แค่สงสัย...การเมืองว่าอย่างนี้ มุมมองทางพุทธศาสนาว่าอย่างไร ?

การเมือง      :  ป่วยขั้นวิกฤติ ห่างหมออาจตายได้

พุทธศาสนา :  การป่วยเป็นธรรมดาของชีวิต
                        แต่ถ้าไม่ป่วย แล้วบอกว่าป่วย.. เป็นมุสาวาท
                        ผู้เกี่ยวข้องที่สนับสนุนให้เกิดมุสาวาท..ก็เป็นผู้มีศีลไม่บริสุทธิ์ตามไปด้วย

การเมือง      :  กฎหมาย และความยุติธรรมเป็นเรื่องสมมุติ

พุทธศาสนา :  กฏแห่งกรรมเป็นเรื่องจริง

การเมือง      :  ผู้คนห้อมล้อมมากมาย  เป็นสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า

พุทธศาสนา :  กรรมชั่วที่ติดตาม เรามองไม่เห็น

การเมือง      :  ขยายเวลาปิดสถานบันเทิง คาสิโนถูกกฏหมาย
                        สนับสนุนการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน

พุทธศาสนา :  ควรละเว้นมิจฉาอาชีวะ เมื่อมีโอกาสควรประกอบสัมมาอาชีวะ

การเมือง      :  อบายมุขทั้งหลาย ช่วยเพิ่มรายได้ให้รัฐ และ somebody
                        

พุทธศาสนา : ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ
                       ชาวพุทธที่ดีต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอบายมุขได้

การเมือง      :  รู้กฏหมาย ก็ใช้เทคนิคเลี่ยงหมายเรียกได้
                 

พุทธศาสนา :  กรรมดีและกรรมชั่ว ย่อมติดตามเหมือนเงา
                        ไม่มีใครหลบเลี่ยงได้

______________________________________________________

คนเรามักเห็นแต่ประโยชน์ในชาตินี้
ละเลยประโยชน์ในชาติหน้า
เพราะอำนาจแห่ง ราคะ โทสะ และโมหะ

จึงเพียรพยายามทุกทางที่จะให้ได้มา
ซึ่งลาภ ยศ สรรเสริญ สุข

มารและเสนามารจึงปรากฏให้เห็นในสังคมการเมืองของทุกประเทศ..

หากชนชั้นผู้ปกครองไม่มีพุทธศาสนาคอยกำกับจิตใจ
ก็ย่อมเพิกเฉย แม้ต่อศีลขั้นต่ำสุดคือศีล ๕
และยอมกระทำแม้การสนับสนุนอบายมุขให้เจริญในหมู่ชน

เช่น การสนับสนุนให้มีการบริโภคน้ำเมา ขยายเวลาปิดสถานบันเทิง 
สนับสนุนคาสิโนถูกกฏหมาย เพราะไร้ความสามารถที่จะกำจัดบ่อนผี
และไร้ความสามารถที่จะกำจัดการคอรัปชั่นในหมู่ผู้มีหน้าที่ควบคุมดูแลได้

ขั้นต่อไปคงจัดให้มีโสเภณีถูกกฏหมายในไม่ช้า
สมดังคำที่ท่านผู้นำประกาศว่า..
จะนำสิ่งที่อยูใต้ดินมาไว้บนดิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่