#เตือนภัยโดนทนายความปลอมหลอกสูญเงินนับแสน ใครที่คิดจะทำคดีแล้วหาจ้างทนายระวังไว้ให้ดีนะครับ เพราะว่าทาง “ครอบครัวผมโดนมากับตัว”
เรื่องเกิดจาก
ทางคุณแม่โดนลูกหนี้หลอกเชิดเงินหนี้ไปหลัก 7 หลัก
อยากหาทนายความมาฟ้องเพื่อเรียกมาไกล่เกลี่ยในชั้นศาล
หลังจากนั้นได้มีบุคคลที่ 3 (ขอแทนด้วยชื่อนาง A) เข้ามาเกี่ยวด้วย ซึ่งเขาอ้างว่าทางคนของเขาโดนลูกหนี้คนนี้ยืมเงินแล้วก็หายตัวไปแบบที่ทางคุณแม่ผมเจอมาก่อนหน้านี้
.
นาง A ได้แนะนำให้ทางคุณแม่ของผมฟ้องลูกหนี้คนนี้ โดยมีการแนะนำทนายความมาอยู่ท่านนึง (ขอแทนด้วยชื่อนาย B) โดยอ้างว่าการที่จะติดต่อนาย B ต้องติดต่อทางเขาเท่านั้น! ณ ตอนนนั้นด้วยความที่คุณแม่ของผมรู้จักนาง A (รู้จักเพราะเขาทัก Facebook มาว่าลูกหนี้คนนี้โกงเงินคนของเขาไป) และเคยไปเจอหน้ากัน เคยไปหาที่บ้านแล้ว เลยมีความเชื่อใจนาง A
.
เวลาผ่านไปไม่นานนาง A ได้มีการมาบอกว่าจะต้องมีการจ่ายค่าจ้างให้นาย B เพื่อเป็นการเริ่มการทำคดี และต่อมาได้มีการเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการเอกสารการออกหมายเรียก… พอเวลาผ่านไปหลายอาทิตย์...หลายเดือน เรื่องไม่เดิน เอกสารไม่ออก พอทักไปขอดูเอกสาร นางA ก็มีการบ่ายเบ่งประเด็นบลาๆ จนเวลาผ่านไป 4เดือน นางA ได้มาบอกว่า นายB มีปัญหาเรื่องการเงิน แล้วบอกว่านายB ได้ให้โฉนดที่ดินมา 1ใบ พร้อมกับเอกสารอื่นๆในการทำธุรกรรมการขายที่ดิน (นางAบอกว่าแต่โฉนดใบนี้เป็นชื่อของแม่นายB) แต่ทะว่านาง A ได้มีการบอกว่าก่อนที่จะเอาโฉนดใบนี้ไปต้องจ่ายมาก่อน 25000 ด้วยความที่ตอนนั้นทางคุณแม่ก็เชื่อว่าจ่ายไปแล้วเอาโฉนดไปขายน่าจะได้เงินที่จ่ายไปกลับมาทั้งหมดครบ จึงตัดสินใจจ่ายไปเพื่อเอาโฉนดใบนี้มา
.
ระหว่างช่วงเวลานี้ นางA ก็เสนอทนายคนใหม่มา ให้ทำคดี (ขอแทนด้วยชื่อนาง C) โดยอ้างว่าทนายคนนี้เป็นทนายที่เคยทำคดีให้มาก่อน ด้วยความที่ครั้งนี้ มีการนัดเจอกันแบบเป็นตัวเป็นตน นัดเจอกันที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ คุณแม่เลยเชื่อใจ และพร้อมจ่ายเงินค่าจ้างทนายคนใหม่นี้ (โดยการจ่ายครั้งนี้เป็นการจ่ายแบบทยอยจ่าย เนื่องจากช่วงนั้นคุณไม่มีเงินเลยต้องหายืมมาจ่ายเพื่ออยากให้คดีมันรวดเร็วที่สุด) หลังจากนั้นก็มีค่าดำเนินการทำเอกสารมาแบบเดิม แพทเทิร์นเหมือนกับครั้งก่อนเด๊ะๆ แต่ว่าทนายคนนี้ ได้ส่งรูปหมายเรียกมาให้ หลังจากนั้นการติดต่อก็ขาดๆ หายๆ อ้างว่าเข้าโรงพยาบาล ปอดติดเชื้อ ทำให้ไม่สะดวกคุยจนผ่านไปเป็นอาทิตย์
.
#และด้วยเหตุนี้แหละทำให้ผมรู้สึกตะหงิดใจ!!
1. ผมได้ให้คุณแม่โทรไปสอบถามทางสภาทนายความให้ขอตรวจสอบชื่อของนาง C ปรากฏว่าทางสภาทนายความได้บอกว่าชื่อนี้ไม่ได้อยู่ในระบบ (แสดงว่าคนนี้คือทนายปลอม)
2. ผมได้เอาหมายเรียก ที่นาง C ถ่ายรูปมาให้ไปตรวจสอบที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่าชื่อ โจทจ์ กับจำเลย ไม่ได้อยู่ในระบบการออกหมายศาล (แสดงว่าหมายเรียกที่ได้มาคือของปลอม!!)
.
ช็อคสิครับ!! หลังจากนั้นผมก็เลยบอกคุณแม่ให้ไปแจ้งความไว้ก่อน คือแบบด้วยความที่เชื่อใจ และอยากได้เงินคืน ตอนนี้ก็กลับมาเป็นหนี้เพิ่มขึ้น เสียค่าดอก ค่าไฟแนนซ์
หลังจากนั้นทางคุณแม่ได้ไปแจ้งความกับตำรวจและมอบเอกสารและหลักฐานต่างๆ (แชท สเตทเม้น สลิปการโอน) ทางตำรวจรับเรื่อง และให้ลงบันทึกประจำวันร่วมด้วย หลังจากนั้นทางตำรวจได้ให้คุณแม่ติดต่อไปยังทนายปลอมคนนี้เพื่อไกล่เกลี่ยนด้วยตนเอง คุณแม่ก็ได้ทักไปขอนัดจ่ายเงินคืนมาให้ก่อนเป็นงวดแรก เนื่องจะต้องไปนำเงินไปชำระจากที่ๆยืมมา
จำตอนที่บอกว่านาง C เข้าโรงพยาบาลไหมครับที่หายไปเป็นอาทิตย์...หลังจากนั้นทางตำรวจก็ได้บอกให้คุณแม่ทักนาง C ไป เพื่อไกล่เกลี่ยด้วยตัวเองก่อน (แบบว่าถ้าคืนเงินที่โกงไปก็จะถอนแจ้งความ) วันนั้นคุณแม่ก็ทักไปด้วยข้อความประมาณ "Kuรู้ละนะว่าพวกมึv มารวมหัวหลอกku ถ้าพวกมึvไม่อยากให้ไปถึงที่ติดต่อกลับมาด้วย" เกิดไรขึ้นต่อ...นางC ก็เข้ามาอ่านสิครับ!! หายไปเป็นอาทิตย์ WTF!! แต่ตอบกลับมาว่า "ภายในสิ้นเดือนจะคืนเงินให้ทั้งหมด"
ทางผมก็ได้บอกให้คุณแม่ไปว่า "ขอให้พวกนั้นทยอยจ่ายให้เป็นงวด เพราะถ้ารอจ่ายตอนสิ้นเดือนทีเดียวกลัวจะไม่ได้" แม่ก็ได้ทักไปบอกนาง Cแบบนี้ แล้วขอนัดจ่ายงวดแรกวันที่ 10/03/67 แต่พอถึงเวลานัดนาง C กลับไม่ยอมจ่าย ทักไปทวงกลับอ่านแต่ไม่ตอบ!! ด้วยความที่คุณแม่โมโห ก็เลยแบบว่า "จะไม่จ่ายใช้ไหม เคร งั้นเจอกันที่โรงพัก... ถ้าไม่จ่ายku จะไปตามถึงโรงเรียนที่มึvสอน บลาๆๆ ด้วยความโมโห + กับความเครียดที่จะต้องใช้เงินเอาไปจ่ายดอกเบี้ยต่างๆด้วย) พอนี้นาง C ก็บอกว่า "อยากมาก็ใาจะได้แจ้งความกลับข้อหาบุกรุกและข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ดีเหมือนกันจะได้เอ่เงินค่าปรับไปจ่ายหนี้คืนให้รู้แล้วรู้รอดไป จะได้จบจบ" โหว...นี่หรอความคิดคนที่เป็นครู!! คนที่คอยสอนเด็กๆ แต่สอนตัวเองไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่านี่คือการหลอกเอาเงินคนอื่นไป แถมอยากปลอมแปลงเอกสารทางราชการเพื่อไปใช้เพื่อหลอกคนอื่น
ตอนนี้ก็ต้องรอต่อทางตำรวจแจ้งมาว่า "งั้นถ้าไกล่เกลี่ยด้วยตนเองไม่ได้ ทางตำรวจก็ต้องรอยืนยันผลหลักฐานให้แน่ชัด แล้วออกหมายจับไปคุยกันในชั้นศาล"
ตอนนี้คือเครียดกันมากๆ เงินที่ยืมมาดอกเบี้ยก็ต้องไปจ่ายเขา ไฟแนนซ์ก็ต้องจ่าย สงสารแม่สุดๆ **ใครที่คิดจะทำคดีควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีๆนะครับ จะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบครอบครัวผม.
โดนครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง อ้างตนว่าเป็นทนายความแล้วมาหลอกทำคดี!!
เรื่องเกิดจาก
ทางคุณแม่โดนลูกหนี้หลอกเชิดเงินหนี้ไปหลัก 7 หลัก
อยากหาทนายความมาฟ้องเพื่อเรียกมาไกล่เกลี่ยในชั้นศาล
หลังจากนั้นได้มีบุคคลที่ 3 (ขอแทนด้วยชื่อนาง A) เข้ามาเกี่ยวด้วย ซึ่งเขาอ้างว่าทางคนของเขาโดนลูกหนี้คนนี้ยืมเงินแล้วก็หายตัวไปแบบที่ทางคุณแม่ผมเจอมาก่อนหน้านี้
.
นาง A ได้แนะนำให้ทางคุณแม่ของผมฟ้องลูกหนี้คนนี้ โดยมีการแนะนำทนายความมาอยู่ท่านนึง (ขอแทนด้วยชื่อนาย B) โดยอ้างว่าการที่จะติดต่อนาย B ต้องติดต่อทางเขาเท่านั้น! ณ ตอนนนั้นด้วยความที่คุณแม่ของผมรู้จักนาง A (รู้จักเพราะเขาทัก Facebook มาว่าลูกหนี้คนนี้โกงเงินคนของเขาไป) และเคยไปเจอหน้ากัน เคยไปหาที่บ้านแล้ว เลยมีความเชื่อใจนาง A
.
เวลาผ่านไปไม่นานนาง A ได้มีการมาบอกว่าจะต้องมีการจ่ายค่าจ้างให้นาย B เพื่อเป็นการเริ่มการทำคดี และต่อมาได้มีการเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการเอกสารการออกหมายเรียก… พอเวลาผ่านไปหลายอาทิตย์...หลายเดือน เรื่องไม่เดิน เอกสารไม่ออก พอทักไปขอดูเอกสาร นางA ก็มีการบ่ายเบ่งประเด็นบลาๆ จนเวลาผ่านไป 4เดือน นางA ได้มาบอกว่า นายB มีปัญหาเรื่องการเงิน แล้วบอกว่านายB ได้ให้โฉนดที่ดินมา 1ใบ พร้อมกับเอกสารอื่นๆในการทำธุรกรรมการขายที่ดิน (นางAบอกว่าแต่โฉนดใบนี้เป็นชื่อของแม่นายB) แต่ทะว่านาง A ได้มีการบอกว่าก่อนที่จะเอาโฉนดใบนี้ไปต้องจ่ายมาก่อน 25000 ด้วยความที่ตอนนั้นทางคุณแม่ก็เชื่อว่าจ่ายไปแล้วเอาโฉนดไปขายน่าจะได้เงินที่จ่ายไปกลับมาทั้งหมดครบ จึงตัดสินใจจ่ายไปเพื่อเอาโฉนดใบนี้มา
.
ระหว่างช่วงเวลานี้ นางA ก็เสนอทนายคนใหม่มา ให้ทำคดี (ขอแทนด้วยชื่อนาง C) โดยอ้างว่าทนายคนนี้เป็นทนายที่เคยทำคดีให้มาก่อน ด้วยความที่ครั้งนี้ มีการนัดเจอกันแบบเป็นตัวเป็นตน นัดเจอกันที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ คุณแม่เลยเชื่อใจ และพร้อมจ่ายเงินค่าจ้างทนายคนใหม่นี้ (โดยการจ่ายครั้งนี้เป็นการจ่ายแบบทยอยจ่าย เนื่องจากช่วงนั้นคุณไม่มีเงินเลยต้องหายืมมาจ่ายเพื่ออยากให้คดีมันรวดเร็วที่สุด) หลังจากนั้นก็มีค่าดำเนินการทำเอกสารมาแบบเดิม แพทเทิร์นเหมือนกับครั้งก่อนเด๊ะๆ แต่ว่าทนายคนนี้ ได้ส่งรูปหมายเรียกมาให้ หลังจากนั้นการติดต่อก็ขาดๆ หายๆ อ้างว่าเข้าโรงพยาบาล ปอดติดเชื้อ ทำให้ไม่สะดวกคุยจนผ่านไปเป็นอาทิตย์
.
#และด้วยเหตุนี้แหละทำให้ผมรู้สึกตะหงิดใจ!!
1. ผมได้ให้คุณแม่โทรไปสอบถามทางสภาทนายความให้ขอตรวจสอบชื่อของนาง C ปรากฏว่าทางสภาทนายความได้บอกว่าชื่อนี้ไม่ได้อยู่ในระบบ (แสดงว่าคนนี้คือทนายปลอม)
2. ผมได้เอาหมายเรียก ที่นาง C ถ่ายรูปมาให้ไปตรวจสอบที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่าชื่อ โจทจ์ กับจำเลย ไม่ได้อยู่ในระบบการออกหมายศาล (แสดงว่าหมายเรียกที่ได้มาคือของปลอม!!)
.
ช็อคสิครับ!! หลังจากนั้นผมก็เลยบอกคุณแม่ให้ไปแจ้งความไว้ก่อน คือแบบด้วยความที่เชื่อใจ และอยากได้เงินคืน ตอนนี้ก็กลับมาเป็นหนี้เพิ่มขึ้น เสียค่าดอก ค่าไฟแนนซ์
หลังจากนั้นทางคุณแม่ได้ไปแจ้งความกับตำรวจและมอบเอกสารและหลักฐานต่างๆ (แชท สเตทเม้น สลิปการโอน) ทางตำรวจรับเรื่อง และให้ลงบันทึกประจำวันร่วมด้วย หลังจากนั้นทางตำรวจได้ให้คุณแม่ติดต่อไปยังทนายปลอมคนนี้เพื่อไกล่เกลี่ยนด้วยตนเอง คุณแม่ก็ได้ทักไปขอนัดจ่ายเงินคืนมาให้ก่อนเป็นงวดแรก เนื่องจะต้องไปนำเงินไปชำระจากที่ๆยืมมา
จำตอนที่บอกว่านาง C เข้าโรงพยาบาลไหมครับที่หายไปเป็นอาทิตย์...หลังจากนั้นทางตำรวจก็ได้บอกให้คุณแม่ทักนาง C ไป เพื่อไกล่เกลี่ยด้วยตัวเองก่อน (แบบว่าถ้าคืนเงินที่โกงไปก็จะถอนแจ้งความ) วันนั้นคุณแม่ก็ทักไปด้วยข้อความประมาณ "Kuรู้ละนะว่าพวกมึv มารวมหัวหลอกku ถ้าพวกมึvไม่อยากให้ไปถึงที่ติดต่อกลับมาด้วย" เกิดไรขึ้นต่อ...นางC ก็เข้ามาอ่านสิครับ!! หายไปเป็นอาทิตย์ WTF!! แต่ตอบกลับมาว่า "ภายในสิ้นเดือนจะคืนเงินให้ทั้งหมด"
ทางผมก็ได้บอกให้คุณแม่ไปว่า "ขอให้พวกนั้นทยอยจ่ายให้เป็นงวด เพราะถ้ารอจ่ายตอนสิ้นเดือนทีเดียวกลัวจะไม่ได้" แม่ก็ได้ทักไปบอกนาง Cแบบนี้ แล้วขอนัดจ่ายงวดแรกวันที่ 10/03/67 แต่พอถึงเวลานัดนาง C กลับไม่ยอมจ่าย ทักไปทวงกลับอ่านแต่ไม่ตอบ!! ด้วยความที่คุณแม่โมโห ก็เลยแบบว่า "จะไม่จ่ายใช้ไหม เคร งั้นเจอกันที่โรงพัก... ถ้าไม่จ่ายku จะไปตามถึงโรงเรียนที่มึvสอน บลาๆๆ ด้วยความโมโห + กับความเครียดที่จะต้องใช้เงินเอาไปจ่ายดอกเบี้ยต่างๆด้วย) พอนี้นาง C ก็บอกว่า "อยากมาก็ใาจะได้แจ้งความกลับข้อหาบุกรุกและข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ดีเหมือนกันจะได้เอ่เงินค่าปรับไปจ่ายหนี้คืนให้รู้แล้วรู้รอดไป จะได้จบจบ" โหว...นี่หรอความคิดคนที่เป็นครู!! คนที่คอยสอนเด็กๆ แต่สอนตัวเองไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่านี่คือการหลอกเอาเงินคนอื่นไป แถมอยากปลอมแปลงเอกสารทางราชการเพื่อไปใช้เพื่อหลอกคนอื่น
ตอนนี้ก็ต้องรอต่อทางตำรวจแจ้งมาว่า "งั้นถ้าไกล่เกลี่ยด้วยตนเองไม่ได้ ทางตำรวจก็ต้องรอยืนยันผลหลักฐานให้แน่ชัด แล้วออกหมายจับไปคุยกันในชั้นศาล"
ตอนนี้คือเครียดกันมากๆ เงินที่ยืมมาดอกเบี้ยก็ต้องไปจ่ายเขา ไฟแนนซ์ก็ต้องจ่าย สงสารแม่สุดๆ **ใครที่คิดจะทำคดีควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีๆนะครับ จะได้ไม่ต้องมาลำบากแบบครอบครัวผม.