เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณ8 ปีที่แล้ว น้องชายผมเคยกลับมาอยู่กับผม และพ่อแม่ หลังจากที่ แยกออกไปอยู่กับครอบครัว เพราะเจอว่า พ่อเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย โดยผมให้เงินน้องชาย กับแฟนน้องชาย ตอนนั้น ประมาณ15,000 บาท ต่อเดือน เป็นเหมือนสินน้ำใจที่กลับมาช่วยกันดูแลพ่อแม่ ก็ช่วยกันดูแลพ่อที่อาการเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ พ่อผมเห็นน้องมาดูแลก็ตัดสินใจ ยกบ้านโอนบ้านที่พวกเราอยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็กให้เป้นชื่อน้องชายคนเดียว ซึ่งผมก็เห็นดีด้วย เพราะน้องชายตอนนั้นการงานก็ยังไม่มั่นคง
ซึ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี จนมีช่วงนึง ผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดประมาณ3วัน ผมก็บอก น้องชาย และแฟนน้องชายให้ช่วยดูแลพ่อ ในช่วง 3 วันนี้ แต่น้องชายผมไม่พอใจต่อว่าผมและแฟนผม บอกว่า ถ้าระหว่างนี้อาการพ่อแม่ทรุดลง จะทำอย่างไรรถส่วนตัวก็ไม่มี ผมก็ งง และบอกน้องว่า ก็พาพ่อไปหาหมอ ไม่มีรถ ก็โบกแท๊กซี่ก็ได้ แต่ 2คนนั้นกลับบอกผมอย่างไม่พอใจว่า ป๊าตัวหนักจะตาย จะพาไปได้ไงบลาๆๆ (ป๊าผมเป็นโรคปอด ปกติแกผมอยู่แล้ว น้ำหนัก 40 กว่า ตอนนี้เหลือ 30กว่าเอง เบากว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอีก) ผมก็ไม่เข้าใจ ก็บอก ถ้าสุดความสามารถจริงๆ ก็เรียกรถพยาบาล หรือ ว่า แจ้งมูลนิธิก็ได้ ผมต้องไปทำงาน เพราะรับเงินมัดจำมาแล้ว หลักแสนบาท ไม่ไปก็ไม่ได้ เท่านั้นแหละครับ น้องผมไม่พอใจ หยิบโฉนดบ้านและที่ดิน พร้อมข้าวของส่วนตัว หนีออกจากบ้านไปเลย แถมยังบล๊อคด face บล๊อคไลน์ ผมและแฟนอีก
สรุปผมต้องดูและพ่อที่ป่วยกับแม่ และแฟนผมกันเอง เจอกันอีกทีก็วันที่ป๊าเสียเลย
หลังจากงานศพป๊า น้องชายผมและแฟนน้องชายหายไปนานหลายปี นานๆทีจะโทรหาแม่ มีอยู่ครั้งนึงโทรมาขอเงิน 50,000 บาทที่เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ป๊าฝากให้แม่ บอกจะเอาไว้เผื่อเป้นค่าใช้จ่ายแฟนคลอดลูก น้องผมก็เอาไป
จากนั้นก็เหมือนเดิมแทบไม่ได้โทรมา จะมีบางช่วงที่น้องผมเข้ามาดูแลทำความสะอาดบ้านที่เป็นมรดกของป๊าที่ป๊ายกให้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผมแค่ประมาณ300เมตร มาเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านนั้น แต่ก็ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมแม่
มีอยู่ช่วงนึง แม่ผมหกล้มแขนหัก ด้วยความเป็นเบาหวานด้วย เลยอาการค่อนข้างหนัก ต้องผ่าตัดใหญ่ที่รพ. ระหว่างที่ดูแล ผมกับแฟนได้รับการติดต่อให้ไปทำงานต่างจังหวัดอีกครั้งประมาณ3วันเหมือนเดิม ซึ่งผมก็โทรหาน้องชายให้ช่วยกลับมาดูแลแม่เฉพาะในช่วงที่ผมไม่อยู่โดยผมบอกน้องชายว่า ให้มาอยู่เผื่อฉุกเฉิน และเผื่อต้องเซ็นต์เอกสารสำคัญอะไรที่หมอจะให้เซ็นต์ โดยผมจะออกค่ารักษาจำนวน 140,000 บาทให้เองทั้งหมด แต่น้องผมก็บอกว่า ไม่ว่าง ต้องดูแลลูกเมียตัวเองขอร้องยังไงก็ไม่มา จนผมต้องขอให้พี่ที่นับถือกัน (ไม่ใช่ญาติแต่เหมือนเป็น Supplier ที่ผมเป็นลูกค้ามานาน เค้ามาช่วยดูแลให้ เค้าก็เต็มใจมาดูแลแม่ให้ในช่วงที่ผมไม่อยู่
ตั้งแต่นั้นมา ผมเลยตัดสินใจตัดพี่ตัดน้องเลย คิดว่าน้องผมมันคงไม่เอาครอบครัวเดิมของมันแล้ว นานๆทีน้องชายผมโทรมาหาแม่ ผมก็จะไม่สนใจเลย บ้านที่ได้มรดกจากป๊ามา น้องชายผมก็แอบไปขายโดยที่ไม่ได้บอกแม่ผม (ที่ผมรู้เพราะว่าผมขับรถผ่านบ้านที่ป๊ายกให้น้องชาย ปรากฏว่ามีรถคนอื่นจอดอยู่ในบ้าน ผมก็คิดว่าอาจมีคนบุกรุกก็ให้แม่โทรบอกน้องชาย น้องชายก็บอกขายให้คนอื่นไปแล้ว)
จนช่วงครึ่งปีหลังมานี้ น้องผมเริ่มพาหลานมาหาแม่บ้าง มาช่วงตรุษจีน ผมก็พยายามไม่สนใจ ฝากแต๊ะเอียให้หลานไป 200 บาท(หลานยังเรียนอนุบาลอยู่ก็เลยไม่ได้ให้เยอะครับ) แล้วก็ให้แฟนเอาขนมให้ และให้แฟนผมไปอยู่ต้อนรับแทน โดยผมอยู่ทำงานในห้องทำงาน
หลังจากน้องกลับไป แฟนผมเล่าให้ฟังว่า แฟนของน้องบอกว่าญาติฝั่งแฟนน้อง รักหลานมาก หลานอยากได้อะไรก็ซื้อให้ (เหมือนจะเหน็บว่าผมไม่สนใจหลาน) แล้วก็บอกว่าผมอยู่แบบชิลๆ ได้เพราะไม่มีภาระ แฟนผมบอกกลับไปทันทีว่า ทำไมจะไม่มี ต้อง ดูแลแม่ฝั่งผม และฝั่งแฟนอีก 3 ชีวิต
ก็ประมาณว่า ให้น้องชายผมกลับมาดูแลใส่ใจแม่บ้าง ไม่ใช่ทิ้งไปเลย ทางแฟนน้องก็เงียบไป
ล่าสุดผมต้องพาแฟนผมกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่แฟนทีลำปาง 3 วัน 2 คืน แม่ต้องอยู่คนเดียว น้องผมบอกห่วงแม่ ผมบอกแม่ว่า มันพูดไปอย่างนั้นแหละ ถ้าน้องผมห่วงแม่จริงทำไมไม่มาอยู่เป้นเพื่อนแม่ หรือ พาแม่ไปอยดูแลสัก 3 วัน ผมบอกแม่ว่า ลองดูสิพอวันผมไปจริง แค่โทรหาแม่มันจะโทรมาหรือเปล่า
แล้วก็จริงๆ ครับ น้องผมมันก็ไม่โทรมา
จากเรื่องราวทั้งหมด ผมบอกตามตรงครับ ว่าผมไม่สามารถทำใจคิดได้ว่าตัวเองมีน้องชายได้อีก และผมไม่สามารถ มอบมรดก หรือ ทรัพย์สินใดๆ ให้หลานได้ เพราะผมตัดพี่ตัดน้องไปแล้ว (ผมกับแฟนไม่มีลูกครับ)
อยากทราบแค่ว่า ทุกคนคิดเห็นอย่างไร และ มีใครที่ตัดพี่ตัดน้อง หรือตัดขาดญาติเหมือนผมไหมครับ?
ผิดไหมครับ? ตัดพี่ตัดน้องกับน้องชายตัวเอง มีใครที่เคยเจอเหตุการณ์เหมือนผม แล้วต้องตัดขาดพี่น้องหรือญาติตัวเองไหม?
ซึ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี จนมีช่วงนึง ผมต้องไปทำงานต่างจังหวัดประมาณ3วัน ผมก็บอก น้องชาย และแฟนน้องชายให้ช่วยดูแลพ่อ ในช่วง 3 วันนี้ แต่น้องชายผมไม่พอใจต่อว่าผมและแฟนผม บอกว่า ถ้าระหว่างนี้อาการพ่อแม่ทรุดลง จะทำอย่างไรรถส่วนตัวก็ไม่มี ผมก็ งง และบอกน้องว่า ก็พาพ่อไปหาหมอ ไม่มีรถ ก็โบกแท๊กซี่ก็ได้ แต่ 2คนนั้นกลับบอกผมอย่างไม่พอใจว่า ป๊าตัวหนักจะตาย จะพาไปได้ไงบลาๆๆ (ป๊าผมเป็นโรคปอด ปกติแกผมอยู่แล้ว น้ำหนัก 40 กว่า ตอนนี้เหลือ 30กว่าเอง เบากว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอีก) ผมก็ไม่เข้าใจ ก็บอก ถ้าสุดความสามารถจริงๆ ก็เรียกรถพยาบาล หรือ ว่า แจ้งมูลนิธิก็ได้ ผมต้องไปทำงาน เพราะรับเงินมัดจำมาแล้ว หลักแสนบาท ไม่ไปก็ไม่ได้ เท่านั้นแหละครับ น้องผมไม่พอใจ หยิบโฉนดบ้านและที่ดิน พร้อมข้าวของส่วนตัว หนีออกจากบ้านไปเลย แถมยังบล๊อคด face บล๊อคไลน์ ผมและแฟนอีก
สรุปผมต้องดูและพ่อที่ป่วยกับแม่ และแฟนผมกันเอง เจอกันอีกทีก็วันที่ป๊าเสียเลย
หลังจากงานศพป๊า น้องชายผมและแฟนน้องชายหายไปนานหลายปี นานๆทีจะโทรหาแม่ มีอยู่ครั้งนึงโทรมาขอเงิน 50,000 บาทที่เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ป๊าฝากให้แม่ บอกจะเอาไว้เผื่อเป้นค่าใช้จ่ายแฟนคลอดลูก น้องผมก็เอาไป
จากนั้นก็เหมือนเดิมแทบไม่ได้โทรมา จะมีบางช่วงที่น้องผมเข้ามาดูแลทำความสะอาดบ้านที่เป็นมรดกของป๊าที่ป๊ายกให้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผมแค่ประมาณ300เมตร มาเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านนั้น แต่ก็ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมแม่
มีอยู่ช่วงนึง แม่ผมหกล้มแขนหัก ด้วยความเป็นเบาหวานด้วย เลยอาการค่อนข้างหนัก ต้องผ่าตัดใหญ่ที่รพ. ระหว่างที่ดูแล ผมกับแฟนได้รับการติดต่อให้ไปทำงานต่างจังหวัดอีกครั้งประมาณ3วันเหมือนเดิม ซึ่งผมก็โทรหาน้องชายให้ช่วยกลับมาดูแลแม่เฉพาะในช่วงที่ผมไม่อยู่โดยผมบอกน้องชายว่า ให้มาอยู่เผื่อฉุกเฉิน และเผื่อต้องเซ็นต์เอกสารสำคัญอะไรที่หมอจะให้เซ็นต์ โดยผมจะออกค่ารักษาจำนวน 140,000 บาทให้เองทั้งหมด แต่น้องผมก็บอกว่า ไม่ว่าง ต้องดูแลลูกเมียตัวเองขอร้องยังไงก็ไม่มา จนผมต้องขอให้พี่ที่นับถือกัน (ไม่ใช่ญาติแต่เหมือนเป็น Supplier ที่ผมเป็นลูกค้ามานาน เค้ามาช่วยดูแลให้ เค้าก็เต็มใจมาดูแลแม่ให้ในช่วงที่ผมไม่อยู่
ตั้งแต่นั้นมา ผมเลยตัดสินใจตัดพี่ตัดน้องเลย คิดว่าน้องผมมันคงไม่เอาครอบครัวเดิมของมันแล้ว นานๆทีน้องชายผมโทรมาหาแม่ ผมก็จะไม่สนใจเลย บ้านที่ได้มรดกจากป๊ามา น้องชายผมก็แอบไปขายโดยที่ไม่ได้บอกแม่ผม (ที่ผมรู้เพราะว่าผมขับรถผ่านบ้านที่ป๊ายกให้น้องชาย ปรากฏว่ามีรถคนอื่นจอดอยู่ในบ้าน ผมก็คิดว่าอาจมีคนบุกรุกก็ให้แม่โทรบอกน้องชาย น้องชายก็บอกขายให้คนอื่นไปแล้ว)
จนช่วงครึ่งปีหลังมานี้ น้องผมเริ่มพาหลานมาหาแม่บ้าง มาช่วงตรุษจีน ผมก็พยายามไม่สนใจ ฝากแต๊ะเอียให้หลานไป 200 บาท(หลานยังเรียนอนุบาลอยู่ก็เลยไม่ได้ให้เยอะครับ) แล้วก็ให้แฟนเอาขนมให้ และให้แฟนผมไปอยู่ต้อนรับแทน โดยผมอยู่ทำงานในห้องทำงาน
หลังจากน้องกลับไป แฟนผมเล่าให้ฟังว่า แฟนของน้องบอกว่าญาติฝั่งแฟนน้อง รักหลานมาก หลานอยากได้อะไรก็ซื้อให้ (เหมือนจะเหน็บว่าผมไม่สนใจหลาน) แล้วก็บอกว่าผมอยู่แบบชิลๆ ได้เพราะไม่มีภาระ แฟนผมบอกกลับไปทันทีว่า ทำไมจะไม่มี ต้อง ดูแลแม่ฝั่งผม และฝั่งแฟนอีก 3 ชีวิต
ก็ประมาณว่า ให้น้องชายผมกลับมาดูแลใส่ใจแม่บ้าง ไม่ใช่ทิ้งไปเลย ทางแฟนน้องก็เงียบไป
ล่าสุดผมต้องพาแฟนผมกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่แฟนทีลำปาง 3 วัน 2 คืน แม่ต้องอยู่คนเดียว น้องผมบอกห่วงแม่ ผมบอกแม่ว่า มันพูดไปอย่างนั้นแหละ ถ้าน้องผมห่วงแม่จริงทำไมไม่มาอยู่เป้นเพื่อนแม่ หรือ พาแม่ไปอยดูแลสัก 3 วัน ผมบอกแม่ว่า ลองดูสิพอวันผมไปจริง แค่โทรหาแม่มันจะโทรมาหรือเปล่า
แล้วก็จริงๆ ครับ น้องผมมันก็ไม่โทรมา
จากเรื่องราวทั้งหมด ผมบอกตามตรงครับ ว่าผมไม่สามารถทำใจคิดได้ว่าตัวเองมีน้องชายได้อีก และผมไม่สามารถ มอบมรดก หรือ ทรัพย์สินใดๆ ให้หลานได้ เพราะผมตัดพี่ตัดน้องไปแล้ว (ผมกับแฟนไม่มีลูกครับ)
อยากทราบแค่ว่า ทุกคนคิดเห็นอย่างไร และ มีใครที่ตัดพี่ตัดน้อง หรือตัดขาดญาติเหมือนผมไหมครับ?