ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย ที่มีกองทัพแบบตะวันตก และมีเรือกลไฟ หรือเปล่าครับ

จขกท.ชื่นชอบประวัติศาสตร์เอเชีย ยุคล่าอาณานิคมมาก โดยเฉพาะศึกษาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่วงยุคเมจิ และได้ไปสืบประวัติศาสตร์ไทยในช่วงเวลาเดียวกันแล้วพบว่า

ประเทศไทยสมัย ร.2 ราวๆปี พ.ศ.2365 ได้มีนายกะลาฟัด แห่งจักรวรรดิบริเตนใหญ่ (ประเทศอังกฤษในปัจจุบัน) เข้ามาเจริญสัมพันธ์ไมตรี แล้วได้นำทหารซีปอย ทหารแบบตะวันตกที่มาจากอินเดีย เข้ามาในสยามด้วย ซึ่งมีท่าทางการเดิน การจัดแถวดูเป็นระบบ ล้ำสมัย และน่าประทับใจแก่ผู้พบเห็น

ร.2 จึงโปรดให้ตั้งกองทหาร ซีปาย ขึ้น และมีการฝึกแบบตะวันตก มีเครื่องแบบใส่เสื้อและกางเกง ตามแบบทหารตะวันตก ใช้อาวุธปืนเป็นอาวุธหลัก  มีหน้าที่รักษาพระราชฐานเป็นหลัก และมีกองทหารนี้ไปเรื่อยจนถึงสมัย ร.3 ร.4
ถ้า จขกท. นับ Timeline เมื่อเทียบกับต่างประเทศตัวตึงของเอเชียดู ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน บอกเลยตอนนั้นประเทศเหล่านั้นยังเป็นประเทศโบราณล้าหลังอยู่เลย ยังไม่มีกองทหารแบบตะวันตกแน่นอน ญี่ปุ่นที่ว่าเจริญที่สุดในยุคล่าอาณานิคมนี่ยิ่งแล้ว ปิดประเทศจนไม่รับรู้เทคโนโลยีจากภายนอกเลย

ยิ่งไปดูประวัติการรบทางเรือของไทยนี่ รู้เลย บ้านเราผลิตเรือกลไฟใช้เองตั้งแต่ตอนต้น ร.4 ท่านก็โปรดให้เปลี่ยนเรือรบทั้งหมดเป็นเรือกลไฟทั้งหมด และในยุคนั้นบ้านเราก็ใช้เรือกลไฟ  เป็นเรื่องปกติธรรมดาไปซะแล้ว และเรือพาณิชย์ที่เดินทางติดต่อการค้ากับต่างชาติของไทย ในยุค ร.4 ก็เป็นเรือกลไฟหมดแล้ว
เช่น เรือเจ้าพระยา ที่ไปติดต่อการค้ากับสิงคโปร์ ในปี พ.ศ.2401 ปี ค.ศ. 1858 เป็นเรือกลไฟพาณิชย์ของสยามที่นำน้ำแข็งจากต่างประเทศขึ้นเรือกลับมาให้ชาวสยามเห็น จนมีวลีว่า เห็นทีจะปั้นน้ำเป็นตัวได้เสียแล้ว ซึ่งในขณะนั้นเวลาเดียวกัน ประเทศจีนพึ่งเกิดสงครามฝิ่นไป ยังใชัระบบทหารโบราณ เรือใบรบโบราณอยู่ เรือกลไฟของจีนยังไม่มีใช้ ญี่ปุ่นพึ่งปิดประเทศ และพึ่งรู้จักเรือกลไฟไม่มีปี ในขณะที่บ้านเราต่อเรือกลไฟใช้เองเป็นว่าเล่น

ถ้าเป็นแบบที่ จกขท.ว่าจริงๆ ไทยน่าจะเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีกองทหารแบบตะวันตก และมีเรือกลไฟใช้ด้วยนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่