แม่จขกท.มีครอบครัวใหม่แล้วเอาเราเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่ด้วย โดนผู้ใหญ่ในบ้านโขกสับสารพัด ด่าจิกเรียกอ้ายอีมาตลอดระยะเวลา9-10ปี ทนอยู่ให้ญาติพี่น้องของสามีใหม่แม่ขโมยเงินเก็บที่เก็บมาตั้งแต่เด็ก ญาติเค้ามาเคาะห้องน้ำ ดันประตูให้เปิดเพราะจะเข้ามาดูตอนอาบน้ำ แล้วมาหลังๆสามีใหม่แม่กลับบ้านดึกๆและเมามาก็จะมาเคาะประตูห้องจขกท.แทบทุกครั้ง(ไม่รู้จุดประสงค์และไม่เคยบอกใคร) ซึ่งตอนนั้นจังหวะชีวิตโชคดีที่แม่เพื่อนรับไปอยู่ด้วย เลยไม่ค่อยอยู่บ้าน สมบัติที่ดินตึกแถวที่เป็นมรดกจากคุณยายก็โดนสามีใหม่แม่เอาไปขายเอาเงินมาใช้ให้ญาติพี่น้องตัวเองหมด สุดท้ายเค้าก็นอกใจแม่ไปมีคนใหม่ ทิ้งภาระทุกอย่างไว้จนสุดท้ายทั้งตัวจขกท. แม่และน้องต่างพ่อต้องขายทิ้งเอาตัวรอด แล้วย้ายไปอยู่อาศัยกับญาติแม่
จขกท.โชคดีที่ได้แฟนมาซัพพอร์ต เลยได้ย้ายออกมาอยู่ข้างนอกเองแม้แฟนจะอยู่บ้านเป็นหลัก ด้วยความเกรงใจจขกท.ก็พยายามออกให้ได้มากที่สุดที่จะไหว รวมถึงค่าน้ำค่าไฟค่าอินเนอร์เน็ตต่างๆ(ซึ่งตรงนี้คนเช่าอยู่ในกรุงเทพฯจะรู้ดีว่าค่าใข้จ่ายเยอะแค่ไหน)
แต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น แม่จขกท.ไม่มีเงินส่งเรียนแต่เป็นคนเรียนดี ญาติพี่น้องแม่จึงช่วยกันส่งให้เรียน และนี้คือจุดเริ่มต้นของข้อผิดพลาดที่มหญ่ที่สุดอย่างนึงในชีวิต
ตั้งแต่เรียนจบมา(ได้เกียรตินิยมอับดับหนึ่งม.รัฐชื่อดัง) ทุกๆคนคาดหวังว่าก็คงจะได้งานดี เงินเดือนสูง พ่อเรียนจบปุ๊บ แม่ก็เลิกทำงาน(ค้าขาย)ทันทีในวัย50 ไม่รู้เพราะความบังเอิญหรืออะไร และใช่ค่ะ ทุกคนคาดหวังว่าเงินเดือนเดือนแรกต้องให้แม่หมด ในขณะที่จขกท.เองยังต้องหาเงินไปเรียนไปเพื่อเก็บมาไว้ซื้อจุดใส่ไปทำงาน ใช้กินใช้อยู่ในชีวิตประจำวันเดือนแรกของการทำงานเลย เวลาผ่านไปสองปีกว่าเกือบสามปี ระหว่างนั้นแม่ก็หาอะไรทำเล็กๆที่ไม่ต้องเหนื่อยมาก จนมามีรายได้หลักงานนึง
ส่วนจขกท.เลือกที่จะไม่ให้เงินแม่เป็นรายเดือนเพราะเคยโอนเป็นก้อน 5,000 / 10,000 ในโอกาสพิเศษซึ่งเป็นช่วงแรกๆของการทำงานพอดี สองวันผ่านไปได้รับโทรศัพท์ว่าเงินหมดแล้ว.. ซึ่งจขกท.คิดว่าจะเป็นการสร้างนิสัยการใช้เงินแบบง่ายๆให้แม่ตัวเอง และใช่ค่ะ คนเป็นแม่จะโทรหาลูกคนนี้แค่ตอนนี้มีเรื่องต้องใช้เงิน หรือน้องอยากได้รองเท้าใหม่ ได้อะไรใหม่ๆ หรือบ่นเรื่องเงินลอยๆอย่างเช่น "มีคนมาถามว่าลูกให้ใช้เดือนละเท่าไหร่" ไม่เคยถามว่าทำงานเป็นยังไง สังคมเป็นยังไง ความเป็นอยู่เป็นยังไง อ่านมาถึงตรงนีทุกคนไม่ต้องเดาเลยค่ะ วันที่ใช้ชีวิตเองคนเดียว ก็กินอยู่อย่างลำบากมาก สลัดผลไม้รวมที่ฟักทองมันเสีย ก็แค่เอาฟักทองทิ้งแล้วเอาทุกอย่างล้างน้ำก็ทำมาแล้ว แต่วันที่แฟนมาหาหรือไปบ้านแฟนก็จะได้กินดีดี
แม่จขกท.ไม่มีเงินเก็บและไม่มีสวัสดิการชีวิตอะไรเลยในตอนนี้ (เคยมีประกันสังคมแบบประกันตนเอง แต่อยู่ๆก็มาบอกว่าไม่มีเงินส่ง จขกท.ก็อาสาจะจ่ายให้ โอนเงินไป และเงินนั้นถูกนำไปใช้แทนที่จะจ่าย แล้วมาโดนด่าทีหลังว่าเป็นความผิดจขกท.ที่ไม่จ่าย) จขกท.จึงต้องเก็บเงินสำรองไว้ในทุกๆเดือนเผื่อมีเหตุฉุกเฉินกับน้องและแม่
แต่คนที่นี้เค้าไม่ทำกันแบบนั้นค่ะ เงินที่ว่านี้ผู้ใหญ่มองว่าควรเอามาให้แม่และน้องใช้อยู่ให้ได้อย่างสุขสบาย ทั้งที่ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ ก็ไม่เคยต้องจ่าย ค่าเทอมน้องก็พ่อเค้าจ่ายอยู่ ทุกวันนี้โดนตราหน้าโดนสาบแช่งจากญาติของแม่ทุกวันว่าเป็นคนเนรคุณค่ะ แม้ว่าพอมีเงินก็ให้เค้า เงินไม่กี่พัน หรือเงินหมื่นก็ไม่พอสำหรับเค้าค่ะ บทเรียนราคาแสนแพงที่สุด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงกู้กยศ.ดีกว่าค่ะ
มีช่วงนึงที่จขกท.ไม่อยากคุยกับแม่เลยเพราะไปรู้มาว่า แม่ไปยืมเงินญาติพี่น้องตัวเองคนอื่นๆมาใช้เป็นหมื่นแล้วก็ไม่คืนเค้า ทำลืมๆปล่อยลอยๆ
ทั้งแม่และญาติพี่น้องเค้าไม่ต้องการเห็นเรามีชีวิตที่มีความสุขค่ะ เค้าไม่ต้องการให้เราได้ดีกว่าลูกของเค้า ทุกครัง้ที่ชีวิตเราเหมือนจะกำลังสวย เค้าจะเอาปัญหาบ้านแตกมาให้เด็กอย่างเราทุกครั้ง
ตัวจขกท.ไม่ได้จะบอกว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้านะคะ เพียงแค่มีความคิดจะลาจากโลกนี้ไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้วค่ะ ในระยะเวลาเกือบ5-6ปีมานี้ โดยที่ทางบ้านไม่เคยมานั่งสนใจเลยค่ะ
แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ
อ่อ ส่วนใครถ้าสงสัยเรื่องพ่อแท้ๆ ไม่เคยอยู่ด้วยกันเลยตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ มีติดต่อมาบ้างตอนจขกท.เรียนจบทำงานแรกๆ พยายามจะพูดคุยให้ได้ในฐานะลูกคนนึงแต่ทำไม่ได้ค่ะ เพราะแกไม่เคยทำงานเลยในชีวิต เสพยาจนสติเสีย พูดจาไม่รู้เรื่องไปหมดแล้วค่ะ
สรุปสั้นๆกับที่สิ่งแม่และญาติเค้าต้องการเลยก็คือ
- ส่งเงินให้ใช้อย่างน้อยๆเดือนละ5,000
- จ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ทุกเดือน (ทั้งที่จขกท.เองก็มีภาระของตัวเอง)
- ออกทุกค่าใช้จ่ายให้อย่างเช่นซ่อมบำรุงรถ (ที่ทุกวันนี้ก็ผ่อนไม่ไหว) จขกท.นั่งรถเมล์ BTS วินทุกวันค่ะ
- ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้เอารถไปผ่อนด้วยทั้งที่ตอนจะซื้อก็ห้ามแล้วเตือนแบ้วว่าจะไม่ไหว (ใช้ชื่อและเครดิตญาติอีกคนซื้อ)
- รีบซื้อบ้าน
- ซื้อโทรศัพท์ใหม่ตอนแรกของน้อง แต่น้องรอไม่ไหวเลยซื้อเองไปแล้ว จนล่าสุดของแม่ (จขกท.ใช้ip8 มือสองของแฟน)
- ให้ซื้อที่ของญาติพี่น้องแล้วปลูกบ้าน (อยากเอาชนะพี่น้องตัวเอง เพราะสมบัติตัวเองไม่เหลือแล้ว)
- และอื่นอื่นอื่นที่เกี่ยวกับเงิน
**สุดท้ายแล้ว ใครที่ผ่านเข้ามาอ่านได้จนถึงตรงนี้แล้วก็ขอขอบคุณมากๆนะคะ จขกท.ก็ไม่แน่ใจว่าจะตั้งคำถาม หรืออยากได้คำแนะนำอะไรเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะมีคนมองมุมต่างออกไปแล้วย้อนกลับมาด่าจขกท.รึเปล่าด้วย ยังไงก็ขอน้อมรับทุกอย่างไว้ตรงนี้นะคะ**
ส่วนใครที่เจอปัญหาคล้ายกันอยู่ ก็ขอให้รู้ไว้ว่าคุณและเราคือเพื่อนกันนะคะ ชีวิตเราคงมีทางออกที่ดีในสักวัน ขอให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุขให้ได้ในสักวันนะคะ
เมื่อครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน แล้วคุณคิดว่าครอบครัวจะทำร้ายคุณได้ขนาดไหนคะ ?
จขกท.โชคดีที่ได้แฟนมาซัพพอร์ต เลยได้ย้ายออกมาอยู่ข้างนอกเองแม้แฟนจะอยู่บ้านเป็นหลัก ด้วยความเกรงใจจขกท.ก็พยายามออกให้ได้มากที่สุดที่จะไหว รวมถึงค่าน้ำค่าไฟค่าอินเนอร์เน็ตต่างๆ(ซึ่งตรงนี้คนเช่าอยู่ในกรุงเทพฯจะรู้ดีว่าค่าใข้จ่ายเยอะแค่ไหน)
แต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น แม่จขกท.ไม่มีเงินส่งเรียนแต่เป็นคนเรียนดี ญาติพี่น้องแม่จึงช่วยกันส่งให้เรียน และนี้คือจุดเริ่มต้นของข้อผิดพลาดที่มหญ่ที่สุดอย่างนึงในชีวิต
ตั้งแต่เรียนจบมา(ได้เกียรตินิยมอับดับหนึ่งม.รัฐชื่อดัง) ทุกๆคนคาดหวังว่าก็คงจะได้งานดี เงินเดือนสูง พ่อเรียนจบปุ๊บ แม่ก็เลิกทำงาน(ค้าขาย)ทันทีในวัย50 ไม่รู้เพราะความบังเอิญหรืออะไร และใช่ค่ะ ทุกคนคาดหวังว่าเงินเดือนเดือนแรกต้องให้แม่หมด ในขณะที่จขกท.เองยังต้องหาเงินไปเรียนไปเพื่อเก็บมาไว้ซื้อจุดใส่ไปทำงาน ใช้กินใช้อยู่ในชีวิตประจำวันเดือนแรกของการทำงานเลย เวลาผ่านไปสองปีกว่าเกือบสามปี ระหว่างนั้นแม่ก็หาอะไรทำเล็กๆที่ไม่ต้องเหนื่อยมาก จนมามีรายได้หลักงานนึง
ส่วนจขกท.เลือกที่จะไม่ให้เงินแม่เป็นรายเดือนเพราะเคยโอนเป็นก้อน 5,000 / 10,000 ในโอกาสพิเศษซึ่งเป็นช่วงแรกๆของการทำงานพอดี สองวันผ่านไปได้รับโทรศัพท์ว่าเงินหมดแล้ว.. ซึ่งจขกท.คิดว่าจะเป็นการสร้างนิสัยการใช้เงินแบบง่ายๆให้แม่ตัวเอง และใช่ค่ะ คนเป็นแม่จะโทรหาลูกคนนี้แค่ตอนนี้มีเรื่องต้องใช้เงิน หรือน้องอยากได้รองเท้าใหม่ ได้อะไรใหม่ๆ หรือบ่นเรื่องเงินลอยๆอย่างเช่น "มีคนมาถามว่าลูกให้ใช้เดือนละเท่าไหร่" ไม่เคยถามว่าทำงานเป็นยังไง สังคมเป็นยังไง ความเป็นอยู่เป็นยังไง อ่านมาถึงตรงนีทุกคนไม่ต้องเดาเลยค่ะ วันที่ใช้ชีวิตเองคนเดียว ก็กินอยู่อย่างลำบากมาก สลัดผลไม้รวมที่ฟักทองมันเสีย ก็แค่เอาฟักทองทิ้งแล้วเอาทุกอย่างล้างน้ำก็ทำมาแล้ว แต่วันที่แฟนมาหาหรือไปบ้านแฟนก็จะได้กินดีดี
แม่จขกท.ไม่มีเงินเก็บและไม่มีสวัสดิการชีวิตอะไรเลยในตอนนี้ (เคยมีประกันสังคมแบบประกันตนเอง แต่อยู่ๆก็มาบอกว่าไม่มีเงินส่ง จขกท.ก็อาสาจะจ่ายให้ โอนเงินไป และเงินนั้นถูกนำไปใช้แทนที่จะจ่าย แล้วมาโดนด่าทีหลังว่าเป็นความผิดจขกท.ที่ไม่จ่าย) จขกท.จึงต้องเก็บเงินสำรองไว้ในทุกๆเดือนเผื่อมีเหตุฉุกเฉินกับน้องและแม่
แต่คนที่นี้เค้าไม่ทำกันแบบนั้นค่ะ เงินที่ว่านี้ผู้ใหญ่มองว่าควรเอามาให้แม่และน้องใช้อยู่ให้ได้อย่างสุขสบาย ทั้งที่ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ ก็ไม่เคยต้องจ่าย ค่าเทอมน้องก็พ่อเค้าจ่ายอยู่ ทุกวันนี้โดนตราหน้าโดนสาบแช่งจากญาติของแม่ทุกวันว่าเป็นคนเนรคุณค่ะ แม้ว่าพอมีเงินก็ให้เค้า เงินไม่กี่พัน หรือเงินหมื่นก็ไม่พอสำหรับเค้าค่ะ บทเรียนราคาแสนแพงที่สุด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงกู้กยศ.ดีกว่าค่ะ
มีช่วงนึงที่จขกท.ไม่อยากคุยกับแม่เลยเพราะไปรู้มาว่า แม่ไปยืมเงินญาติพี่น้องตัวเองคนอื่นๆมาใช้เป็นหมื่นแล้วก็ไม่คืนเค้า ทำลืมๆปล่อยลอยๆ
ทั้งแม่และญาติพี่น้องเค้าไม่ต้องการเห็นเรามีชีวิตที่มีความสุขค่ะ เค้าไม่ต้องการให้เราได้ดีกว่าลูกของเค้า ทุกครัง้ที่ชีวิตเราเหมือนจะกำลังสวย เค้าจะเอาปัญหาบ้านแตกมาให้เด็กอย่างเราทุกครั้ง
ตัวจขกท.ไม่ได้จะบอกว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้านะคะ เพียงแค่มีความคิดจะลาจากโลกนี้ไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้วค่ะ ในระยะเวลาเกือบ5-6ปีมานี้ โดยที่ทางบ้านไม่เคยมานั่งสนใจเลยค่ะ
แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ
อ่อ ส่วนใครถ้าสงสัยเรื่องพ่อแท้ๆ ไม่เคยอยู่ด้วยกันเลยตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ มีติดต่อมาบ้างตอนจขกท.เรียนจบทำงานแรกๆ พยายามจะพูดคุยให้ได้ในฐานะลูกคนนึงแต่ทำไม่ได้ค่ะ เพราะแกไม่เคยทำงานเลยในชีวิต เสพยาจนสติเสีย พูดจาไม่รู้เรื่องไปหมดแล้วค่ะ
สรุปสั้นๆกับที่สิ่งแม่และญาติเค้าต้องการเลยก็คือ
- ส่งเงินให้ใช้อย่างน้อยๆเดือนละ5,000
- จ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ทุกเดือน (ทั้งที่จขกท.เองก็มีภาระของตัวเอง)
- ออกทุกค่าใช้จ่ายให้อย่างเช่นซ่อมบำรุงรถ (ที่ทุกวันนี้ก็ผ่อนไม่ไหว) จขกท.นั่งรถเมล์ BTS วินทุกวันค่ะ
- ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้เอารถไปผ่อนด้วยทั้งที่ตอนจะซื้อก็ห้ามแล้วเตือนแบ้วว่าจะไม่ไหว (ใช้ชื่อและเครดิตญาติอีกคนซื้อ)
- รีบซื้อบ้าน
- ซื้อโทรศัพท์ใหม่ตอนแรกของน้อง แต่น้องรอไม่ไหวเลยซื้อเองไปแล้ว จนล่าสุดของแม่ (จขกท.ใช้ip8 มือสองของแฟน)
- ให้ซื้อที่ของญาติพี่น้องแล้วปลูกบ้าน (อยากเอาชนะพี่น้องตัวเอง เพราะสมบัติตัวเองไม่เหลือแล้ว)
- และอื่นอื่นอื่นที่เกี่ยวกับเงิน
**สุดท้ายแล้ว ใครที่ผ่านเข้ามาอ่านได้จนถึงตรงนี้แล้วก็ขอขอบคุณมากๆนะคะ จขกท.ก็ไม่แน่ใจว่าจะตั้งคำถาม หรืออยากได้คำแนะนำอะไรเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะมีคนมองมุมต่างออกไปแล้วย้อนกลับมาด่าจขกท.รึเปล่าด้วย ยังไงก็ขอน้อมรับทุกอย่างไว้ตรงนี้นะคะ**
ส่วนใครที่เจอปัญหาคล้ายกันอยู่ ก็ขอให้รู้ไว้ว่าคุณและเราคือเพื่อนกันนะคะ ชีวิตเราคงมีทางออกที่ดีในสักวัน ขอให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุขให้ได้ในสักวันนะคะ