ธนาธร ไม่กังวล ยุบก้าวไกล โยนถาม ‘ชัยธวัช-พิธา’ กกต.เร่งรัดส่งศาลรธน.หรือไม่
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8156648
‘ธนาธร’ ไม่กังวล ยุบก้าวไกล โยนถาม ‘ชัยธวัช-พิธา’ กกต. เร่งรัดส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ บอก ไม่ได้ตามเรื่องนี้-ไม่แม่นกระบวนการ
เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 26 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)
โดยนาย
ธนาธร กล่าวว่า สัมภาษณ์นาย
ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ดีกว่า เนื่องจากตนไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ ไม่ทราบว่าเรื่องถึงไหนแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าเร่งรัดรีบส่งเรื่องหรือไม่ นาย
ธนาธร กล่าวว่า ตนไม่แม่นในเรื่องกระบวนการให้ถามนาย
ชัยธวัช หรือนาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ดีกว่า
เมื่อถามว่ามีความกังวลอะไรหรือไม่ นาย
ธนาธร กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “
ไม่มีความกังวล” ก่อนจะเดินเข้าห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม สภาผู้แทนราษฎร
หนุ่มสุดงง! บิลค่าไฟพุ่งกว่า 5 พัน หลังเปลี่ยนมิเตอร์เป็นระบบดิจิทัล ทั้งที่ปกติจ่ายแค่เดือนละ 300 ร้องกฟภ.ยังไม่คืบ
https://www.matichon.co.th/region/news_4492800
หนุ่มสุดงง! บิลค่าไฟพุ่งกว่า 5 พัน หลังเปลี่ยนมิเตอร์เป็นระบบดิจิทัล ทั้งที่ปกติจ่ายแค่เดือนละ 300 ร้องกฟภ.ยังไม่คืบ
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ประชาชนรายหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี เนื่องจากบิลค่าไฟฟ้าที่สูงกว่าที่ใช้ตามจริง หลังจากที่ได้เปลี่ยนมิเตอร์ใบใหม่มาได้เพียง 1 เดือน จากเดิมที่เคยเสียเพียงเดือนละ 300 กว่าบาท กลายเป็น 5,000 กว่าบาท ติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าไปแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเช่าเลขที่ 231/7 ถนนศรีอุทัย ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี พบกับ นาย
เฉลิมศักดิ์ แม้นพยัคฆ์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียน เล่าว่า เช่าบ้านหลังนี้อยู่กับลูกชาย มานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะอยู่กันแค่ 2 คน จึงไม่ค่อยได้ใช้ไฟฟ้าอะไรกันมาก รวมๆแล้วแต่ละเดือนจะใช้ไฟกันอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าหน่วย คิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าประมาณ 300 กว่าบาท เพราะที่ห้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้าแค่ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ทีวี พัดลม เครื่องซักผ้า แค่นั้น
จนกระทั่ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางไฟฟ้าได้เข้ามาเปลี่ยนมิเตอร์วัดค่าการใช้ไฟฟ้าใหม่ เพื่อให้เป็นระบบที่มีตัวเลขดิจิทัลขึ้นมา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนกันทั่วจังหวัด ตนเองนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ บิลค่าไฟฟ้าไม่มีส่งมาให้เหมือนทุกครั้งก็เริ่มเอะใจ กลัวว่าจะโดนตัดหม้อ เลยเอาบิลค่าไฟฟ้าเก่ามาลองสแกนดู ก็พบว่ามียอดค่าไฟฟ้าเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1,084 หน่วย ยอดค้างชำระเป็นเงินจำนวน 5,374.77 บาท ซึ่งตอนนั้นก็ตกใจและคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ สาเหตุน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนหม้อหรือมิเตอร์ใหม่อย่างแน่นอน และความผิดพลาดในครั้งนี้น่าจะเป็นที่เจ้าหน้าที่ ที่มาจดหน่วยมากกว่า ที่อาจจะจดผิดแล้วไม่ได้แจ้งให้ทางการไฟฟ้าหรือเจ้าหน้าที่ออกบิลแก้ไข ซึ่งบิลค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม ที่นำมาส่งนี้ก็มียอดเท่าปกติที่ 100 กว่าหน่วย ยอดเงินที่ต้องชำระอยู่ที่ 322 บาท มีเพียงเดือนกุมภาพันธ์เดือนเดียวเท่านั้นที่สูงเกินจริง
นาย
เฉลิมศักดิ์ บอกว่า ตัวเองนั้นเป็นลูกจ้างส่งแก๊ส ได้เงินค่าแรงแค่วันละ 300 บาท ไม่มีกำลังมากพอที่จะมาชำระค่าไฟฟ้ายอดเดือนกุมภาพันธ์ ที่มียอดค้าง 5,000 กว่าบาทได้ หากเจ้าหน้าที่จะมาตัดไฟก็คงต้องยอม เพราะมันเกินกำลังตนเองจริงๆ ซึ่งทางตัวเองก็ได้ทำการแจ้งเรื่องดังกล่าวนี้ไปแล้วประมาณ 5 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคนของการไฟฟ้าติดต่อมาแต่อย่างใด
เงินบาทขยับแข็งค่าเล็กน้อย แตะระดับ 36.36 บาท สอดคล้องสกุลอื่นในเอเชีย
https://www.dailynews.co.th/news/3290094
ค่าเงินบาทวันนี้ 26 มี.ค. เปิดตลาดเช้าแตะระดับ 36.36 บาทต่อดอลลาร์ ขยับแข็งค่าเล็กน้อย สอดคล้องสกุลเงินในเอเชีย โดยรอปัจจัยใหม่จากข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/66 ติดตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก
วันที่ 26 มี.ค. น.ส.
กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.36-36.38 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.30 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.40 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย นำโดย เงินเยน และเงินหยวน ที่ฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางสัญญาณของทางการที่ไม่อยากให้ค่าเงินผันผวนในด้านอ่อนค่าเร็วเกินไป อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภาพรวม ยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบ เนื่องจากตลาดยังคงรอปัจจัยใหม่ๆ อาทิ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/66 ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Indiced เดือน ก.พ. ซึ่งเป็นตัวเลขเงินเฟ้อที่เฟดติดตาม ในวันศุกร์นี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.25-36.45 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตัวเลขการส่งออกเดือน ก.พ. ของไทย สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ
JJNY : ธนาธรไม่กังวล ยุบก้าวไกล│หนุ่มสุดงง! บิลค่าไฟพุ่งกว่า 5 พัน│บาทขยับแข็งค่าเล็กน้อย│ยึดรัฐคะเรนนีได้แล้ว 90%
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8156648
‘ธนาธร’ ไม่กังวล ยุบก้าวไกล โยนถาม ‘ชัยธวัช-พิธา’ กกต. เร่งรัดส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ บอก ไม่ได้ตามเรื่องนี้-ไม่แม่นกระบวนการ
เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 26 มี.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2)
โดยนายธนาธร กล่าวว่า สัมภาษณ์นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ดีกว่า เนื่องจากตนไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ ไม่ทราบว่าเรื่องถึงไหนแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าเร่งรัดรีบส่งเรื่องหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่แม่นในเรื่องกระบวนการให้ถามนายชัยธวัช หรือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ดีกว่า
เมื่อถามว่ามีความกังวลอะไรหรือไม่ นายธนาธร กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่มีความกังวล” ก่อนจะเดินเข้าห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม สภาผู้แทนราษฎร
หนุ่มสุดงง! บิลค่าไฟพุ่งกว่า 5 พัน หลังเปลี่ยนมิเตอร์เป็นระบบดิจิทัล ทั้งที่ปกติจ่ายแค่เดือนละ 300 ร้องกฟภ.ยังไม่คืบ
https://www.matichon.co.th/region/news_4492800
หนุ่มสุดงง! บิลค่าไฟพุ่งกว่า 5 พัน หลังเปลี่ยนมิเตอร์เป็นระบบดิจิทัล ทั้งที่ปกติจ่ายแค่เดือนละ 300 ร้องกฟภ.ยังไม่คืบ
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ประชาชนรายหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี เนื่องจากบิลค่าไฟฟ้าที่สูงกว่าที่ใช้ตามจริง หลังจากที่ได้เปลี่ยนมิเตอร์ใบใหม่มาได้เพียง 1 เดือน จากเดิมที่เคยเสียเพียงเดือนละ 300 กว่าบาท กลายเป็น 5,000 กว่าบาท ติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าไปแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเช่าเลขที่ 231/7 ถนนศรีอุทัย ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี พบกับ นายเฉลิมศักดิ์ แม้นพยัคฆ์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียน เล่าว่า เช่าบ้านหลังนี้อยู่กับลูกชาย มานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะอยู่กันแค่ 2 คน จึงไม่ค่อยได้ใช้ไฟฟ้าอะไรกันมาก รวมๆแล้วแต่ละเดือนจะใช้ไฟกันอยู่ที่ประมาณ 100 กว่าหน่วย คิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าประมาณ 300 กว่าบาท เพราะที่ห้องมีเครื่องใช้ไฟฟ้าแค่ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ทีวี พัดลม เครื่องซักผ้า แค่นั้น
จนกระทั่ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางไฟฟ้าได้เข้ามาเปลี่ยนมิเตอร์วัดค่าการใช้ไฟฟ้าใหม่ เพื่อให้เป็นระบบที่มีตัวเลขดิจิทัลขึ้นมา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนกันทั่วจังหวัด ตนเองนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ บิลค่าไฟฟ้าไม่มีส่งมาให้เหมือนทุกครั้งก็เริ่มเอะใจ กลัวว่าจะโดนตัดหม้อ เลยเอาบิลค่าไฟฟ้าเก่ามาลองสแกนดู ก็พบว่ามียอดค่าไฟฟ้าเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1,084 หน่วย ยอดค้างชำระเป็นเงินจำนวน 5,374.77 บาท ซึ่งตอนนั้นก็ตกใจและคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ สาเหตุน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนหม้อหรือมิเตอร์ใหม่อย่างแน่นอน และความผิดพลาดในครั้งนี้น่าจะเป็นที่เจ้าหน้าที่ ที่มาจดหน่วยมากกว่า ที่อาจจะจดผิดแล้วไม่ได้แจ้งให้ทางการไฟฟ้าหรือเจ้าหน้าที่ออกบิลแก้ไข ซึ่งบิลค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม ที่นำมาส่งนี้ก็มียอดเท่าปกติที่ 100 กว่าหน่วย ยอดเงินที่ต้องชำระอยู่ที่ 322 บาท มีเพียงเดือนกุมภาพันธ์เดือนเดียวเท่านั้นที่สูงเกินจริง
นายเฉลิมศักดิ์ บอกว่า ตัวเองนั้นเป็นลูกจ้างส่งแก๊ส ได้เงินค่าแรงแค่วันละ 300 บาท ไม่มีกำลังมากพอที่จะมาชำระค่าไฟฟ้ายอดเดือนกุมภาพันธ์ ที่มียอดค้าง 5,000 กว่าบาทได้ หากเจ้าหน้าที่จะมาตัดไฟก็คงต้องยอม เพราะมันเกินกำลังตนเองจริงๆ ซึ่งทางตัวเองก็ได้ทำการแจ้งเรื่องดังกล่าวนี้ไปแล้วประมาณ 5 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคนของการไฟฟ้าติดต่อมาแต่อย่างใด
เงินบาทขยับแข็งค่าเล็กน้อย แตะระดับ 36.36 บาท สอดคล้องสกุลอื่นในเอเชีย
https://www.dailynews.co.th/news/3290094
ค่าเงินบาทวันนี้ 26 มี.ค. เปิดตลาดเช้าแตะระดับ 36.36 บาทต่อดอลลาร์ ขยับแข็งค่าเล็กน้อย สอดคล้องสกุลเงินในเอเชีย โดยรอปัจจัยใหม่จากข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/66 ติดตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก
วันที่ 26 มี.ค. น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.36-36.38 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.30 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.40 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย นำโดย เงินเยน และเงินหยวน ที่ฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางสัญญาณของทางการที่ไม่อยากให้ค่าเงินผันผวนในด้านอ่อนค่าเร็วเกินไป อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภาพรวม ยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบ เนื่องจากตลาดยังคงรอปัจจัยใหม่ๆ อาทิ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/66 ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Indiced เดือน ก.พ. ซึ่งเป็นตัวเลขเงินเฟ้อที่เฟดติดตาม ในวันศุกร์นี้
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 36.25-36.45 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตัวเลขการส่งออกเดือน ก.พ. ของไทย สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ