่เคยฝากเงินผ่านตู้ของกสิกรมาก่อน ไม่รู้เลยว่ามีระบบยืนตัวตนด้วย
ซึ่งเราก็ไม่ได้ติดอะไร ก็ทำไปตามระบบ จนเมื่อเอาเงินเข้าตู้ และตู้แจ้งยอดมา
26,500 บาท คืนแบงค์ 500 มาให้ 1 ใบ ซึ่งมีพับมุม เราก็หยิบออกมาทำให้มันเรียบ
ใส่เข้าไปใหม่ (ตอนนั้นก็นึกอยู่ว่า ทำไมมันแจ้งยอดแค่นี้ แต่ก็ลองดูไปก่อน ยังไงก็ต้องกดยืนยัน
ถ้ายอดยังไม่ครบ 30,000 บาท ค่อยกดยกเลิก)
เมื่อเครื่องรับแบงค์ 500 บาทคืนไป ก็แจ้งยอดมาที่ 27,000 บาท
ตอนนั้นเราก็ยืนระลึกชาติอยู่ว่า เรามั่นใจว่าใส่ไป 30,000 บาท
จากที่บ้าน 20,000 ลูก 3,000 เรา 5,000 ในกระเป๋าอีก 2,000 บาท
รวมยังไงก็ต้องได้ 30,000 บาท เราจึงมองหาปุ่มกดยกเลิก
แต่ไม่ทันจะได้ เครื่องก็ทำงานต่อโดยอัติโนมัติ สลิปแจ้งมาที่ 27,000 บาท
เราจึงเอาสลิปไปแจ้งจนท.ธนาคาร และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
จนท.โทรแจ้ง call center และขอเวลาตรวจสอบ 3-4 วันทำการ
เมื่อวันพุธ จนท.โทรมาแจ้งผลการตรวจสอบว่าเครื่องนับได้ยอด 27,000 บาท
เราก็ยืนยันว่าเราใส่ไป 30,000 บาท เพราะเงินเพิ่งถอนออกมาจากธ.ออมสิน
ก็มั่นใจแหล่ะว่า 30,000 บาท จนท.ขอกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง
วันนี้ จนท.โทรมา ยืนยันตามยอดเดิม 27,000 บาท
เราจึงสงสัยและสอบถามไปว่า ทำไมตู้ถึงไม่รอให้คนฝากกดยืนยันยอดก่อน จึงจะทำงานต่อไป
จนท.แจ้งว่า ป้องกันลค.ลืมกดยืนยัน แล้วเดินจากไปเลย ซึ่งเคยมีกรณีคนถัดไปหยิบเงินออกไป
เราก็ถามต่อว่า แล้วทำไมหน้าเครื่องถึงไม่แจ้งเตือนว่า คุณมีเวลายืนยัน 15 วินาที
หากคุณไม่ยืนยัน หรือไม่กดยกเลิก ตู้จะทำงานต่ออัติโนมัติ
ถ้ามีคำเตือนแบบนี้ เราจะรีบกดยกเลิกก่อนเลย คงไม่ยืนบวกเลข ทบทวนเหตุการณ์อยู่แบบนั้น
ก็ด้วยความตกใจด้วยแหล่ะ เงินหายไปตั้ง 3,000 บาท
เราจึงรู้สึกว่า ธนาคารทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะคนฝากยังไม่ได้ยืนยัน เหมือนถูกมัดมือชก
และในระบบการตรวจสอบเงินกับตู้นั้น พนง.ยืนยันถึงระบบตู้ฝากเงินไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน
เราเองก็ยืนยันว่าเราฝาก 30,000 แน่นอน และในระบบใดๆ ก็ตามในโลกนี้ ไม่มีอะไรปลอดภัย 100% หรอก
ไม่งั้นโลกนี้จะมีแฮกเกอร์เหรอ หรือถ้าคิดในแง่ร้ายหน่อยก็พนง.ดูแลตู้เองนั่นแหล่ะ
อาจจะตั้งระบบตัดเงินออกไปเอง หรือตอนนับเงิน ถ้าเงินเกินมาจริง ก็อาจจะเก็บไว้เอง
คือมันคิดได้ 108 วิธีที่จะทุจริต จากข่าวที่เราเห็นว่า แม้แต่พนง.เอง ก็ถอนเงินลูกค้าไปบ้าง
เงินหายไปจาก บช.บ้าง, ยักยอกเงินลค.บ้าง สารพัดข่าวที่เราเคยอ่านเจอมา
มาถึงตรงนี้ เราก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากมาเล่าประสบการณ์แย่ๆ ที่ได้รับมาจากตู้ฝากเงินของธนาคารกสิกรไทย
จะถอนเงิน และลบแอฟออกจากมือถือแล้วค่ะ ใช้อีก 2 ธนาคารที่เหลือก็ได้ค่ะ
ฝากเงินตู้กสิกรครั้งแรก ฝาก 3 หมื่น เงินหายไป 3 พัน !!!!
เรื่องราวมันเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 22 มี.ค. 67 เรานับเงินเตรียมไปฝากผ่านตู้เอทีเอ็ม จำนวน 2 หมื่นบาท
และเย็นวันนั้นนัดกับลูกไว้จะไปซื้อแทปเล็ตให้ เครื่องละ 8,000 บาท
โดยให้เค้าจ่ายเอง 3,000 บาท เราออกให้ 5,000 บาท
โดยลูกให้ลูกไปถอนเงินจากบช.ออมสินเค้ามาให้เรา 3,000 บาท
ส่วนเราก็ไปกดเอทีเอ็มจากตู้ธ.ออมสินอีก 5,000 บาท
เมื่อเดินผ่านธ.กสิกร จึงคิดได้ว่า ฝากเงินทั้งหมดใส่ตู้ดีกว่า
เวลาจะจ่ายเงินกับร้าน ก็แสกนจ่ายผ่านแอฟก็ได้
เราจึงเดินย้อนกลับมาเอาเงินทั้งหมด รวมทั้งในกระเป๋าอีก 2,000 บาท
เพื่อจะได้มียอดฝากเป็นเลขกลมๆ 30,000 บาท
ซึ่งเราไม่เคยฝากเงินผ่านตู้ของกสิกรมาก่อน ไม่รู้เลยว่ามีระบบยืนตัวตนด้วย
ซึ่งเราก็ไม่ได้ติดอะไร ก็ทำไปตามระบบ จนเมื่อเอาเงินเข้าตู้ และตู้แจ้งยอดมา
26,500 บาท คืนแบงค์ 500 มาให้ 1 ใบ ซึ่งมีพับมุม เราก็หยิบออกมาทำให้มันเรียบ
ใส่เข้าไปใหม่ (ตอนนั้นก็นึกอยู่ว่า ทำไมมันแจ้งยอดแค่นี้ แต่ก็ลองดูไปก่อน ยังไงก็ต้องกดยืนยัน
ถ้ายอดยังไม่ครบ 30,000 บาท ค่อยกดยกเลิก)
เมื่อเครื่องรับแบงค์ 500 บาทคืนไป ก็แจ้งยอดมาที่ 27,000 บาท
ตอนนั้นเราก็ยืนระลึกชาติอยู่ว่า เรามั่นใจว่าใส่ไป 30,000 บาท
จากที่บ้าน 20,000 ลูก 3,000 เรา 5,000 ในกระเป๋าอีก 2,000 บาท
รวมยังไงก็ต้องได้ 30,000 บาท เราจึงมองหาปุ่มกดยกเลิก
แต่ไม่ทันจะได้ เครื่องก็ทำงานต่อโดยอัติโนมัติ สลิปแจ้งมาที่ 27,000 บาท
เราจึงเอาสลิปไปแจ้งจนท.ธนาคาร และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
จนท.โทรแจ้ง call center และขอเวลาตรวจสอบ 3-4 วันทำการ
เมื่อวันพุธ จนท.โทรมาแจ้งผลการตรวจสอบว่าเครื่องนับได้ยอด 27,000 บาท
เราก็ยืนยันว่าเราใส่ไป 30,000 บาท เพราะเงินเพิ่งถอนออกมาจากธ.ออมสิน
ก็มั่นใจแหล่ะว่า 30,000 บาท จนท.ขอกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง
วันนี้ จนท.โทรมา ยืนยันตามยอดเดิม 27,000 บาท
เราจึงสงสัยและสอบถามไปว่า ทำไมตู้ถึงไม่รอให้คนฝากกดยืนยันยอดก่อน จึงจะทำงานต่อไป
จนท.แจ้งว่า ป้องกันลค.ลืมกดยืนยัน แล้วเดินจากไปเลย ซึ่งเคยมีกรณีคนถัดไปหยิบเงินออกไป
เราก็ถามต่อว่า แล้วทำไมหน้าเครื่องถึงไม่แจ้งเตือนว่า คุณมีเวลายืนยัน 15 วินาที
หากคุณไม่ยืนยัน หรือไม่กดยกเลิก ตู้จะทำงานต่ออัติโนมัติ
ถ้ามีคำเตือนแบบนี้ เราจะรีบกดยกเลิกก่อนเลย คงไม่ยืนบวกเลข ทบทวนเหตุการณ์อยู่แบบนั้น
ก็ด้วยความตกใจด้วยแหล่ะ เงินหายไปตั้ง 3,000 บาท
เราจึงรู้สึกว่า ธนาคารทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะคนฝากยังไม่ได้ยืนยัน เหมือนถูกมัดมือชก
และในระบบการตรวจสอบเงินกับตู้นั้น พนง.ยืนยันถึงระบบตู้ฝากเงินไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน
เราเองก็ยืนยันว่าเราฝาก 30,000 แน่นอน และในระบบใดๆ ก็ตามในโลกนี้ ไม่มีอะไรปลอดภัย 100% หรอก
ไม่งั้นโลกนี้จะมีแฮกเกอร์เหรอ หรือถ้าคิดในแง่ร้ายหน่อยก็พนง.ดูแลตู้เองนั่นแหล่ะ
อาจจะตั้งระบบตัดเงินออกไปเอง หรือตอนนับเงิน ถ้าเงินเกินมาจริง ก็อาจจะเก็บไว้เอง
คือมันคิดได้ 108 วิธีที่จะทุจริต จากข่าวที่เราเห็นว่า แม้แต่พนง.เอง ก็ถอนเงินลูกค้าไปบ้าง
เงินหายไปจาก บช.บ้าง, ยักยอกเงินลค.บ้าง สารพัดข่าวที่เราเคยอ่านเจอมา
มาถึงตรงนี้ เราก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากมาเล่าประสบการณ์แย่ๆ ที่ได้รับมาจากตู้ฝากเงินของธนาคารกสิกรไทย
จะถอนเงิน และลบแอฟออกจากมือถือแล้วค่ะ ใช้อีก 2 ธนาคารที่เหลือก็ได้ค่ะ