สวัสดีค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนอื่นที่เรามาตั้งกระทู้สอบถาม แล้วไม่ไป รพ. เนื่องจากตอนนี้เราทำงานอยู่ กทม. และเพิ่งส่งเงินประกันสังคมไปแค่ 1 เดือน
ทำให้เรายังไม่สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้ และไม่สามารถย้ายสิทธิ์บัตรทองมาอยู่ กทม. ได้ (เราต้องทำงาน 6 วัน/สัปดาห์ด้วยค่ะ เลยไม่สามารถลาหยุดต่อเนื่องหลายวันเพื่อเดินทางกลับไปตรวจที่ รพ. ที่เรามีสิทธิ์บัตรทองที่บ้านเกิดได้)
หากจะไปตรวจที่ รพ. เราต้องออกค่าใช้จ่ายเอง และล่าสุด(เมื่อวันพุธที่ผ่านมา)ไป รพ. ด้วยอาการเจ็บป่วยอื่น (กระเพาะปัสสาวะอักเสบและกล้ามเนื้ออักเสบจากการออกกำลังกายหนัก) เราเสียค่ารักษาไปเกือบ 3,000 บาท
ตอนนี้เหลือเงินไม่มากพอ ทำให้ต้องการข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการไป รพ. ก่อนค่ะ
เรื่องยุติการตั้งครรภ์และวันที่เริ่มฝังยาคุม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เนื่องจากเมื่อปลายปีที่แล้ว เราตั้งครรภ์จากการถูกข่มขื่นทำให้ต้องไปยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ (เพราะตอนที่ถูกกระทำช่วงแรก ๆ แล้วไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก ๆ ผลยังไม่ออกค่ะ แล้วก็ยุ่งไปสักพักหนึ่ง) และไปยุติได้ อายุครรภ์ก็ปาไป 8 สัปดาห์แล้ว ทำให้คุณหมอต้องขูดมดลูกด้วยค่ะ และในวันที่รับประทานยายุติการตั้งครรภ์ตัวที่ 1 ทางโรงพยาบาลก็ได้ฝังยาคุมกำเนิด 3 ปีให้ด้วยในวันที่ 6 ธันวาคม 2023
หลังจากนั้นในวันที่ 7 ธันวาคม 2023 เราได้ทานยาตัวที่ 2 เข้าไป ทำให้ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อห้ามเลือดและขูดมดลูก และเลือดก็ไหลต่อเนื่องเหมือนประจำเดือนตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม จนถึงวันที่ 29 ธันวาคม 2023 เป็นระยะเวลา 23 วันค่ะ
หลังจากเดือนธันวาคมที่เราฝังยาคุมและยุติการตั้งครรภ์
คุณหมอและคุณพยาบาลแจ้งว่าจะมีผลข้างเคียงคือเลือดออกต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน
เราก็เข้าใจในส่วนนี้ค่ะ
แต่พอมาเดือนมกราคม ประจำเดือนไม่มาเลย
และประจำเดือนมารอบแรกหลังจากฝังยาคุม+ยุติการตั้งครรภ์ในเดือนกุมภาพันธ์
วันที่ 4 ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2024 เป็นระยะเวลา 8 วันค่ะ
(ปกติก่อนตั้งครรภ์ ประจำเดือนเรามาประมาณ 4-5 วัน ไม่เคยเกิน 6 วันค่ะ)
และในเดือนมีนาคม ประจำเดือนมาวันที่ 3 ถึง 6 มีนาคม เป็นเวลา 4 วัน เราก็เข้าใจว่าน่าจะเริ่มปกติแล้ว
แต่กลับมีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดและเหมือนเลือดประจำเดือน กลิ่นแบบเลือดประจำเดือนมาอีกครั้งในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ค่ะ
- เรื่องกลิ่น:
ตอนที่ไม่มีเลือดประจำเดือนไหล เราไม่มีตกขาวที่มีลักษณะแปลก ๆ ออกมาจากช่องคลอด
เป็นตกขาวใส ๆ เหนียวปกติ ปริมาณไม่มาก และกลิ่นจากน้องสาวก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม
เป็นกลิ่นเดิม ๆ มาตั้งแต่แรก ๆ ตั้งแต่เริ่มเป็นสาวค่ะ แต่ตอนมีเลือดออกมาเหมือนประจำเดือน ก็กลิ่นคาวเลือดปนกลิ่นอับ ๆ แบบประจำเดือนค่ะ
ตอนไปค้นหาข้อมูลในเน็ตแล้ว มีข้อมูลบอกว่าการมีประจำเดือนออกมา 2 ครั้งใน 1 เดือน อาจเกิดจากการติดเชื้ออย่าง HPV หรือการอักเสบ รวมไปถึงก้อนเนื้องอก หรือมะเร็ง เราคิดว่ากรณีพวกนี้มันน่าจะมีลักษณะเด่นคือเรื่องของกลิ่นพ่วงมาด้วยหรือเปล่า แต่เราก็ไม่ทราบแน่ชัด 100% ค่ะ
และเราไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งสิ้นหลังจากถูกกระทำคราวนั้น จนหลังจากยุติการตั้งครรภ์แล้ว ก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ใด ๆ กับใครเลยค่ะ
- เรื่องสีและปริมาณของเลือด:
หลังจากยุติการตั้งครรภ์ เลือดที่ไหลออกมาส่วนใหญ่เป็นเลือดสีแดงสด จนมาวันท้าย ๆ เริ่มเป็นสีเข้มขึ้นค่ะ
แต่ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม เลือดที่ไหลออกมา เป็นสีน้ำตาล ไม่ใช่สีแดงเลยค่ะ และปริมาณของเลือดที่ไหลต่อวัน ก็ไหลออกมาปริมาณไม่ค่อยมากด้วยค่ะ
- ข้อมูลเกี่ยวกับอาการเพิ่มเติม:
ช่วงพฤศจิกายน ปี 2021 หลังจากประจำเดือนรอบเดือนพฤศจิกายนหยุดไปได้ประมาณ 3 วันก็มีอาการเลือดออกกระปริบกระปรอยต่อเนื่องค่ะ หลังจากมีเลือดออกมาประมาณ 2-3 วัน เราได้ไปพบแพทย์ที่คลินิกก่อนในเบื้องต้น เราได้แจ้งทางคุณหมอแล้วว่าเราไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลย และเราไม่ได้มีจริง ๆ ไม่ได้โกหกค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่คุณหมอไม่ได้ขูดเนื้อเยื่อเราไปตรวจ และไม่ได้ตรวจเลือดเราใด ๆ คุณหมอก็ให้คำวินิจฉัยมาแล้วว่า "คุณเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นะคะ เดี๋ยวหมอจะให้ยาไปทาน แล้วงดการมีเพศสัมพันธ์" เราเลยแย้งไปตอนนั้นเลยว่า "แต่หนูแจ้งไปแล้วนี่คะว่าหนูไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลย หนูจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ยังไง" หมอก็บอกว่า "ถ้าหมอวินิจฉัยว่าเป็นก็คือเป็นค่ะ" แล้วเราโดนบังคับให้รับยา จ่ายเงินค่าหมอและค่ายาด้วย คือตอนนั้นปรี๊ดแตกและฝังใจมาก รู้สึกเครียดกับการไปหาหมอ เพราะต้องหมดเงินไปหลายร้อย และถึงหลักพันเลยก็มีค่ะ
และได้ลองไป รพ. รัฐอีกที่นึงที่อยู่ใกล้ ๆ ในอีกวัน ทาง รพ. ก็ไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้ วันนั้นลางาน(ที่ทำงานเก่า)ไปฟรี ๆ เสียเงินค่าเดินทางไปฟรี ๆ เลยค่ะ สุดท้ายก็ได้ไปที่ รพ. จุฬา ตามคำแนะนำของเพื่อนร่วมงาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทาง รพ. จุฬา ก็ไม่สามารถให้คำตอบอะไรเราได้เหมือนกัน ทางคุณหมอก็บอกว่าถ้าคุณไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้วคุณจะมีอาการแบบนี้ได้ยังไง
ในวันก่อนที่เราจะไป รพ. จุฬา เราก็พยายามศึกษาหาข้อมูลไปพอตัว วันนั้นเลยเรียนทางอาจารย์หมอไปว่า ไม่ทราบว่าอาการแบบนี้ จะมีโอกาสเกิดมาจากโรคเครียดหรือความเครียดสะสม ทำให้ฮอร์โมนผิดปกติและเกิดเลือดออกกระปริบกระปรอยไหมคะ พอดีหนูนอนไม่ค่อยหลับ และมีเรื่องให้คิดเยอะมาตลอด แก้ไม่หายค่ะ
ในวันนั้นทางอาจารย์หมอและทีมแพทย์จึงตัดสินใจจ่ายยาคุมกำเนิดแบบเม็ดให้เรามารับประทานเพื่อปรับฮอร์โมน และทำให้เลือดที่ออกมากระปริบกระปรอยหยุดไหล เดือนถัดไปจากนั้น ประจำเดือนเราก็มาปกติค่ะ แต่เวลามีประจำเดือนมาก็จะรู้สึกปวดแบบปวดมาก ๆ บางครั้งก็ถึงกับไข้ขึ้นและต้องลางานกันเลยทีเดียวค่ะ แต่พอไปตรวจแล้ว (ตามสิทธิ์ประกันสังคมที่ รพ. เอกชน) ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ และเราก็ไปตรวจต่อเนื่องด้วยค่ะ
แต่ผ่านมาจนถึงปี 2023 ตั้งแต่ช่วงมีนาคม เราเริ่มปวดท้องน้อยด้านขวาแบบมาก ๆ และมันเริ่มบวมขึ้นมา รู้สึกเจ็บตลอดเวลา แต่เวลาที่อาการปวดกำเริบ มันจะเจ็บมาก ๆ ค่ะ จนถึงช่วงเดือนสิงหาคม เราก็ปวดจนทนไม่ได้เลย
และช่วงที่ตั้งครรภ์ (ตอนนั้นน่าจะสัปดาห์ที่ 2-3 ตอนที่เรายังไม่รู้ว่าตัวเองท้อง) เราก็ปวดแบบปวดมาก ๆ จนใจจะขาด อยากร้องไห้มาก ๆ และอยากเอาที่ปวดบวมออกมามาก ๆ แต่ช่วงนั้นเราทำงานฟรีแลนซ์ เลยไม่มีสิทธิ์ประกันสังคมใด ๆ และไม่ค่อยมีเงินด้วย เลยไม่ได้ไปอัลตร้าซาวด์หรือตรวจละเอียดค่ะ
ตลอดเวลาที่ตั้งครรภ์ อาการปวดมันก็มาแบบต่อเนื่องเรื่อย ๆ เลย และรู้สึกปวดกระเบนเหน็บตลอดด้วย เราลองหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการปวดท้องน้อยระหว่างตั้งครรภ์ช่วงแรก ก็ไม่มี และหากมีอาการปวด ก็อาจเป็นอันตรายได้ค่ะ และเราเองก็ได้ลองไปแอบถาม ๆ อาผู้หญิง อาก็บอกว่าไม่เคยปวดท้องน้อยตอนท้องเลยเหมือนกันค่ะ
แต่ตอนไปอัลตร้าซาวด์ก็ไม่พบอะไร นอกจากเด็กที่เป็นตัวอ่อนในท้อง พอหลังยุติการตั้งครรภ์ไปแล้ว ตรงที่บวม ๆ ตรงท้องน้อยขวาก็ยุบไป และหายปวดไปช่วงหนึ่ง จนมาช่วงต้นเดือนมีนาคมปีนี้ มันกลับมาอีกแล้วค่ะ
คำถาม
1. หากพิจารณาจากเหตุการณ์ทั้งหมด และอาการทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น และกำลังเกิดขึ้นอยู่ มีความเป็นไปได้สูงแค่ไหนที่จะมีโรคอื่นที่ไม่ใช่ผลข้างเคียงจากการยุติการตั้งครรภ์และการฝังยาคุมกำเนิดคะ
2. หากเราต้องไปหาหมอ เราควรเรียนแจ้งอาการกับคุณหมอยังไงให้กระชับดีคะ หรือควรเขียนรายละเอียดตามที่เขียนในกระทู้นี้ แจ้งคุณหมอไปเลยดีคะ
3. หากเราอยากเจาะจงในการขอตรวจรักษาจากทาง รพ. เช่น ขอตรวจอัลตร้าซาวด์และ CT scan จะสามารถทำได้เลยไหม หรือควรแจ้งทาง รพ. อย่างไรได้บ้างคะ
4. หากตรวจเลือด ในกรณีที่เรากังวลเรื่อง HPV หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ (เนื่องจากถูกกระทำมา แต่ว่ามันผ่านไปประมาณ 5 เดือนแล้ว และเรายังไม่มีอาการน่าสงสัยอะไรเลยค่ะ) เราควรแจ้งทาง รพ. ให้ตรวจเลือดหาเชื้อหรือตรวจค่าอะไรคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอดีเมื่อวันพุธที่ไป รพ. มาแล้วทาง รพ. เจาะเลือดไปตรวจ (แต่เราไม่ได้รับใบผลเลือดมานะคะ เลยไม่รู้ว่าเขาตรวจหาค่าอะไรบ้าง) ทางคุณหมอแจ้งว่าค่าต่าง ๆ ในผลเลือดเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากค่ะ (เราคุมอาหารมาได้ประมาณ 1 เดือนครึ่งแล้ว)
5. หากมีคำแนะนำอื่น ๆ ในการไปตรวจรักษาที่ รพ. ขอรบกวนด้วยนะคะ
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ
อยากทราบว่าอาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงหลังฝังยาคุมกำเนิดและหลังยุติการตั้งครรภ์หรือเปล่าคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องยุติการตั้งครรภ์และวันที่เริ่มฝังยาคุม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากเดือนธันวาคมที่เราฝังยาคุมและยุติการตั้งครรภ์
คุณหมอและคุณพยาบาลแจ้งว่าจะมีผลข้างเคียงคือเลือดออกต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน
เราก็เข้าใจในส่วนนี้ค่ะ
แต่พอมาเดือนมกราคม ประจำเดือนไม่มาเลย
และประจำเดือนมารอบแรกหลังจากฝังยาคุม+ยุติการตั้งครรภ์ในเดือนกุมภาพันธ์
วันที่ 4 ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2024 เป็นระยะเวลา 8 วันค่ะ
(ปกติก่อนตั้งครรภ์ ประจำเดือนเรามาประมาณ 4-5 วัน ไม่เคยเกิน 6 วันค่ะ)
และในเดือนมีนาคม ประจำเดือนมาวันที่ 3 ถึง 6 มีนาคม เป็นเวลา 4 วัน เราก็เข้าใจว่าน่าจะเริ่มปกติแล้ว
แต่กลับมีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดและเหมือนเลือดประจำเดือน กลิ่นแบบเลือดประจำเดือนมาอีกครั้งในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ค่ะ
- เรื่องกลิ่น:
ตอนที่ไม่มีเลือดประจำเดือนไหล เราไม่มีตกขาวที่มีลักษณะแปลก ๆ ออกมาจากช่องคลอด
เป็นตกขาวใส ๆ เหนียวปกติ ปริมาณไม่มาก และกลิ่นจากน้องสาวก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม
เป็นกลิ่นเดิม ๆ มาตั้งแต่แรก ๆ ตั้งแต่เริ่มเป็นสาวค่ะ แต่ตอนมีเลือดออกมาเหมือนประจำเดือน ก็กลิ่นคาวเลือดปนกลิ่นอับ ๆ แบบประจำเดือนค่ะ
ตอนไปค้นหาข้อมูลในเน็ตแล้ว มีข้อมูลบอกว่าการมีประจำเดือนออกมา 2 ครั้งใน 1 เดือน อาจเกิดจากการติดเชื้ออย่าง HPV หรือการอักเสบ รวมไปถึงก้อนเนื้องอก หรือมะเร็ง เราคิดว่ากรณีพวกนี้มันน่าจะมีลักษณะเด่นคือเรื่องของกลิ่นพ่วงมาด้วยหรือเปล่า แต่เราก็ไม่ทราบแน่ชัด 100% ค่ะ
และเราไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งสิ้นหลังจากถูกกระทำคราวนั้น จนหลังจากยุติการตั้งครรภ์แล้ว ก็ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ใด ๆ กับใครเลยค่ะ
- เรื่องสีและปริมาณของเลือด:
หลังจากยุติการตั้งครรภ์ เลือดที่ไหลออกมาส่วนใหญ่เป็นเลือดสีแดงสด จนมาวันท้าย ๆ เริ่มเป็นสีเข้มขึ้นค่ะ
แต่ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม เลือดที่ไหลออกมา เป็นสีน้ำตาล ไม่ใช่สีแดงเลยค่ะ และปริมาณของเลือดที่ไหลต่อวัน ก็ไหลออกมาปริมาณไม่ค่อยมากด้วยค่ะ
- ข้อมูลเกี่ยวกับอาการเพิ่มเติม:
ช่วงพฤศจิกายน ปี 2021 หลังจากประจำเดือนรอบเดือนพฤศจิกายนหยุดไปได้ประมาณ 3 วันก็มีอาการเลือดออกกระปริบกระปรอยต่อเนื่องค่ะ หลังจากมีเลือดออกมาประมาณ 2-3 วัน เราได้ไปพบแพทย์ที่คลินิกก่อนในเบื้องต้น เราได้แจ้งทางคุณหมอแล้วว่าเราไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลย และเราไม่ได้มีจริง ๆ ไม่ได้โกหกค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และได้ลองไป รพ. รัฐอีกที่นึงที่อยู่ใกล้ ๆ ในอีกวัน ทาง รพ. ก็ไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้ วันนั้นลางาน(ที่ทำงานเก่า)ไปฟรี ๆ เสียเงินค่าเดินทางไปฟรี ๆ เลยค่ะ สุดท้ายก็ได้ไปที่ รพ. จุฬา ตามคำแนะนำของเพื่อนร่วมงาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในวันนั้นทางอาจารย์หมอและทีมแพทย์จึงตัดสินใจจ่ายยาคุมกำเนิดแบบเม็ดให้เรามารับประทานเพื่อปรับฮอร์โมน และทำให้เลือดที่ออกมากระปริบกระปรอยหยุดไหล เดือนถัดไปจากนั้น ประจำเดือนเราก็มาปกติค่ะ แต่เวลามีประจำเดือนมาก็จะรู้สึกปวดแบบปวดมาก ๆ บางครั้งก็ถึงกับไข้ขึ้นและต้องลางานกันเลยทีเดียวค่ะ แต่พอไปตรวจแล้ว (ตามสิทธิ์ประกันสังคมที่ รพ. เอกชน) ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ และเราก็ไปตรวจต่อเนื่องด้วยค่ะ
แต่ผ่านมาจนถึงปี 2023 ตั้งแต่ช่วงมีนาคม เราเริ่มปวดท้องน้อยด้านขวาแบบมาก ๆ และมันเริ่มบวมขึ้นมา รู้สึกเจ็บตลอดเวลา แต่เวลาที่อาการปวดกำเริบ มันจะเจ็บมาก ๆ ค่ะ จนถึงช่วงเดือนสิงหาคม เราก็ปวดจนทนไม่ได้เลย
และช่วงที่ตั้งครรภ์ (ตอนนั้นน่าจะสัปดาห์ที่ 2-3 ตอนที่เรายังไม่รู้ว่าตัวเองท้อง) เราก็ปวดแบบปวดมาก ๆ จนใจจะขาด อยากร้องไห้มาก ๆ และอยากเอาที่ปวดบวมออกมามาก ๆ แต่ช่วงนั้นเราทำงานฟรีแลนซ์ เลยไม่มีสิทธิ์ประกันสังคมใด ๆ และไม่ค่อยมีเงินด้วย เลยไม่ได้ไปอัลตร้าซาวด์หรือตรวจละเอียดค่ะ
ตลอดเวลาที่ตั้งครรภ์ อาการปวดมันก็มาแบบต่อเนื่องเรื่อย ๆ เลย และรู้สึกปวดกระเบนเหน็บตลอดด้วย เราลองหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการปวดท้องน้อยระหว่างตั้งครรภ์ช่วงแรก ก็ไม่มี และหากมีอาการปวด ก็อาจเป็นอันตรายได้ค่ะ และเราเองก็ได้ลองไปแอบถาม ๆ อาผู้หญิง อาก็บอกว่าไม่เคยปวดท้องน้อยตอนท้องเลยเหมือนกันค่ะ
แต่ตอนไปอัลตร้าซาวด์ก็ไม่พบอะไร นอกจากเด็กที่เป็นตัวอ่อนในท้อง พอหลังยุติการตั้งครรภ์ไปแล้ว ตรงที่บวม ๆ ตรงท้องน้อยขวาก็ยุบไป และหายปวดไปช่วงหนึ่ง จนมาช่วงต้นเดือนมีนาคมปีนี้ มันกลับมาอีกแล้วค่ะ
คำถาม
1. หากพิจารณาจากเหตุการณ์ทั้งหมด และอาการทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น และกำลังเกิดขึ้นอยู่ มีความเป็นไปได้สูงแค่ไหนที่จะมีโรคอื่นที่ไม่ใช่ผลข้างเคียงจากการยุติการตั้งครรภ์และการฝังยาคุมกำเนิดคะ
2. หากเราต้องไปหาหมอ เราควรเรียนแจ้งอาการกับคุณหมอยังไงให้กระชับดีคะ หรือควรเขียนรายละเอียดตามที่เขียนในกระทู้นี้ แจ้งคุณหมอไปเลยดีคะ
3. หากเราอยากเจาะจงในการขอตรวจรักษาจากทาง รพ. เช่น ขอตรวจอัลตร้าซาวด์และ CT scan จะสามารถทำได้เลยไหม หรือควรแจ้งทาง รพ. อย่างไรได้บ้างคะ
4. หากตรวจเลือด ในกรณีที่เรากังวลเรื่อง HPV หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ (เนื่องจากถูกกระทำมา แต่ว่ามันผ่านไปประมาณ 5 เดือนแล้ว และเรายังไม่มีอาการน่าสงสัยอะไรเลยค่ะ) เราควรแจ้งทาง รพ. ให้ตรวจเลือดหาเชื้อหรือตรวจค่าอะไรคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. หากมีคำแนะนำอื่น ๆ ในการไปตรวจรักษาที่ รพ. ขอรบกวนด้วยนะคะ
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ