ติ๊ป (ชื่อเรื่องไม่ถึงห้าตัวอักษรเลยใส่วงเล็บให้ครบ)

กระทู้สนทนา
ติ๊ป

“Wow 10 Euro” พอลทำตาโตเท่าไข่ห่านพร้อมอุทานออกมา เขาอาจแสดงออกเกินจริงบ้าง แต่ก็คงไม่คิดนั่นแหละว่า เบน ลูกค้าเยอรมันของผม จะให้ทิปผมขนาดนี้ 

ผมกำลังนั่งตัดหญ้าอยู่หน้าบ้านพักของเบนพอดีโดยมีพอลยืนคุยด้วย เบนกลับมาจากข้างนอกพบเราจึงยื่นเงินให้ผมและพยายามอธิบาย เขาบอกพรุ่งนี้จะกลับเยอรมันแล้ว นี่จึงเป็นทิปน้ำใจจากเขา

ผมคงเคยบอกไปแล้วนะครับว่าที่รีสอร์ตเล็ก ๆ แห่งนี้จะมีผมดูแลอยู่ฅนเดียว รับหน้าที่ตั้งแต่ผู้จัดการยันฅนสวน จะมีขาดก็แต่ซักรีดกับทำอาหารเท่านั้นแหละ ซึ่งถ้าผมทำอาหารให้สุนัขรับประทานได้สักหน่อย ก็ไม่แน่ว่าอาจต้องรับผิดชอบส่วนนี้ด้วย

เมื่อต้องรับผิดชอบทุกอย่างฅนเดียวแบบนี้การทำงานก็ต้องวางแผนกันบ้าง แต่นั่นแหละ มันก็มีผิดแผนได้เช่นกัน

.
“ห้องศูนย์สี่ลูกค้ากำลังจะไปนะ” ข้อความจากรีสอร์ตต้นสังกัดดังผ่านมือถือเข้ามา ตายหะแล้ว ผมอดอุทานในใจไม่ได้ ก็ห้องศูนย์สี่มันยังไม่ได้ทำความสะอาดเลยนี่นา อย่างที่บอกนั่นแหละว่าอยู่ฅนเดียวมันก็ต้องมีการวางแผน และผมวางแผนอย่างดิบดีว่าทำความสะอาดไว้แค่สี่ห้องก่อน จะได้มีเวลาทำอย่างอื่นบ้าง เพราะลูกค้าของผมจะเป็นรายเดือนรายปีเสียมากกว่า คงไม่มีมาพร้อมกันเกินสี่ห้องหรอก นี่ก็ไม่เกินนะ แต่ดันมาเจาะจงห้องที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดเสียอย่างนั้น ทางรีสอร์ตต้นสังกัดหรือก็เหลือเกิน ไม่เคยรู้จักคำว่าประสานงานเอาเสียเลย ชอบโทรมาเมื่อถึงเวลาแบบนี้เสมอ ให้ตายเถอะ ผมอดสบถออกไปไม่ได้

.
เบนกับภรรยามาถึงตอนที่ผมกำลังเหงื่อโชกตัวจากการวุ่นวายเตรียมห้องอยู่เลย อากาศร้อนมากวันนั้น สองฅนดูจะเข้าใจและนังรอริมระเบียง ใช้แผ่นพับพัดระบายความร้อนกันไปพลาง ผมนั้นยิ่งรีบก็ดูจะยิ่งวุ่น การต้องทำความสะอาดห้องโดยมีลูกค้ามานั่งรอนี่มันช่างกดดันเสียจริง ใจผมตอนนี้ร้อนยิ่งกว่าอากาศแล้ว ในที่สุดก็เกินทน ผมตัดสินใจเดินเข้าหาสองฅนที่นั่งอยู่

“เอ้อ ผมรู้ว่าคุณคงอยากพักผ่อนกันแล้ว ห้องด้านข้างนี้ทำความสะอาดไว้เรียบร้อย ถ้าคุณสะดวกจะเปลี่ยน” ผมพูดพลางผายมือไปยังรีสอร์ตอีกหลังซึ่งอยู่ถัดไป หลังนั้นใต้ถุนสูงซึ่งน่าจะอยู่สบายกว่าหลังนี้ด้วย แต่ภรรยาของเบนกลับหยิบใบจองมายื่นให้

“ฉันจองห้องนี้ไว้” น้ำเสียงเธอเด็ดเดี่ยวมาก ฝรั่งนะฝรั่ง จองห้องไหนก็ต้องได้ห้องนั้นสิน่า

“ถ้าอย่างนั้นคุณไปนั่งรอที่ห้องนั้นก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเปิดประตูเปิดแอร์ให้” ผมยื่นข้อเสนอ แต่คำตอบที่ได้คือไม่เป็นไร แล้วจะมานั่งกดดันกันอยู่แบบนี้หรืออย่างไร มันทำให้ผมยุ่งยากใจมากเลยนะ ผมได้แต่คิดในใจและหันไปเร่งทำความสะอาดต่อ

.
ในที่สุดการจัดห้องวันนั้นก็จบลงโดยที่ภรรยาของเบนต้องมาช่วยจัดของช่วยปูที่นอน ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ความประทับใจแรกของสองฅนเลย

“ขอไม่รับครับ” ผมกล่าวปฏิเสธเมื่อเบนยื่นทิปให้หลังการจัดห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้หรอกว่าการทำแบบนั้นมันเสียมารยาทไหม ผมเพียงแต่คิดว่าการต้อนรับบกพร่องขนาดนี้แล้วผมยังสมควรจะได้รับทิปอยู่อีกเหรอ ผมบอกกับเบนไปแบบนั้นก่อนขอตัวกลับ และไม่รู้หรอกว่าสองฅนนั้นจะคิดอย่างไร จนกระทั่งเย็นนี้ก่อนวันกลับเยอรมันของทั้งคู่นั่นแหละ เบนจึงยื่นแบงก์สิบยูโรให้ผม

เขาพยายามอธิบายช้า ๆ ขณะที่พอลยืนฟังอยู่ เขาบอกว่าผมให้คุณไว้ก่อนกลับ คุณจะเก็บเอาไว้เพื่อคิดถึงผม หรือจะเอาไปใช้ก็ได้ ผมรับมันมา เบนยิ้มให้ก่อนเดินขึ้นบ้านไป พอลหันมายิ้มให้ผมอีก ผมมองธนบัตรสิบยูโรในมือ นี่แหละที่ผมควรจะได้รับ ไม่ใช่เพราะว่ามันมีค่ามากกว่าทิปที่เขาให้ผมครั้งแรก แต่ผมรู้ว่า แม้แรกเข้ามาสองฅนอาจไม่ได้รับความประทับใจสักเท่าไรนัก
แต่ทั้งคู่ต้องกลับไปด้วยความประทับใจอย่างแน่นอน.

หมายเหตุ : คำว่าติ๊ปเป็นศัพท์สแลงแน่นอน ซึ่งผมจงใจนำมาใช้เป็นชื่อเรื่องเพื่อสร้างความน่าสนใจเท่านั้น  (ไม่มีเหตุผลอื่น) โดยผมถือว่าชื่อเรื่องเป็นศัพท์เฉพาะที่จะใช้ยังไงก็ได้ แค่ไม่ผิดหลักไวยากรณ์ก็พอ (ตรงนี้ถ้าไม่ถูกต้องท้วงติงแนะนำได้)

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าผมไม่ชอบใช้ภาษาพูดในงานเขียน (ไม่ชอบนะครับไม่ได้บอกว่าไม่ใช้เลย) ดังนั้นถ้ามีภาษาแปลก ๆ ในงานของผมก็จะมาจากสองสาเหตุ หนึ่งคือผมหลุด สองคือผมตั้งใจ

อย่างเรื่องสั้น 'คับ' (มาจากครับ) ที่มีคนท้วงติงมาถึงสองคน ผมขอถือโอกาสอธิบายตรงนี้เลยนะครับว่า ผมจงใจใช้แบบนั้น ทั้งในส่วนของชื่อเรื่องและเนื้อหา และไม่ได้ใส่เพื่อสร้างความน่าสนใจเหมือนเรื่องนี้ด้วย แต่ใช้เพราะผมคิดว่าคำนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว ส่วนทำไมผมถึงคิดว่าเหมาะเพราะอะไร ขออนุญาตไม่อธิบายนะครับ ด้วยความขอบคุณ. ละเว้.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่